หลังจากเช้าวันศุกร์ที่ 19 เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมเดินทางถึงเชียงรายพร้อมกับข่าวที่ไม่สู้ดีนัก หลังฟังข่าวพยากรณ์อากาศบอกว่า วันนี้พายุเตี้ยนหมู่จะเข้าถล่มพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 19-20 ส.ค. 2559 และวันนี้ก็เป็นวันแรกเสียด้วยที่จะเจอกับพายุฝน แต่เช้านี้อากาศก็ยังสดใส อากาศดี แสงแดดอ่อนเริ่มโผล่พ้นขอบฟ้า แม้ไม่เจิดจ้าแต่ก็ไม่มีเค้าว่าฝนจะตกตามคำพยากรณ์
เป็นข่าวไม่สู้ดีเท่าไรนัก โดยเฉพาะการเดินทางขึ้นยอดดอยสูงระดับ 1,000 กว่าเมตร ลำพังช่วงปกติคงไม่กระไรนัก แต่ความแคบ ลาดชัน ลัดเลาะไปตามไหล่เขา ถ้าเจอฝนจะลื่นอย่างมหาวายร้าย ถือว่าอันตรายมากจะพลาดพลั้งหรือเผลอเรอไม่ได้แม้แต่น้อย นี่ยังไม่รวมไปถึงการตั้งเต็นท์พักแรม แม้ได้บรรยากาศความเป็นธรรมชาติก็จริง แต่ความยากลำบากก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ครั้งนี้ผมจะเดินทางร่วมกับชมรม 4×4 เชียงราย แอ็ดเวนเจอร์ คลับ โดยมีเพื่อนเก่าแก่ที่มักคุ้นกันมายาวนานกว่า 15 ปี อย่าง ฐานพัทธ์ สุรัตตะนันทกุล ประธานชมรมฯ และศิริเดช ไกลถิ่น รวมทั้ง ฐานพัทธ์ อัครชัยพันธุ์ ซึ่งจะพาเดินทางขึ้นไปยังดอยช้าง ดอยวาวี ไปนอนกางเต็นท์พักแรมที่ดอยกาดผี สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงราย ก่อนจะขับเลาะแม่น้ำกกเป็นวงกลมมาออกที่บ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ เส้นทางมีทั้งแบบออฟโรดกับออนโรด เป็นเส้นทางที่ว่ากันว่า สมบูรณ์แบบและสวยงามมากที่สุดอีกเส้นทางหนึ่งของเชียงรายและภาคเหนือ
และแล้วฝนก็ตกกระหน่ำราวกับฟ้ารั่วในช่วงเย็น ลากยาวจนถึงเช้าวันเสาร์ แถมไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ หนักบ้างเบาบ้างสลับกันตลอด แต่อุปสรรคแค่นี้ ก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจของสมาชิกชมรมแม้แต่น้อย แถมมีรถเข้าร่วมมากถึง 18 คัน ออกเดินทางฝ่าสายฝนจากเชียงรายมุ่งหน้าสู่เด่นห้า-ดงมะดะ ซึ่งก็คือ เดินทางผ่านสิงห์ปาร์ค ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร ก่อนเลี้ยวขวาไปยังบ้านห้วยส้านพลับพลา ข้ามสปริงเวย์ของอ่างเก็บน้ำห้วยส้าน ซึ่งจากจุดนี้มีเส้นทางให้เลือกอยู่ 3 เส้นทาง ทางแรกคือ ขับไปตามทางคอนกรีตผ่านป่าสนทะลุดอยช้าง เป็นเส้นทางสายบน ส่วนเส้นทางสายกลางเป็นทางออฟโรดเบาๆ ซึ่งทางนิตยสารออฟโรดเคยพาสมาชิก Toyota Off Road Training มาท่องเที่ยวแล้วครั้งหนึ่ง โดยเลี้ยวขวาเข้าป่าสน แวะชมดอกซากุระบานและไร่กาแฟของดอยช้างทะลุออกดอยช้างเหมือนกัน
แต่ครั้งนี้เราเลือกเส้นทางออฟโรดสายล่าง ที่มุ่งตรงไปยังบ้านมอญ ต.ห้วยชมภู เป็นทางดินลื่นๆ แต่ก็ไม่ยากเท่าไร ออกไปทางน่าหวาดเสียวมากกว่า เพราะซ้ายก็เหว ขวาก็เหว ขึ้นๆ ลงๆ ไปตามไหล่เขาที่สูงชันของหุบเขากาแฟอราปิก้า เส้นทางไม่ได้สร้างปัญหา แต่ที่เสียเวลาก็คือ เราหลงติดอยู่ในเส้นทางใยแมงมุมอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งเที่ยงวันก็ฝ่าสายฝนและสายหมอกหนาวทะลุออกมาสู่บ้านไทยพัฒนา เราพร้อมแวะทานอาหารกลางวันกันที่นั่นก่อนเดินทางต่อไปทานกาแฟที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่ราบสูงดอยช้าง ห่างจากบ้านไทยพัฒนาประมาณ 8 กิโลเมตร
