เจาะเทคโนโลยีดีเซล 2.4T New GWM Tank 300 Diesel ทรงพลังและคุ้มค่า

ภายในงาน GWM DIESEL TECH NIGHT ทีมงาน Off Road Magazine ได้มีโอกาสพูดคุยกับ มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่ ที่บินมาร่วมงานในวันนั้นด้วย ประเด็นส่วนใหญ่เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่อยู่ในเครื่องยนต์ดีเซลเจเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งต้องยอมรับว่ากว่าจะออกมาเป็นเครื่องยนต์รุ่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องของการออกแบบ การทดสอบ ไปถึงเรื่องของการบริหารต้นทุน ที่ต้องเคาะออกมาให้เหมาะกับผลิตภัณฑ์มากที่สุด อย่างเช่น เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่นี้ ติดตั้งระบบคอมมอนเรลแรงดันสูง ระดับ 2,000 บาร์ และหลายคนมีคำถามว่า ทำไมทำมา 2,000 บาร์ ทั้งที่รถญี่ปุ่นบางรุ่นสามารถทำไปถึง 2,500 บาร์

คำตอบคือ GWM สามารถพัฒนาให้ไปถึง 2,500 หรือ 3,000 บาร์ ก็ได้…แต่คำถามคือ จะทำให้แรงดันสูงไปขนาดนั้นเพื่ออะไร เพราะรถแต่ละประเภทใช้งานต่างกัน รวมทั้งต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้นย่อมทำให้ต้นทุนราคาของรถนั้นสูงขึ้นไปด้วย จึงจำเป็นต้องหาความเหมาะสมที่ให้ความสมดุลที่สุดในหลายด้าน New GWM TANK 300 Diesel รุ่นนี้ถึงใช้แรงดันที่ 2,000 บาร์ ซึ่งตอบโจทย์การใช้งาน และมีราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

การพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM

GWM มีการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลมานานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่หนึ่งในหัวใจสำคัญคือการจัดตั้งห้องปฏิบัติการด้านเครื่องยนต์แบบครบวงจร ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2,500 ล้านบาท ห้องแล็บเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแค่อุปกรณ์ทันสมัย แต่ยังเปี่ยมด้วยรายละเอียดที่สะท้อนความใส่ใจ ทั้งในด้านความแม่นยำของอุปกรณ์ทดสอบ ความเข้มงวดของกระบวนการ และการออกแบบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการวิจัยขั้นสูง

ปัจจุบัน GWM มีศักยภาพในการพัฒนาเครื่องยนต์ในระดับแมทริกซ์ครอบคลุมรถยนต์ GWM ทุกรุ่น โดยมี 6 แพลตฟอร์มหลัก รวมถึงมีเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินรวมกว่า 50 รุ่น ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ที่อยู่ในรถยนต์ NEW GWM TANK 300 DIESEL เพียงรุ่นเดียว GWM ได้ทุ่มเม็ดเงินการลงทุนไปแล้วกว่า 1 พันล้านบาท รวมทั้งความสำเร็จของเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์ GWM รุ่นอื่นๆ ที่ได้ถูกพิสูจน์และการันตีด้วยผู้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเกือบ 2 ล้านคนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ชิลี ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐเอมิเรตส์

ทดสอบความแกร่งของเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL

มีการทดสอบในทุกสภาพอากาศร้อน เนื่องจากประเทศไทยมีอากาศร้อนตลอดปี ทำให้ผู้ใช้รถกังวลเรื่องเครื่องยนต์ร้อนเกินไป GWM จึงพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใหม่ เพื่อรองรับสภาพอากาศร้อนโดยเฉพาะ และมีระบบจัดการความร้อน ด้วยการติดตั้งพัดลมระบายความร้อน ขนาด 850 วัตต์ (เทียบเท่า “เครื่องปรับอากาศพลังซูเปอร์”) มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ Off-Road Thermal Management Mode (ครั้งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์) ช่วยป้องกันความร้อนสะสม ลดการดรอปสมรรถนะของเครื่องยนต์ และเพิ่มความสามารถในการทำงานต่อเนื่อง มากขึ้นถึง 30% ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ มีเสถียรภาพในระยะยาว

