หนาวนี้ที่ดอยแม่สะลอง

จากสนามบินนานาชาติดอนเมือง เครื่องบินพาผมไปยังสนามบินแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และนั่งรถคุณพรพินิจ เจ้าของ “ไร่เกษตร ภูแพรวา” บนดอยแม่สะลอง ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง

บรรยากาศในการเดินทางขึ้นดอยที่สูงเหนือระดับทะเลหกร้อยกว่าเมตร ทำให้บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเย็น อากาศในรถเบนซ์ที่มารับเข้าไร่ยังอุ่นกว่า

ถึงโฮมสเตย์ภูแพรวา ผมก็ตื่นตะลึงกับบรรยากาศมุมระเบียงที่มองเห็นบรรยากาศด้านล่างที่ไม่อะไรมาบดบังความงดงาม ทั้งๆ ที่พระอาทิตย์ขึ้นไปนานแล้ว

มันเป็นบรรยากาศช่วงเวลาสิบนาฬิกากว่าๆ ที่สวยไปอีกแบบ พระอาทิตย์ไล่เมฆหมอกที่ปกคลุมภูเขาและหมู่บ้านชาวเขาแล้ว แต่ก็ยังมีหมอกบางๆ ปกคลุมไปทั่ว

อาหารมื้อแรกริมระเบียงกับบรรยากาศสดชื่น มีแต่ผักปลอดสารพิษที่ปลูกในไร่เกษตรภูแพรวาทั้งสิ้น หาเนื้อสัตว์แทบไม่มี นอกจากแคบหมูกับน้ำพริกอ่อง แกงยอดตำลึง และผัดผักรวมที่อร่อยมากๆ เนื่องจากผมตั้งใจจะมาพักที่นี่ถึงห้าวัน เพื่อชาร์จแบตที่ผมไม่ค่อยมีความเป็นตัวของตัวเองมาห้าปีแล้ว สมใจนึกนักในการมาครั้งนี้

อากาศหนาวเย็น เพราะขนาดพื้นราบยังสิบแปดองศา บนดอยแม่สะลองเป็นเลขตัวเดียว จัดแจงนำเสื้อกันหนาวมาสวมทับอีกชั้นก่อนเข้าห้องพัก อุณหภูมิในห้องไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศเลย เพราะทุกห้องมีระเบียงส่วนตัวยื่นไปชมธรรมชาติได้ และมีลมเย็นพัดผ่านมาตลอดเวลา จนบางครั้งต้องหลบเข้ามาในห้อง

ผมเริ่มเก็บเกี่ยวภาพโดยรอบบริเวณ ซึ่งต้องนำมาลงนิตยสารเครือกรังด์ปรีซ์กรุ๊ป และนำออกรายการทีวี “เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก” ด้วย จึงต้องสะสมรูปมากหน่อย

ผมตั้งใจพักที่นี่ถึงห้าวันสี่คืน สมใจนึกผมแล้ว บรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน พระอาทิตย์จะถูกเมฆบดบังบ้าง จะโผล่มาให้เห็นเหมือนไข่แดง ขึ้นมาไล่เมฆหมอกที่ต้องยอมแพ้ในช่วงกลางวัน แต่พอเริ่มค่ำ พระอาทิตย์ก็ถูกไล่พ้นไป ความเยือกเย็น น้ำค้าง หมอก เข้ามาแทนที่

ช่วงเย็นกับอาหารที่คุณพรพินิจนำมาให้กิน เป็นอาหารที่เจ้าของโฮมสเตย์เข้าครัวเอง เพื่อให้อร่อยถูกใจผม ซึ่งอยู่เมืองกรุงมีแต่อาหารจากเซเว่นฯบ้าง จากร้านอาหารตามสั่งบ้าง ฉะนั้นอาหารที่ภูแพรวาจึงทำให้ผมไม่ค่อยอยากกินอาหารที่มีแต่ผัก ยิ่งคุณพรพินิจเห็นยาถุงใหญ่ที่ผมกินตามหมอสั่งก็ตกใจ บอกว่ากินผักและก็กินยาได้

ช่วงค่ำดาวพราวตาระยิบระยับ เห็นแสงไฟจากชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ภูเขาที่ทอดตัวสลับซับซ้อน โดยมีแสงจันทร์ส่องมา มันเป็นสวรรค์บนดินชัดๆ ผมพยายามใช้ซูมหกสิบเอ็ดดึงภาพเข้ามาซึ่งอยู่ไกลสุดสายตา จึงได้ภาพอีกลักษณะหนึ่ง

เช้ารุ่งขึ้นผมตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพราะท้องฟ้าเป็นสีแดงเพลิง ทั้งๆ ที่พระอาทิตย์ยังอ้อยอิ่งไม่โผล่สักที เตรียมอุปกรณ์ขึ้นไปบนดาดฟ้าที่มีเทอเรซกว้างสำหรับจัดงานเลี้ยง ได้สัมผัสบรรยากาศชื่นมื่นเกินบรรยาย

พระอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ให้เห็นเป็นไข่ดาว ไม่เหมือนเมื่อวานที่เมฆบดบัง ความงามต่างกันไป หุบเขาที่มีหมอกแทรกอยู่เริ่มเคลื่อนไหวเพราะมีลมโชยมาเป็นระยะ ชัตเตอร์ทำงานตลอดเวลา

อาหารเช้าอีกมื้อที่ยังมีเมนูผักอีกแล้ว แต่แคบหมูกับน้ำพริกหนุ่มยังเป็นพระเอก เสียงแกะวิ่งมาจากฟาร์มดังตลอดเวลา วันนี้จะถ่ายภาพบริเวณที่มีดอกไม้เต็มไปหมด รวมไปถึงยอดไม้ที่ไกวแกว่งจากสายลม

ช่วงกลางวันมองดูธรรมชาติในสถานที่เดียวกัน ภูเขาสลับซับซ้อนก็สวยไปอีกแบบหนึ่ง  จนค่ำพระอาทิตย์ตกอีกฝั่งของภูแพรวา ตอนต่อไปเราจะมาสนุกกับการเดินทางไปแม่สายและเชียงแสนกันนะครับ

 

 

 

เรื่อง/ภาพ : อ.อาทร จุลโลบล

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save