Dawei or Tavoy ทวาย…ในวันฟ้าฉ่ำฝน บนเส้นทางแห่งความเปลี่ยนแปลง

ตัวเมืองทวายในปัจจุบัน

ทวาย หรือ ทะแว บ้างก็เรียกว่า ดะแว เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของพม่า ตรงข้ามกับ จ.กาญจนบุรี ห่างไปเพียง 147 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทวาย และที่สำคัญเป็นเมืองหลวงของเขตตะนาวศรี หรือ ตะหนิ่นต่าหยี่ และทวายมาโด่งดังเป็นพลุแตกและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในฐานะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญของพม่า หรือ Dawei Special Economic Zone ซึ่งจะมีการสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรม เปิดให้นักลงทุนทั่วโลกสร้างโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ

ณ วันนี้ งานก่อสร้างยังไม่ได้เริ่ม และไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อไร…

แต่นั่นมิใช่สาระสำคัญอะไร เพราะทริปนี้ทางนิตยสารออฟโรดของเราจะพาทุกท่านร่วมผจญภัยในการฝ่าสายฝนไปเที่ยวทวาย ก่อนที่ทวายจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตข้างหน้า

ทวายเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา มีประชากรราว 140,000 คน หลากหลายชาติพันธุ์ ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาพม่าสำเนียงใต้ แต่คนทวายไม่น้อยเลยที่สามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจน เพราะหลายคนเคยมาทำงานและเรียนหนังสือในประเทศไทย ซึ่งถ้าย้อนหลังไปในอดีต ทวายนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรมอญและสูญเสียความเป็นชาติในยุคพระเจ้าอลองพญาแห่งราชวงค์คอนวอง คำว่า ทวายฝ่ายไทยสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า ‘ท่าหวาย’ เป็นถิ่นขนส่งหวายข้ามทะเลมา ส่วนคนพม่ากลับเรียกว่า ‘ทะแว’ หรือ ‘ดะแว’ หมายถึง ผู้ซื้อมีด คนพม่าว่าชาวทวายเป็นชาวพม่ามาจากรัฐยะไข่ เดินทางข้ามทะเลมาซื้อมีดแถบตะนาวศรี ประชากรทวายส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์พม่า กลุ่มถัดมาคือ มอญและกะเหรี่ยง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มชาวเล(มอแกน) หรือซาโลน อาศัยอยู่ตามแนวทะเลอันดามัน

อาคารสไตล์โคโลเนียล (ยุคอาณานิคมอังกฤษ) แต่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ทำการรัฐและโรงแรม

ตึกทันสมัยที่ทำการของรัฐ 

โรงพยาบาลขนาดใหญ่และทันสมัย ใจกลางเมืองทวาย

ทวายเคยเป็นของเมืองไทยมาตั้งแต่ในอดีต และมีความรุ่งเรืองค่อนข้างมาก ปัจจุบันยังคงทิ้งร่องรอยเชื่อมโยงมาจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ปากแม่น้ำทวาย รัฐตะนาวศรี หรือ Tanintharyi (Tenasserim) Division ที่เป็นที่รู้จักจากโลกภายนอก ในปี ค.ศ.1989 ประกอบด้วย 3 เมือง คือ ทวาย มะริด หรือ มเยก (Myeik) ในภาษาพม่า และเกาะสอง หรือ ก๊อตาวน์ (Kawthaung) โดยมีทวายเป็นเมืองเอก เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทั้งก๊าซ แร่ธาตุ อัญมณี ทรัพยากรทางทะเล แหล่งเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ และแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม

การเดินทางไปเที่ยวทวายสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปปัจจุบัน ไม่ค่อยยุ่งยากนัก ปัจจุบันมี Package Tour ให้เลือกมากมายราคาก็แตกต่างต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลา โรงแรมที่พัก แต่โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่คนละประมาณ 8,000-9,000 บาท หรือถ้าจะเช่าเหมารถตู้ก็ได้เช่นกัน ก็ตกวันละประมาณ 8,000 บาท นอกจากนี้ยังมีรถตู้วิ่งให้บริการระหว่างด่านบ้านพุน้ำร้อน ที่กาญจนบุรี–ทวายอยู่แล้ว เพียงแค่ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือ Temporary Border Pass โดยยื่นบัตรประชาชนที่ด่านบ้านพุน้ำร้อน อยู่ได้ 7 วัน เสียค่าธรรมเนียมฝั่งไทย 30 บาท และฝั่งพม่า 50 บาทเท่านั้น แต่หากเป็นชาวต่างชาติต้องใช้หนังสือเดินทางยื่นเป็นหลักฐาน แต่การจะขับรถเข้าไปท่องเที่ยว เช่น ประเทศอื่นๆ ที่มีอาณาเขตติดต่อกับไทยทั้ง ลาว เขมร มาเลเซีย เป็นต้น มีขั้นตอนที่ค่อนข้างจะยุ่งยากพอสมควร ต้องขอเป็นกรณีพิเศษ และที่สำคัญต้องเป็นรถมีทะเบียนพม่า หรือป้ายชั่วคราว เท่านั้น