และยังมีการทดสอบสมรรถนะเครื่องยนต์แบบเข้มข้ม ทั้ง Thermal Shock Test ทดสอบสภาวะช็อกจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูงถึง 300 ชั่วโมง, Full-Speed, Full-Load Test ทดสอบและจำลองการทำงานหนักต่อเนื่องที่รอบสูงสุดและโหลดเต็ม 500 ชั่วโมง, Alternating Load Test: ทดสอบความทนทานต่อโหลดสลับไปมา นาน 650 ชั่วโมง, Real-world Road & Climate Testing: ทดสอบบนถนน 76 รูปแบบทั่วโลก ครอบคลุมสภาพแวดล้อมสุดขั้วหลากหลายภูมิภาค ซึ่งมีระยะทางรวมการทดสอบมากถึง 6 ล้านกิโลเมตร เทียบเท่าการขับรถรอบโลก 150 รอบ นั่นจึงทำให้ GWM กล้าที่จะรับประกันเครื่องยนต์นานแบบไร้กังวลนานถึง 8 ปี หรือ 1,000,000 กิโลเมตร นั่นเอง

สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL: พลังเต็มสปีดตั้งแต่รอบต่ำ

สมรรถนะที่เป็นไฮไลท์คือ มีพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ (184 แรงม้า) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูง (รอบต่ำ) 260 นิวตันเมตร แรงบิดสูงสุดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500–2,500 รอบ/นาที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 11 วินาที ทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า ประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วยแรงบิดสูงตั้งแต่รอบต่ำ ติดตั้งระบบช่วงล่างแข็งแรง มั่นคง รองรับการขับขี่ที่สมบุกสมบัน

พร้อมทั้งติดตั้งระบบหล่อเย็นขั้นสูงทั้ง Transmission Oil Cooler ช่วยระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ และ Intercooler รักษาสมรรถนะในระยะยาว รองรับการขับใช้งานหนัก ทั้งการขับทางไกล หรือใช้เครื่องยนต์หนักต่อเนื่องโดยไม่ลดทอนพลังกำลัง อย่างการขับขึ้นทางลาดชันต่อเนื่อง

ในส่วนของเทอร์โบอัจฉริยะ มีการตอบสนองฉับไว ไม่มีหน่วงด้วยระบบ Smart Turbocharger มาพร้อม แอคทูเอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ตรวจจับรอบเครื่องยนต์และตอบสนองแบบ เรียลไทม์ เหยียบคันเร่งเบาหรือแรง ส่งแรงขับได้ทันที พร้อมแก้ปัญหา “เทอร์โบหน่วง” ที่มักพบในระบบเก่า และยังออกแบบระบบอากาศใหม่ ใบพัดเทอร์โบและช่องอากาศ ออกแบบใหม่ทั้งหมด เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศขึ้นประมาณ 20% โดยอากาศไหลเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้แม่นยำและสมบูรณ์ ช่วยให้การผสมเชื้อเพลิงมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลดปล่อยพลังได้เต็มที่ โดยเฉพาะในรอบต่ำที่มีแรงบิดเพิ่มขึ้นในรอบต่ำ แม้เพียง 1,000 รอบ/นาที สามารถให้แรงบิดสูงถึง 260 นิวตันเมตร

เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT): ขับมั่นใจ ทุกสภาพถนน

เสริมสมรรถนะให้จัดจ้านมากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) มีอัตราทดเกียร์ต่ำ และมีช่วงเกียร์กว้างถึง 8.843 ช่วยให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ตั้งแต่ความเร็ว 90 กม./ชม. ปรับการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับสภาพถนนและการขับขี่ ทำงานสอดคล้องกับเครื่องยนต์ ช่วยลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น สามารถขับลุยบนพื้นถนนลื่นได้อย่างมั่นใจ โดยทำงานร่วมกับแรงบิดสูงสุดจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T (480 นิวตันเมตร) เหมาะกับถนนลื่น เช่น พื้นเปียกในฤดูฝน พื้นทราย หรือดินนุ่ม และไม่ต้องเร่งคันเร่งแรง เนื่องด้วยเครื่องยนต์ส่งพลัง สม่ำเสมอไปยังล้อทั้ง 4