จากดอยช้างที่หมายถัดไปนั่นก็คือ ดอยวาวีและดอยกาดผีหรือบางคนก็เรียกภูนมสาว โดยใช้เส้นทางไปบ้านห้วยไคร้ เป็นทางราดยางตลอด ทะลุออกไปชนเส้นทางแม่สรวย – อ.แม่จัน (ทล.1089) จากนั้นก็ใช้เวลาเดินทางต่ออีกราวชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงบ้านวาวี เราจอดแวะซื้อข้าวของที่จำเป็น และออกเดินทางกันต่อ
เพียงชั่วอึดใจเดียวทั้งหมดก็เดินทางมาถึงยังปากทางเข้าสู่วนอุทยานดอยกาดผี ในพื้นที่ของบ้านห้วยชมภู โดยใช้เส้นทางเดียวกับทางไปโรงเรียนปางกิ่วศุภสิทธิ์นั่นเอง แต่ดอยกาดผีจะเลยไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร โดยช่วงหนึ่งกิโลเมตรสุดท้ายจะเป็นทางขึ้นเขาสูงชัน มีทั้งบ่อโคลนดักอยู่เป็นช่วงๆ และค่อนข้างลื่นพอสมควร แต่ก็ไม่ยากเท่าไรขับแบบสบายๆ ไม่กี่นาทีก็ถึงยอดดอยกาดผี พร้อมๆ กับฝนที่หยุดตกพอดี กระนั้นหลังฝนหยุดก็ถูกแทนที่ด้วยสายหมอกและลมหนาว
ความเหนื่อยล้าจากการไกลกว่า 100 กิโลเมตร ดูเหมือนจะหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้มายืนอยู่บนสันดอยแห่งนี้ อารมณ์ดูผ่อนคลาย ทุกคนปล่อยให้สายลมหนาวไหลเคลื่อนผ่านร่างกายไปแบบช้าๆ ตักตวงบรรยากาศแห่งความงดงามราวกับสวรรค์ปั้นแต่งกันอย่างเต็มที่ เป็นความโชคดีของพวกเราทุกคน นั่นเพราะก่อนพลบค่ำฟ้าเริ่มเปิด ทิวทัศน์รอบด้านเด่นชัดขึ้น หมอกขาวเริ่มจับตัวหยอกล้อกับขุนเขา ครั้นเมื่อต้องสายลมก็ลอยละล่องขึ้นเหนือหุบเขา เกิดเป็นระบำหมอกดูเพลินตาดีจริงๆ ยิ่งดึกอากาศยิ่งเย็น หมู่ดาวน้อยใหญ่เริ่มทอแสงระยิบระยับเต็มฟากฟ้า ผมได้แต่ภาวนาว่าพรุ่งนี้ ขอให้ฟ้าเปิดฝนอย่าได้เทสำทับลงมาอีกเลย
ดอยกาดผี (ภูนมสาว) ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ลาวฝั่งซ้ายและแม่กกฝั่งขวา อยู่ในความดูแลของสำนักงานบริหารป่าที่ 15 หลายคนเข้าใจว่าดอยแห่งนี้อยู่ใน อ.แม่สรวย ที่จริงตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ต.ห้วยชมภู คาบเกี่ยวกับ ต.วาวี อ.เมืองเชียงราย ติดต่อกับ อ.แม่อายและ อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 6,250 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นวนอุทยานดอยกาดผี เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2549 ยอดดอยกาดผีสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,250 กว่าเมตร ปกติแล้วทะเลหมอกทั่วๆ ไป เราจะดูได้เพียง 180 องศา แต่ที่ดอยกาดผีเป็นเพียงไม่กี่แห่งในเมืองไทยที่สามารถดูได้ถึง 360 องศา เป็นแหล่งชมทะเลหมอกที่สวยงามและแปลกตามากที่สุดบนเทือกเขาดอยวาวีและเชียงราย และมุมที่สวยงามมากที่สุดอยู่บริเวณลานกางเต็นท์ สามารถมองเห็นทะเลภูเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา และที่สำคัญ เราสามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกในที่เดียวกัน เจ๋งมากๆ…
