Denza N8L ฟูลไซซ์เอสยูวีระดับเรือธง ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด
ถึงแม้ Denza จะมี N9 รถเอสยูวีระดับเรือธงออกมาทำตลาดเมื่อปลายปี 2025 ที่ผ่านมาอยู่แล้ว แต่แบรนด์รถยนต์พรีเมียมจาก BYD รายนี้ก็ยังเตรียมที่จะส่ง N8L รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดระดับเรือธงอีกรุ่นออกมาทำตลาดเพิ่ม โดยมีการเผยแพร่ภาพภายนอกของรถออกมาแล้วพร้อมกับที่มีข้อมูลบางส่วนของรถออกมาจากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน
Denza N8L เป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีความยาว 5,200 มม. กว้าง 1,999 มม. สูง 1,820 มม. มีระยะฐานล้อยาว 3,075 มม. อยู่บนแพลตฟอร์ม e3 เหมือนกับ N9 รวมทั้งมากับภาษาการออกแบบล่าสุดของแบรนด์ โดยด้านหน้าของรถยังมีไฟ Daytime Running Light คู่แนวนอนทั้งสองฝั่งของรถเหมือนกับ N9 ด้วย ส่วนไฟหน้าของรถเป็นแนวตั้งอยู่ที่กันชนหน้าซึ่งมีดีไซน์แตกต่างจาก N9 ด้วยการมีช่องดักลมสี่เหลี่ยมคางหมูพร้อม Active Grille Shutter เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิก
ด้านข้างของรถเน้นพื้นผิวที่เรียบมีเส้น Waistline ยาวต่อเนื่องจากด้านหน้าถึงด้านหลัง พร้อมสร้างลักษณะของหลังคาที่ลอยตัวด้วยการมีเสา B, C และ D-Pillar สีดำเงา ในขณะที่ด้านหลังรถมีไฟท้ายเรียวยาวโดยมีโลโก้แบรนด์คั่นกลางระหว่างไฟท้ายทั้งสองฝั่ง พร้อมมีฝาท้ายที่เรียบเนื่องจากหลุมป้ายทะเบียนอยู่ที่กันชนหลัง นอกจากนี้รถเอสยูวีเรือธงยังมีออปชันติดตั้งโดรนกับรถซึ่งมีแพลคฟอร์มที่สามารถปล่อยให้โดรนจากผู้ผลิตหลักขึ้นบินและลงจอดได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว
แม้ยังไม่มีภาพห้องโดยสารของรถออกมา แต่ก็มีข้อมูลว่ารถมีณรปแบบเบาะ 6 ที่นั่ง โดยแถวที่สองเป็นเบาะแยกจากกันพร้อมที่พักขาปรับไฟฟ้า รวมไปถึงมีการทำงานปรับความอุ่นและระบายอากาศ นอกจากนี้ยังมีการคาดการว่ารถน่าจะมีจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 12.3 นิ้ว จอ Infotainment ขนาด 15.6 นิ้ว จอเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และตู้เย็นเหมือนกับ N9
นอกจากนี้รถยังมากับระบบช่วยขับ God’s Eye B ที่ใช้ Lidar บนหลังคาสำหรับการทำงานช่วยขับอัตโนมัติทั้งในเมืองและบนทางหลวง รวมทั้งมีระบบสั่งงานด้วยเสียง 4 โซนเพื่อตอบสนองต่อผู้โดยสารในตำแหน่งต่างๆ
ระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดของรถประกอบด้วยเครื่องยนต์ 2.0T และ 3 มอเตอร์ไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์มีกำลัง 204 แรงม้า มอเตอร์หน้ามีกำลัง 200 kW หรือ 268 แรงม้า ขณะที่แต่ละมอเตอร์หลังมีกำลัง 180 kW หรือ 241 แรงม้า แบตเตอรีของรถมีความจุ 46.99 kWh ให้ระยะเดินทางโดยใช้แต่ไฟฟ้าได้ถึง 170 กิโลเมตร สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถอยู่ที่ 6.95 ลิตร/100 กิโลเมตร เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จไฟเต็มความจุจะเดินทางได้กว่า 1,000 กิโลเมตร ส่วนการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีจาก 20-30 เปอร์เซ็นต์ใช้เวลา 30 นาที
รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดเรือธงรุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในอนาคตยังถูกระบุว่ามากับระบบช่วง DiSus-A ระบบควบคุมการเลี้ยวที่ล้อหลัง การทำงาน Intelligent Crab Walking อย่างไรก็ตามยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.