โดยภาพรวมถือว่าเป็นสมรรถนะที่ตอบสนองทุกจังหวะ ทั้งการเปลี่ยนเกียร์ ราบรื่น ไม่มีสะดุด ลดความรู้สึก “หน่วง” หรือ “เฉื่อย” ของรถ ทำให้การขับขี่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ไม่รู้สึกเหนื่อย แต่ยังควบคุมการขับขี่ให้ปลอดภัยได้มากขึ้น

เครื่องเงียบ แรงจัด ประหยัดจริง GWM ปฏิวัติเครื่องยนต์ดีเซลด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด

ด้วยเทคโนโลยีคอมมอนเรลเจเนอเรชันใหม่ ใช้ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิกส์ เสมือน “สมองอัจฉริยะ” ควบคุม จังหวะ / ปริมาณ / แรงดัน การฉีดอย่างแม่นยำ ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงาน เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาวะ มาพร้อมระบบคอมมอนเรลแรงดันสูง ระดับ 2,000 บาร์ ฉีดเชื้อเพลิงเป็นละอองละเอียดสูง ทำงานร่วมกับหัวฉีดแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็วสูง ที่ฉีดได้หลายครั้งต่อรอบ ส่งผลให้เชื้อเพลิงผสมกับอากาศได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นการเผาไหม้ที่สมบูรณ์

นอกจากนี้ ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเผาไหม้สมบูรณ์ ช่วยลดการปล่อยมลพิษทางไอเสีย เครื่องยนต์ทำงานเงียบขึ้น มีระบบปั๊มน้ำมันเครื่องแบบอัจฉริยะ (Variable Displacement Oil Pump) ช่วยปรับอัตราการไหลตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ เป็นการปรับการใช้พลังงานได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง ซึ่งเมื่อใช้ความเร็วต่ำ ปั๊มจะส่งน้ำมันเพียงพอเพื่อหล่อลื่น และเมื่อใช้ความเร็วสูง ปั๊มจะลดกำลังเพื่อลดการสูญเสียพลังงานนั้นเอง

แรงแต่เงียบเทียบเท่ารถหรู ด้วยนวัตกรรมระดับโลก! ผสานพลังเครื่องยนต์ดีเซลกับเทคโนโลยีความเงียบระดับพรีเมียม

เพื่อการเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่ดีกว่าที่เคยมีมา GWM ได้พัฒนาเทคโนโลยี NVH (Noise, Vibration, Harshness) ที่เน้นความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร GWM จึงได้พัฒนา “7 เทคนิคแห่งความเงียบ” ได้แก่