ส่วนชื่อของดอยกาดผีนั้น ก็มาจากภาษาพื้นเมืองที่มีตำนานเล่าต่อๆ กันมาว่า ที่นี่เป็นจุดค้าขายของบรรดาผี รวมทั้งสันดอยแห่งนี้ มีความสะอาดตลอดทั้งปี ราวกับมีคนมาคอยปัดกวาดทุกวัน ก็เลยเรียกกันว่า ดอยกาดผีนั่นเอง และเคยเป็นที่ทำมาหากินของชนกลุ่มน้อยเผ่าเมียน(เย้า)
เช้าตรู่วันอาทิตย์เป็นไปตามที่คาดเอาไว้ ฟ้าเป็นใจค่อยๆ เผยให้เห็นแสงแรกที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวพ้นขอบฟ้ามาทีละน้อย แสงทองส่องประกายเจิดจ้าทางทาบสายหมอกจนกลายเป็นสีทองเหลืองอร่ามไปทั้งคุ้งเขา แต่น่าเสียดายที่ลมค่อนข้างแรงไปนิด ก่อนสายทะเลหมอกก็ค่อยๆ วายหายไปทีละน้อย
หลังทานอาหารเช้า และทุกคนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันงดงามของดอยกาดผีแล้ว ก็โปกมือร่ำลาจุดชมวิว 360 องศาแห่งนี้ โดยเลือกใช้เส้นทางบ้านกกน้อย แทนทางไปด้านเส้นทางมหาโหดบ้านผาลั้ง เนื่องจากถูกดินถล่มหลายจุด แต่เส้นทางบ้านกกน้อยก็ใช่ว่าจะง่ายเสียทีเดียว มีอุปสรรคหลากหลายให้ได้ลองกำลังหลายจุด ทั้งลุยน้ำข้ามห้วยกกน้อย ข้ามร่องลึกและบ่อโคลน ทางแคบ รวมทั้งบางช่วงค่อนข้างชันและลื่นอย่างวายร้าย จนกระทั่งบ่ายแก่ๆ ก็ทะลุสู่ดอยฮาง ก็ถึงช่วงของการขับขนานไปกับแม่น้ำกก ถึงบ้านห้วยหมากเลี่ยม ผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำน้ำกก และบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ รวมระยะทางคร่าวๆ ประมาณ 30 กว่ากิโลเมตร ถือเป็นการจบทริปอย่างสมบูรณ์แบบ
การเดินทาง : สู่ดอยกาดผี
เส้นทางที่ 1 จาก จ.เชียงราย – อ.แม่สรวย – ต.วาวี จนถึงยอดดอยกาดผี ระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จาก จ.เชียงราย – ถ.แม่จัน-ท่าตอน ถึงอนามัยบ้านท่ามะแกงเลี้ยวซ้ายขึ้นไป ระยะทางรวมประมาณ 100 กิโลเมตรเช่นกัน
เส้นทางที่ 3 สำหรับรถออฟโรด คือ จ.เชียงราย-บ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ (ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร) จากนั้นเดินทางสู่บ้านแคววัวดำ-บ้านผาเคียว(อาข่า)-บ้านผาลั้ง-บ้านแสนต่อ-บ้านกกน้อย-ดอยกาดผี ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร (จากผาเสริฐ)
สิ่งอำนวยความสะดวก
ดอยกาดผีถือว่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ยังไม่มีบ้านพัก ไม่มีไฟฟ้าให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แต่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำจำนวน 6 ห้อง เอาไว้รองรับ บริเวณลานกางเต็นท์ ดังนั้นใครที่จะเดินทางขึ้นไปพักผ่อน ต้องนำเต็นท์ เครื่องนอน อุปกรณ์ให้แสงสว่าง อาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปเอง
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.