รถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์ SUV ขนาดกลางอย่าง CAPTIVA มีพื้นฐานการกำเนิดที่เฉพาะและแตกต่างกว่าทางเลือกอื่นๆ กับสิ่งที่มาทีหลังย่อมเป็นสิ่งที่เข้ายุคกว่า CAPTIVA จึงต้องขยับปรับเปลี่ยนตัวเองให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบของเมืองมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นของมันก็ยังเป็นเรื่องของ SUV ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว……
เจาะเวลาหาอดีตกับการเปิดตัวรถยนต์แบบสปอร์ตเอนกประสงค์ CHEVROLET CAPTIVA สร้างกระแสความสนใจให้กับตลาดได้อย่างน่าสนใจในช่วงนั้น ด้วยการเป็นรถระดับบนที่ทางค่ายเปิดตัวออกมาในกลุ่มที่มีคู่แข่งหรือเจ้าตลาดซึ่งเป็นลูกผสม ทำให้การแสดงความเป็นสายพันธุ์รถเอนกประสงค์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่ ขับเคลื่อนรวมไปถึงการใช้งานที่หลากหลายไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่ทุกคนต้องการ CAPTIVA จึงเป็นรถที่น่าสนใจ และเป็นทางเลือกที่แตกต่างไปจากของที่มีอยู่
หลังจากที่ได้ทำตลาด ผ่านทั้งการปรับโฉมมาพอสมควร แต่สิ่งที่มีการพัฒนามาเฉพาะกับการส่งกำลังซึ่งรูปแบบเมือง โดยเฉพาะเมืองไทยนี่มันเป็นแบบเฉพาะตัวจริงๆ การออกแบบอัตราทดให้เหมาะสมในช่วงรอบต่ำไปจนถึงรอบกลาง นั่นคือประเด็นหลักที่เพิ่มเข้ามา
DESIGN…..ปรับมุมมองของคนเมือง
สัดส่วนของตัวรถยังเป็นสิ่งที่ไม่ผิดหูผิดตาไปมากนัก ลักษณะของโคมไฟหน้าแบบรวมโคม ที่สะบัดเส้นสายไปตามฝากระโปรง และใช้ประโยชน์จากโคมไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ ที่มีจุดเด่นในการรวมแสงที่เหมาะสม พร้อมด้วยฟังก์ชั่นการปรับระดับสูงต่ำได้จากภายใน พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (AUTOMATIC HEADLAMP)
ด้านล่างหน้าชุดไฟตัดหมอกทรงกลม ในพื้นที่สีดำล้อมกรอบด้วยวัสดุชุบโครมเล่นหางกับการออกแบบเพิ่มความทันสมัยให้กับพื้นที่สีดำทรงสปอร์ตนั้น ด้านล่างสุดพื้นที่ออกแบบมาเพื่อการสัมผัสกับชุดการ์ดติดรถกันกระแทกที่มาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพราะถึงมันจะเน้นการใช้งานในเมืองแต่ในเมื่อความสามารถมันมีอยู่ ก็ยังคงไม่ทิ้งข้อได้เปรียบตรงนั้นจึงต้องออกแบบชุดอุปกรณ์มาส่งเสริม
ที่ด้านข้างกับเอกลักษณ์ของการมีชุดไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ยังคงเป็นรูปแบบที่มีเอกลักษณ์และตัวกระจกออกแบบให้ลดการเกาะตัวของหยดน้ำมีประโยชน์ในการใช้งาน กับชุดบันไดข้างที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีขนาดและรูปลักษณ์เพรียวกว่า และเข้ารูปกับตัวรถมากกว่ารุ่นเดิม พร้อมทั้งด้านหลังกับชุดการ์ดป้องกันการกระแทกนั้น มีการออกแบบอุปกรณ์ปลายท่อไอเสียออกคู่ จากรูปทรงกลมเดิมให้เป็นรูปทรงแบบสี่เหลี่ยมคางหมู และชุดไฟท้ายที่เป็นแบบหลอด LED ตามสมัยนิยมซึ่งชุดไฟท้ายนี้มีรายละเอียดการแสดงแสง สี ที่แตกต่างแบบสี่เหลี่ยมมุมฉากในตัวโคมด้วย ในส่วนของด้านบนที่มีราวแร็คหลังคาโค้งรับกับตัวรถ ที่มีการออกแบบโค้งมนมาเป็นทุนเดิม แต่ก็มีประโยชน์ในตัวเองตามแบบฉบับ สิ่งที่สะดุดตาก่อนจากไปจากด้านท้ายและการดีไซน์ภายนอกก็คือ การติดตั้งชุดมัลติรีเฟล็กเตอร์มาให้ที่ด้านหลังช่วงล่าง ซึ่งนอกจากชุดไฟเบรกดวงที่สามที่อยู่ด้านบนแนวสปอยเลอร์แล้ว ด้านล่างก็มีชุดนี้ช่วยในเรื่องของความลอดภัย ไม่พลาดงานสุดท้ายกับด้านนอกชุดล้ออัลลอยลายใหม่ลายห้าก้านแบบใบพัดกังหันลม ซึ่งมีสองขนาดทั้ง 18 นิ้วในรุ่น LSX และ 19 นิ้วในรุ่น LTZ