  • การออกแบบลดแรงสั่นสะเทือนของท่อเชื้อเพลิงแรงดันสูง (HighPressure Fuel Pipe Vibration Damping Design) ทิศทางและจุดยึดของท่อน้ำมันแรงดันสูงได้รับการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมและมั่นคงยิ่งขึ้น ช่วยลดเสียงสะท้อนและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการเปลี่ยนแรงดันของหัวฉีดและปั๊มเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ดีเซล เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลขณะขับขี่
  • วัสดุดูดซับเสียงรอบระบบเชื้อเพลิง (Passive Noise Reduction) GWM ใช้ฉนวนกันเสียงชั้นดีหุ้มบริเวณหัวฉีดและปั๊มเชื้อเพลิง เพื่อดูดซับเสียงที่เกิดจากการฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูง และลดเสียงคล้ายการกระแทกเบา ๆ ที่อาจได้ยินจากห้องโดยสาร ให้เสียงที่เงียบไม่รบกวนทั้งสมาชิกในบ้านและเพื่อนบ้านรอบข้าง
  • การออกแบบระบบไทม์มิ่งที่ปรับปรุงใหม่ (Optimized Timing System Design) GWM มีการออกแบบและปรับระบบไทม์มิ่งใหม่ทั้งสายพานและลูกรอกเพื่อลดเสียงรบกวนระหว่างทำงาน พร้อมติดตั้งฝาครอบเครื่องยนต์วัสดุผสม พลาสติกด้านบนช่วยยืดหยุ่น อะลูมิเนียมด้านล่างช่วยดูดซับเสียงสะท้อน โดยเฉพาะเสียงความถี่สูง เช่น ขณะขับในอุโมงค์หรือที่จอดรถใต้ดิน
  • เพลาลูกเบี้ยวแบบขนานพร้อมเฟืองพิเศษ ลดเสียงกระแทกของกลไกภายใน (Parallel Camshaft Coupling with AntiBacklash Gears) เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้กับ NEW GWM TANK 300 DIESEL ใช้เพลาขนานและเฟืองที่ออกแบบพิเศษ (Anti-Backlash Gears) เพื่อลดเสียงและแรงกระแทกภายใน จึงทำให้เสียงกลไกขณะเร่งเครื่องนุ่มนวลขึ้นกว่าเครื่องยนต์ดีเซลแบบทั่วไป
  • เพลาสมดุลแบบใหม่ ติดตั้งด้านท้ายเครื่องยนต์เพื่อลดแรงสะเทือนจากการหมุน (RearEnd Gear Drive for Balance Shaft) เครื่องยนต์ดีเซลมักมีแรงสั่นสะเทือนจากการหมุนของเพลาข้อเหวี่ยง ซึ่งอาจส่งไปถึงพวงมาลัยหรือพื้นรถ GWM แก้ปัญหานี้ด้วยการติดตั้งเฟืองเพลาสมดุล (Balance Shaft) ไว้ด้านท้ายของเพลาข้อเหวี่ยง เพื่อควบคุมแรงสั่นให้สมดุลมากที่สุด ทำให้พวงมาลัยนิ่งและจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเกร็งมือหรือขยับมือบ่อย ๆ
  • การออกแบบให้หลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือนร่วมกันของชิ้นส่วน (Component Modal Frequency Avoidance) NEW GWM TANK 300 DIESEL มีการออกแบบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้หลีกเลี่ยงความถี่สั่นสะเทือนซ้ำซ้อน ชิ้นส่วนอย่างเสื้อสูบ ฝาสูบ และข้อเหวี่ยงได้รับการออกแบบให้มีค่าความถี่ที่ต่างกัน เพื่อลดโอกาสการเกิดเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนที่เสริมกันจนเกิดเป็นเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เมื่อขับทางไกลต่อเนื่องเป็นชั่วโมง เสียงเครื่องยนต์จะคงที่ ไม่เกิดเสียงสั่นให้รู้สึกรำคาญหรือเวียนหัวได้
  • ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ภายใน (Internal ChainDriven Oil Pump) ใน NEW GWM TANK 300 DIESEL ระบบขับปั๊มน้ำมันเครื่องถูกออกแบบให้ใช้โซ่ภายในเครื่องยนต์แทนสายพาน และติดตั้งไว้ด้านล่างโดยจุ่มอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้ลดเสียงแหลมคล้ายเสียงนกหวีดที่มักได้ยินในห้องโดยสาร เมื่อเปิดกระจกขณะขับผ่านซอยเงียบ ๆ หรือจอดคุยกับเพื่อนบ้าน จะไม่รู้สึกถูกรบกวนจากเสียงเครื่องยนต์ ทำให้บรรยากาศภายในรถยังคงเงียบ สบาย

นอกจากนี้ GWM ยังลงทุนกว่า 150 ล้านบาทในประเทศจีน เพื่อสร้างห้องทดสอบเสียงแบบ 4 ล้อ และห้องกึ่งไร้เสียงสะท้อน (Half-Anechoic Chambers) รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลของ GWM ได้ผ่านการทดสอบ NVH อย่างครอบคลุมกว่า 10 รายการ ทั้งในระดับชิ้นส่วนและทั้งคัน การใช้ห้องทดสอบนี้ทำให้สามารถตรวจสอบความเงียบได้แบบรอบด้าน และทำให้ระดับความเงียบของรุ่นดีเซลใกล้เคียงกับรถเครื่องยนต์เบนซิน

