Chevrolet The Beast รถออฟโรดตัวล่าสุดจากแบรนด์สหรัฐฯ ใช้แชสซีของรุ่น Silverado ตัวกระบะสั้นและขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ LT4 แบบซูเปอร์ชาร์จ สามารถทำกำลังสูงสุด 650 แรงม้า และ “The Beast” ยังเป็นรถที่ทาง Chevrolet ทำออกมาให้มันมีสมรรถนะที่ดีที่สุดในกลุ่มรถประเภทนี้
“แนวคิด Chevy Beast ได้ยกความนิยมของรถปิคอัพออฟโรดสมรรถนะสูงไปสู่อีกระดับ” จิม แคมป์เบลล์ รองประธานฝ่ายสมรรถนะและมอเตอร์สปอร์ตของ GM U.S. กล่าว “เป็นวิสัยทัศน์สำหรับมิติใหม่ของสมรรถนะของ Chevrolet Performance ที่บุกเบิกในด้านประสิทธิภาพการทำงานและสนับสนุนการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับลูกค้าเฉพาะบุคคลมากว่า 50 ปี”
นักออกแบบของ Chevrolet จับโมเดลในค่ายมาพัฒนาต่อยอด ซึ่งได้เลือกรุ่น Silverado ตัวกระบะสั้นนำมาปรับแต่งแชสซีใหม่ให้เหมาะกับการวิ่งใช้งานในทุ่งทะเลทรายด้วยความเร็วสูง ด้วยเฟรมที่สั้นลงและโครงสร้างความปลอดภัยแบบท่อ 4130 โครโมลี่ที่ออกแบบเอง ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวเข้ากับเฟรม ทำให้ตัวรถมีความแข็งแกร่งทนทานเป็นอย่างมาก
การคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายบนทางวิบากนั้นเป็นแนวคิดในการเว็ทอัพระบบกันสะเทือนให้เหมาะสมกับเส้นทางออฟโรดสำหรับเดินทางระยะไกลที่สร้างขึ้นมาเพื่อรถคันนี้โดยเฉพาะ รวมถึงระบบกันสะเทือนหลังแบบห้าลิงค์ (มัลติลิงค์) และความกว้างของฐานล้อขนาด 91 นิ้ว ซึ่งช่วยให้ควบคุมรถได้นิ่งขึ้นและสามารถควบคุมรถได้ทุกสถานการณ์
“ไม่มีอะไรอื่นที่เหมือนกับ The Chevy Beast” เจฟฟ์ ทรูช ผู้จัดการโครงการ GM, Pace Car และ Specialty Show Vehicles กล่าว “มันให้ประสิทธิภาพและความสามารถมากมาย ซึ่งมันช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ธุรกันดาร — และมันเหมือนกับบินได้เมื่อวิ่งอยู่ในทะเลทราย”
เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ ขนาด 6.2 ลิตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ (10L90) 10 สปีด และส่งกำลังขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ ส่วนล้อแม็กเป็นของ Beadlock ขนาด 20 นิ้ว หุ้มด้วยยางออฟโรดขนาด 37 นิ้ว นอกจากนี้ยังได้รับการอัพเกรดด้วยระบบ Chevrolet Performance Big Brake
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.