นักท่องเที่่ยวสามารถยื่นทำเอกสารผ่านแดนชั่วคราวได้ที่หน้าด่านฯพุน้ำร้อน

ทะเบียนรถพม่า ที่ใช้กันในปัจจุยัน

บริเวณด่านชายแดนที่บ้านพุน้ำร้อน ฝั่งพม่า ที่เป็นจุดพักรถรับนักท่องเที่ยวและสินค้า Duty Free

ความสวยงามของเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังทวาย

จุดพักรถระหว่างทาง สามารถเข้าห้องน้ำและอาหารรองท้องได้

สำหรับการเดินทางครั้งนี้ของทีมงานจากสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย ณัฐนันท์ จันทร รองประธานสมาพันธ์ออฟโรดฯ อุไรวรรณ  นิลพลา เลขาธิการสมาพันธ์ออฟโรดฯ และทีมงานนิตยสารออฟโรด ที่นำทีมโดย สาธิต ยศสง่า บรรณาธิการบริหารนิตยสารออฟโรด พร้อมจำนวนสมาชิกทั้งหมด 25 ชีวิต กับรถจำนวน 6 คัน ต้องขอขอบคุณทาง นายวิสิษฎ์  พวงเพชร ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และได้กรุณาอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ พร้อมติดต่อผู้ประสานงานคอยช่วยเหลือตลอดการเดินทางทั้ง 3 วัน 2 คืน

 เราออกเดินทางจากด่านไทยในช่วงบ่าย เพราะค่ดการณ์กันว่าน่าจัถึงทวายในช่วงเย็น เนื่องจากระยะทางไม่ไกลเท่าไรนัก ประมาณ 142 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ช่วงแรกเป็นถนนลูกรังที่อัดบด อยู่ในความดูแลของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือกะเหรี่ยงเค เอ็นยู (KNU: The Karen National Union) และกองกำลังย่อยเคเอ็นแอลเอ (KNLA: Karen National Liberation Army) ในช่วงนี้ตลอดเส้นทางเป็นหลุมและเป็นบ่อมากมาย บางช่วงผ่านเทือกเขาสูงชัน ผ่านป่าเขาที่ยังสมบูรณ์เลาะขนานไปกับแม่น้ำตะนาวศรี แม้ว่าเส้นทางนี้ทาง บริษัท อิตาเลียนไทย ได้เข้ามาพัฒนาถนนและท่าเรือน้ำลึก แต่ยังไม่คืบหน้านัก อาจเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลชุดใหม่ของพม่า เส้นทางนี้จะผ่านด่านตม.ของทั้งกะเหรี่ยงและพม่า ราว 4-5 ด่าน

จอดชมวิวระหว่างเดินทางขึ้นมายังบริเวณจุดสูงสุดของเนินช้างคลาน

ในฤดูฝนตกชุกเช่นนี้ เส้นทางหลายช่วงถูกดินถล่ม

สภาพเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อตลอดเส้นทาง เล่นเอาอ่อนล้าไปตามๆ กัน

ข้ามสะพานแม่น้ำเมตต้าหรือเมตตา (Myitta) เข้าสู่เขตพื้นที่ดูแลของของพม่า

ฝนโปรยปรายลงมาเกือบตลอดการเดินทาง  กระทั่งช่วงเย็นๆ รถทั้ง 6 คันก็แล่นผ่านเข้าสู่ช่วงที่สองเป็นถนนลาดยางซึ่งมีความยาวประมาณ 60 กว่ากิโลเมตร เมื่อเราขับรถข้ามสะพานแม่น้ำเมตต้าหรือเมตตา (Myitta) ซึ่งแม่น้ำแห่งนี้จะไหลลงสู่แม่น้ำตะนาวศรี ก่อนปลายน้ำจะไหลลงสู่ทะเลอันดามันที่เมืองมะริด….เราขับผ่านจุดนี้แล้วก็จะเข้าสู่เขตพื้นที่ดูแลของของพม่า ถนนลาดยางเส้นเล็กๆ แห่งนี้นำเราไปจนถึงตัวเมืองทวาย และถนนที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอังกฤษปกครอง ที่ปลายสะพานเหล็กจะมีตัวเลข ค.ศ. 1915 กำกับไว้ตรงราวสะพานด้านหน้า และเป็นถนนที่นายพลอูอ่องซานและกลุ่มสามสิบวีรชน (Thirty Comrade) แห่งกองทัพเพื่อเอกราชพม่าหรือเรียกสั้นๆ ว่า B.I.A ใช้เป็นเส้นทางผ่านหลังจากกลับจากการฝึกที่เกาะไหหลำ และปัจจุบันยังพบเสาธงที่สร้างขึ้นโดยกองทัพ B.I.A ตรงทางเข้าหมู่บ้านต่องโตงโลงหรือหมู่บ้านภูเขาสามลูกที่อยู่ถัดมาจากบ้านเมตตาอยู่เช่นกัน