เมื่อนั่งอยู่ภายใน NEW GWM TANK 300 DIESEL แม้จะวิ่งด้วยความเร็วถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังรู้สึกได้ถึงความสงบ ราวกับมีเพื่อนร่วมทางที่เงียบขรึมและสุขุม ขณะจอดนิ่งและเครื่องยังทำงาน ระดับเสียงอยู่ที่เพียง 41 เดซิเบล ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซินที่ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบ ถือเป็นการผสานระหว่างพลังแรงและความเงียบ ได้แบบสมดุลอย่างแท้จริง เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับความเงียบได้ดียิ่งขึ้น NEW GWM TANK 300 DIESEL ยังมีระบบดรัมทดสอบเสียงรบกวนสำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำหน้าที่เสมือนโค้ชที่เข้มงวด คอยจำลองสภาพถนนสุดขั้วต่างๆ อย่างแม่นยำ ขณะที่อุปกรณ์วิเคราะห์เสียงของ GWM เปรียบเสมือนวิศวกรเสียงระดับมืออาชีพ คอยจับคลื่นเสียงเล็กที่สุดในแต่ละพื้นผิวถนนและความเร็ว เพื่อปรับแต่งเสียงของตัวรถให้ลงตัวที่สุด ทำให้ NEW GWM TANK 300 ไม่เพียงทรงพลัง แต่ยังเงียบสงบดั่งห้องโดยสารระดับพรีเมียมได้นั่นเอง

ไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไม NEW GWM TANK 300 DIESEL ได้รับความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดสร้างเป็นคอมมูนิตี้สำหรับชาว TANK โดยเฉพาะในชื่อว่า TANKER CLUB ที่เป็นการเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในไทยอีกด้วย ซึ่ง TANKER CLUB จะดำเนินการโดยผู้ใช้จริงและทำเพื่อผู้ใช้จริงเท่านั้น โดย GWM (Thailand) จะทำหน้าที่เป็นเพียงผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำกิจกรรมของคลับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ผลิตภัณฑ์ การสนับสนุนการจัดกิจกรรม การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ หรือการเป็นสะพานเชื่อมสู่โอกาสในการร่วมกิจกรรมกับ TANKER CLUB ประเทศอื่น ๆ หรือการร่วมกิจกรรมระดับโลกของ GWM การก่อตั้งคอมมูนิตี้ TANKER CLUB นี้ ตั้งอยู่บนวัฒนธรรมและความเชื่อ รวมถึงจิตวิญญาณของผู้ใช้งาน GWM TANK หรือ TANKER SPIRIT ที่สะท้อนถึงความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบเหมือนใคร (Independent) เปี่ยมไปด้วยความรัก (Love) รักอิสระ (Freedom) รักการผจญภัย (adventurous) แอ็กทีฟและมีพลังเต็มเปี่ยมที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ (Active & Passionate) และที่สำคัญที่สุดคือมีจิตใจที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น (Good at Heart)

มิคาเล สกอตติ ผู้อำนวยการด้านระบบส่งกำลังและแพลตฟอร์มใหม่ GWM สำนักงานใหญ่

ในยุคที่มีตัวเลือกด้านขุมพลังที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ยังมี Hybrid, Plug-in Hybrid, EV, PHEV, REEV แต่ GWM ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล นั่นทำให้เห็นว่าสำหรับการขับเคลื่อนที่ต้องการพละกำลังสูง ต้องการแรงบิดที่มากพอต่อการบรรทุกและลุยในทุกเส้นทาง เครื่องยนต์ดีเซลยังคงตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ที่เหลือเป็นเรื่องของการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลให้สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น…มาติดตามกันต่อไปว่าเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลจาก GWM จะพัฒนาไปถึงขั้นไหน เพราะหลังจากที่คุยกับ มิคาเล สกอตติ ทำให้รู้ว่ายังมีไม้เด็ดที่เตรียมเอาไว้ ขึ้นอยู่กับว่าจะเหมาะสมกับการใช้งานมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง

 

 

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save