จากภายนอกสู่ภายในตัวรถ ที่มีการเพิ่มเทคโนโลยีเข้า-ออกห้องโดยสารโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (PASSIVE ENTRY PASSIVE START) ระบบนี้เป็นรูปแบบของรถยนต์สมัยใหม่ที่เน้นการใช้งานที่ง่ายและไม่ต้องกังวลกับการจับกุญแจ และเมื่อเข้าสู่ภายในห้องโดยสารรูปแบบการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ใช้การบิดปุ่มสตาร์ทแตกต่างไปจากการกดปุ่มให้ความสะดวกแต่ยังมีอารมณ์ของการควบคุมหลงเหลืออยู่
คอนโซลกลางมีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ของชุดเครื่องเสียงติดรถยนต์และชุดระบบนำทางด้วยดาวเทียม ซึ่งเป็นสิ่งที่รถระดับต้องมีสำหรับการควบคุมเครื่องเสียงและระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติมีอยู่ในจุดของพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น และนอกจากสิ่งที่รถระดับนี้ต้องมีแล้วรถยนต์ประเภท SUV จะต้องมีก็คือ เทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่ซึ่งมีการออกแบบปุ่มกดสำหรับสั่งการทำงานเอาไว้ที่บริเวณด้านล่างหน้าจอนี้ด้วย นอกจากบริเวณนี้แล้ว สิ่งที่เป็นของประจำรถทั้งเบรกมือไฟฟ้าที่อยู่บริเวณคันเกียร์ด้านล่างหรือสวิทช์กดปรับโหมดการขับขี่แบบ ECO นั้นก็มีเพิ่มเติมมาให้ในรุ่นด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งเป็นที่นิยมในรถรุ่นใหม่อย่างระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย (BLUETOOTH) ทั้งช่องต่ออุปกรณ์ USB&AUX ก็มีมาที่สำคัญในจุดของลำโพงที่ติดตั้งชุดลำโพงที่แผงข้างประตูในจุดใหม่ซึ่งไม่ซ้ำใครยังเป็นสิ่งที่ปรับมา พร้อมทั้งสิ่งที่มีอยู่เดิมอย่างช่องเก็บของหลักที่คอนโซนหน้า คอนโซลกลางที่เป็นแบบมีฝาปิดรวมไปถึงช่องเก็บของเล็กๆ ในจุดที่ด้านบนชุดเครื่องเสียงก็เป็นแบบมีฝาปิดด้วย นอกจากนั้นที่เก็บแว่นตาไฟส่องแผนที่รวมไปถึงสิ่งที่ปรับปรุงมาใหม่ที่จะไม่พูดถึงเห็นจะไม่ได้ก็คือการติดตั้งระบบปรับอากาศแยกซ้ายขวาซึ่งมีการติดตั้งชุดควบคุมที่เหมาะสมขึ้นสามารถควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ ในแต่ละส่วนของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ที่สุดท้ายกับการใช้งานพื้นที่ห้องโดยสารที่เบาะนั่งแถวสองและแถวสามสามารถปรับพับเพิ่มพื้นที่สัมภาระได้นอกจากจะสามารถเป็นที่นั่งได้ถึง 7 ที่นั่งแล้วและนั่นก็เป็นแบบฉบับภายในของรถเอนกประสงค์
ENGINE&TRANSMISSION…..ปรับอัตราทดออกแบบการตอบสนอง
CAPTIVA มีเครื่องยนต์มาให้อยู่สองแบบตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นั่นก็คือเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ 4 จังหวะ หัวฉีดมัลติพ็อยท์ ความจุ 2,384 ซี.ซี. ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมป์ชาร์ฟ (DOHC) หรือเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่นาที ให้แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบต่อนาทีซึ่งเครื่องยนต์บล็อกนี้ได้รับการพัฒนาให้สามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้ด้วย
อีกบล็อกหนึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรลแบบ 4 สูบ 4 จังหวะ ความจุ 1,998 ซี.ซี. ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมป์ชาร์ฟ (DOHC) หรือเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่นาที ให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที
จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งมีการปรับเซ็ตให้เครื่องยนต์สร้างแรงบิดได้สูงในช่วงย่านความเร็วรอบที่ไม่ไกลจากเดิมมากนักซึ่งถือเป็นย่านความเร็วรอบที่ไม่สูง การแสดงออกในการขับขี่เครื่องยนต์ดีเซลจึงมีการตอบสนองที่เหมาะสมขึ้นจากเดิมที่แตกต่างจากเบนซินอยู่พอสมควรแล้วในระดับหนึ่ง
ทั้งสองบล็อกเครื่องยนต์ใช้การรับและถ่ายทอดกำลัง ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดที่พัฒนาขึ้นมาใหม่รหัส GF6 เจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งนอกจากจะมีการเพิ่มจังหวะเดินหน้าเกียร์มาแล้วเป็น 6 สปีดในเจเนอเรชั่นนี้ การหาค่าอัตราทดที่เหมาะสมกับการรูปแบบการใช้งานในเมืองที่ต้องมีการหยุด และออกตัวบ่อย อีกทั้งการทีจะต้องใช้แรงบิดอย่างคุ้มค่าในการทะยานไต่ความเร็วแบบฉับพลัน ในส่วนของอัตราทดของช่วงเกียร์ 3 ขึ้นไปจนถึงเกียร์ 5 จึงค่อนข้างชิดตามสเป็กข้อมูลทางเทคนิค เหมาะสมสำหรับการขับขี่ในเมือง และการมีอัตราทดเริ่มต้นของเกียร์ 1 ที่ค่อนข้างมาก เพื่อช่วยให้การออกตัวทำได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงเกียร์ 6 ที่เป็นอัตราทดแบบโอเวอร์ไดรฟ์ซึ่งต้องการให้เกิดการทำงานในรอบลอยตัวอย่างชัดเจน
ทั้งสองเครื่องยนต์จะมีความแตกต่างอัตราทดของชุดเฟืองท้ายคือ 3.870:1 ในเครื่องยนต์เบนชินและ 3.230 ในเครื่องยนต์ดีเซล
นอกจากการออกแบบอัตราทดใหม่ในชุดเกียร์ GF6 แล้วมันยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น DSC (DRIVER SHIFT CONTROL) หรือรูปแบบการเปลี่ยนเกียร์เองโดยผู้ขับขี่หรือ MANUAL MODE แต่ทั้งหมดก็ยังอยู่ในความควบคุมของ ECU เพื่อป้องกันความเสียหายจากความไม่สัมพันธ์กันของรอบเครื่องยนต์และจังหวะเกียร์
HANDLING&RIDE&BRAKE…..ความเป็นตัวเองของมันเมื่อยามขับขี่
ตัวรถของ CAPTIVA นั้นเป็นแบบโมโนค็อก (MONOCOQUE) ซึ่งจะแตกต่างไปจากตัวถังแบบที่วางอยู่บนแชสซีร์ (BODY ON FRAME) ซึ่งมันก็มีความเหมาะสมกันไปคนละแบบในการใช้งานแต่ถ้ามองลงไปที่ความทันสมัยและตรงจุดของการกำเนิดประเภทรถ CAPTIVA จะมีความตรงประเด็นกว่าในจุดนี้ เมื่อควบรวมกับการใช้ระบบช่วงล่างแบบอิสระก็ทำให้การบังคับควบคุมมันไม่หนีไปจากรถยนต์นั่ง
ด้านหน้าเป็นช่วงล่างแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ซึ่งได้มีเพิ่มเติมขนาดของเหล็กกันโคลงให้เหมาะสมมากขึ้นเพื่อช่วยรักษาการถ่ายเทน้ำหนักควบคุมอาการตัวรถซึ่งมันจะมีข้อได้เปรียบกว่าที่ด้านหน้าเป็นทุน แต่การออกแบบน้ำหนักพวงมาลัยที่มีความหนืดอยู่ในระดับพอสมควรนั้นมันก็ช่วยให้การบังคับควบคุมพวงมาลัยเป็นไปอย่างมีน้ำหนักตรงนี้มันก็เป็นส่วนช่วยให้มีการเรียนรู้ตัวรถได้มากขึ้น
ด้านหลังเป็นช่วงล่างแบบอิสระ 4 จุดยึด (MULTI LINK BEAM) พร้อมด้วยระบบ SELF-LEVELIZER คือการปรับระดับของตัวรถให้อยู่ในลักษณะสมดุลเหมาะสมกับการขับขี่ ในยามที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่ว่าจะเป็นสัมภาระหรือผู้โดยสารทำให้ด้านท้ายต่ำลง ระบบก็จะทำให้ด้านท้ายอยู่ในระดับที่เหมาะสม ในส่วนของระดับด้านหน้าและด้านท้ายที่เหมาะสมนั้นก็มีผลต่อการบังคับควบคุมและการทรงตัวของรถด้วยเช่นกัน