เดินทางถึงโรงแรมที่พักเอาเมื่อช่วงค่ำ

ทางเข้าโรงแรมจะมีเครื่อง X-Ray รักษาความปลอดภัยเต็มที่

ทวายเจอปัญหาไฟฟ้าตกตลอด ตามโรงแรมและบ้านต่างๆ จึงต้องมีเครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ ป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าเสียจากการกระชากของไฟ

เราเดินทางถึงทวายเอาเมื่อพลบค่ำ จากที่คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 4 ชั่วโมง แต่ฝนที่ตกลงมาตลอดทาง ส่งผลให้การเดินทางล่าช้าลงไปพอสมควร ใช้เวลาเดินทางกันจริงๆ เกือบ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว หลังเข้าพักที่โรงแรมและทานอาหารค่ำเสร็จจึงแยกย้ายกันพักผ่อนด้วยความเหนื่อยล้า พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

หลังรัฐบาลพม่าหรือเมียนม่าร์ เปิดประเทศมาระยะหนึ่ง เมืองทวายก็เปลี่ยนไปพอสมควรรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รถสกายแล็บเข้ามาแทนที่รถจักรยาน เกวียน และรถม้า บ้านทรงท้องถิ่นอายุ 80-100 ปี หลายหลังริมถนนใหญ่ถูกทิ้งร้าง บ้างรื้อทิ้งเปลี่ยนเป็นอาคารพาณิชย์ แต่ตามตรอกซอยยังมีให้เห็นมากมาย อาคารสไตล์โคโลเนียล (ยุคอาณานิคมอังกฤษ) แต่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ทำการรัฐและโรงแรม หลายสิ่งกำลังถูกเปลี่ยนถ่ายสู่โลกสมัยใหม่ มีโรงแรมใหม่ๆ ผุดขึ้นมากมาย มีห้างสรรพสินค้ากำลังก่อสร้างใกล้แม่น้ำทวาย และมีโครงการต่างๆ ที่รอก่อสร้างอยู่เต็มไปหมด

อุโมงค์ต้นตาล สวยงามตามธรรมชาติ ของถนนนอกเมือง

ห้างสรรพสินค้าทันสมัย เริ่มผุดขึ้นที่ทวาย

ชาวเมืองทวายยังคงยึดมั่นอยู่กับพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด

แวะไหว้พระขอพรที่ Shin Tauk Htein Pagoda

อนุสาวรีย์นายพลอูอ่องซาน หรือ อนุสาวรีย์กองทัพเอกราช

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองทวายนั้น ว่ากันตามจริงแล้ว อาจจะไม่โดดเด่นเช่นที่ย่างกุ้งหรือหลายๆ เมืองของพม่า หากว่าไม่นับถึงการเดินทางไปหาทานอาหารทะเลสดๆ โดยเฉพาะกุ้งล็อบสเตอร์อันขึ้นชื่อแล้ว ที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นวัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรมอันมีอัตลักษณ์เฉพาะ รวมไปท้องทะเลอันดามันอันสวยงาม ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวเมือง แต่เมื่อถูกผนวกรวมกันแล้ว ส่งผลให้ทวายเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ชวนค้นหาอย่างน่าประหลาด

ในเขตตัวเมืองนั้น สิ่งแรกที่เจอเมื่อเข้าสู่เมืองทวายคือ อนุสาวรีย์นายพลอูอ่องซาน หรือ อนุสาวรีย์กองทัพเอกราชระหว่างทางเราจะเห็นอาคารบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน ที่มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

ถัดมาก็เป็น วัดพระเจดีย์ ชเว ด่อง จา (Shwe Taung Sar Zedi) ซึ่งเป็นวัดเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวาย และเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพม่าอีกแห่งหนึ่ง ณ วัดแห่งนี้จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวพม่าที่นิยมมาไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเวลาตอนเย็น

วัดพระเจดีย์ ชเว ด่อง จา (Shwe Taung Sar Zedi) ซึ่งเป็นวัดเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทวาย

ตลาดเช้ากันนาเซ่ ซึ่งเป็นตลาดสดที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย มีสินค้า เช่นอาหารทะเลสด ผัก และผลไม้พื้นเมือง จำหน่ายมากมาย สัมผัสวิถีชีวิตชาวทวายอย่างใกล้ชิดและเก็บภาพบรรยากาศเมืองทวายยามเช้า ตลาดเช้าที่ทวายมีทั้งเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ หมู ปลา ผัก ผลไม้ ดอกไม้ ของแห้ง ฯลฯ ที่นี่เราจะได้เห็นปลาขนาดใหญ่หลายชนิดที่เราไม่รู้จักทั้งสด แห้ง และหมัก

ตลาดเซจี (Municiple Market) หรือตลาด 100 ปี เป็นตลาดใหญ่ตั้งแต่ยุคสมัยอาณานิคมอังกฤษ มีหลากหลายสินค้าให้เดินช็อปปิ้ง พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตของชาวทวาย และบรรยากาศของตลาดที่ยังคงความเป็นอดีตไว้อย่างมาก รอบๆตลาดมีการขายทองกันแทบทุกร้าน แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นทองแท้100เปอร์เซ็นต์หรือไม่ เพราะขายกันเป็นตู้ๆและยังมีผ้าลุนตยาที่เป็นผ้าพื้นเมืองของที่นี่ มีสีสันและลวดลายงดงาม

ตลาดเช้ากันนาเซ่ ซึ่งเป็นตลาดสดที่คึกคักไปด้วยผู้คนมากมาย มีสินค้า เช่นอาหารทะเลสด ผัก และผลไม้พื้นเมือง จำหน่ายมากมาย 

ตลาดเซจี (Municiple Market) หรือตลาด 100 ปี

แม่ชีน้อย หรือ ตีละฉี่ง ในทวาย 

ส่วนสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก และพวกเราก็ไม่พลาดในการเดินทางไปเที่ยวชมก็คือ วัดพระนอนวัดพระไสยาสถ์ชเวธาลยัง ดอมะ (Shwethalyaung Daw Mu) ซึ่งมีความยาวถึง 74 ม. สูง 21 ม. ซึ่งสร้างเสร็จใน ปี ค.ศ. 1931 มีการสร้างหลังคาคลุมองค์พระไว้ ที่นี่มีพระนอนขนาดใหญ่ ตาหวาน ขนตาสวย และปากแดงงดงามตามธรรมเนียมวัฒนธรรมของพม่า ที่นี่มีตู้เสี่ยงทายมาหยอดเหรียญ รอลุ้นดูผลว่าเราไปอยู่นรกสวรรค์ หรืออยู่โลกมนุษย์

วัดพระนอนวัดพระไสยาสถ์ชเวธาลยัง ดอมะ (Shwethalyaung Daw Mu) ซึ่งมีความยาวถึง 74 ม. สูง 21 ม.

โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย หลักกม 00 และนิคมอุตสาหกรรมทวาย และเส้นทาง คมนาคมเชื่อมระหว่างประเทศไทยกับสหภาพพม่า หากโครงการนี้แล้วเสร็จจริง จะเป็นประตูเศรษฐกิจ (Gate Way) แห่งใหม่ของโลกตะวันตกและตะวันออก เป็นศูนย์กลางระบบโลจิสติกส์ และการค้าขนาดใหญ่ของภูมิภาค เชื่อมโยงการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศในแถบทะเลจีนใต้ ผ่านทะเลอันดามัน ไปสู่ มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่สามารถส่งสินค้าทั้งไปและกลับทางน้ำ ผ่านไปสู่กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง, ทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ ช่วยพัฒนาการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เจริญเติบโตในระยะยาวต่อไป

ส่วนชายทะเลที่ขึ้นชื่อมากที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้น หาดเมาะมะกัน ชายหาดที่สวยงามและยังคงธรรมชาติแบบดั้งเดิม ทั้งยังเป็นที่นิยมของคนพม่าที่มาพักผ่อนกันที่นี่ เรามาช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ ที่สำคัญอาหารทะเลที่นี่รสชาตเดียวกับเมืองไทย และที่พลาดไม่ได้ก็คือ กุ้งมังกรที่นี่ตัวใหญ่มากๆ

นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ วัดเซียนตานโป่ว หรือวัดที่อยู่บนเขาสูง วัดเมาะละเมียว เป็นต้น ล้วนแล้วแต่น่าสนใจแทบทั้งสิ้น

ทวาย…ใกล้แค่เอื้อม มีโอกาสต้องเดินทางไปเที่ยวให้ได้สักครั้งหนึ่งนะครับ

จิตรกร  ถาวร เรื่อง/ภาพ

ความสวยงามของทะเลอันดามันที่หาดเมาะมะกัน

ใครมาทวายต้องไม่พลาดในการมาทานกุ้งมังกร จากทะเลน้ำลึกของทวาย

 

เก็บภาพเป็นที่ระลึกที่โครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย หลักกม 00 และนิคมอุตสาหกรรมทวาย

แคมป์ของอิตาเลียน-ไทย ที่บริเวณโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย หลักกม 00 

ของฝากจากทวาย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่บ้านเมตตา

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save