การตอบสนองในการยึดเกาะถนนจากพื้นฐานระบบช่วงล่างที่มีมาให้ ก็ดูจะเพียงพอแต่มันยังพกพาเอาระบบควบคุมการลื่นไถลมาด้วย นี่แหละคือสิ่งที่รถในระดับที่เรียกตัวเองว่า SUV ต้องมีใช้อย่างหนึ่ง ซึ่งในการขับขี่สามารถเลือกที่จะปิดระบบป้องกันการลื่นไถลนี้ได้ด้วยการกดปุ่ม ซึ่งระบบนี้จะเห็นบทบาทได้ชัดเจนในยามที่มีการส่งถ่ายแรงบิดจำนวนมากเกินจำเป็นหรือการเสียอาการในเส้นทางโค้ง
มุมมองที่เป็นจุดเด่นของรถยนต์ที่มีลักษณะแบบรถตรวจการณ์นั้น สิ่งที่เป็นทัศนวิสัยจากมุมมองที่ได้เปรียบก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เมื่อมีการออกแบบการตัดแสงของกระจกทุกบายรอบคันมาให้ทำให้การขับขี่มีรายละเอียดน่าสนใจเพิ่มขึ้น ตัวเบาะนั่งออกแบบปรับปรุงมาตามแนวทางการใช้งานดูว่าจะเน้นความสะดวกสบายมากกว่าความกระชับ แต่พื้นที่ของบานประตูที่ออกแบบมาให้ปกป้องสูงขึ้นมาก็ทำให้ตัวรถดูมีความมั่นคงในที่นั่งซึ่งค่อนข้างสะดวกนั้น
ความแพรวพราวของการออกแบบจุดต่างๆ ของคอนโซลทำให้การใช้งานเมื่อต้องอยู่ในห้องโดยสารดูจะไม่น่าสนใจเมื่อรวมกับของเล่นที่มีมาให้พร้อมการใช้งานรูปแบบของห้องโดยสารค่อนข้างจะเหมาะสมอยู่มากแล้วจากที่ว่ามาและพื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่ในรถประเภทนี้ แต่สุดท้ายการตอบสนองในลักษณะของช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ก็ยังมีความหนักแน่นเอาไว้เป็นคำตอบอยู่
การบังคับควบคุมที่เปลี่ยนแปลงจากชุดกำลังเครื่องยนต์และอัตราทดใหม่ที่ออกแบบมาทำให้ในช่วงรอบกลางซึ่งมันจะตอบสนองได้น่าสนใจมากขึ้นความฉลาดของเกียร์เมื่อมันถูกโปรแกรมให้เน้นการตอบสนองในรอบกลางค่อนข้างต่ำเพราะการขับขี่ในเมืองมันจะไปเน้นการใช้งานในช่วงนั้นทำให้ในบางครั้งถ้ามีการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของการจราจรสั้นยาวสลับกันไปมันก็มีสิ่งที่เขาเรียกว่าความพร้อมจะตอบสนองให้เห็นอยู่เสมอ
ระบบเบรกที่เป็นแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อพร้อมระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) นั้นช่วยให้การหยุดหรือชะลอรถเป็นสิ่งที่ทำได้สะดวก การจับตัวของเบรกมีการตอบสนองต่อการเบรกที่เหมาะสมระยะการทำงานแป้นเบรกไม่ตื้นหรือลึกเกินไปแต่ระยะของการวางตำแหน่งคันเร่งกับเบรกยังคงเป็นระยะที่ต้องยกเท้าอยู่บ้าง จะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับการปรับตัว
ถ้าจะถามถึงความทันอกทันใจ เครื่องยนต์ดีเซลจะยังคงเป็นผู้นำในการตอบสนองที่ทันอกทันใจกว่าเมื่อเทียบกันในรุ่นของมันเอง แต่ตรงนั้นเขาก็วางระดับรุ่นท็อปเอาไว้แล้วซึ่งนอกจากสิ่งที่เป็นการตอบสนองและการควบคุมการขับขี่ที่มีเอกลักษณ์แล้ว ภาพลักษณ์ของตัวรถมันยังมีความน่าสนใจอยู่มาก ทั้งทางด้านคุณสมบัติของตัวรถและสิ่งที่มันได้รับการปรับปรุงมา แต่ถ้ามองที่ความน่าสนใจในอีกมุมแล้ว รายละเอียดการใช้งานที่ได้จากความเหมาะสมในการใช้และประกอบวัสดุตัวรถรวมไปถึงความเงียบของห้องโดยสารจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองเห็นและคาดคิดถึงการใช้งานในระดับต่อๆ ไป…….
CHEVROLET CAPTIVA รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ขับเคลื่อนสี่ล้อ LTZ ราคา 1,719,000 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)
รายละเอียดเพิ่มเติม www.chevrolet.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย นิตยสาร ออฟโรด : www.grandprix.co.th/offroadmagazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ไดที่ www.grandprix.co.th
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.