BYD e2 รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กบนพื้นฐาน e-platform 3.0
BYD เปิดตัวรถไฟฟ้า e2 ออกมาปี 2019 เพื่อเน้นการทำตลาดในกลุ่มรถแท็กซีก่อนหยุดผลิตไปในปี 2022 เนื่องจากยอดขายที่ลดลง อย่างก็ตามล่าสุดรถแฮทช์แบ็กรุ่นนี้ถูกส่งออกมาทำตลาดอีกครั้งกับการออกแบบใหม่รวมทั้งความทันสมัยมากขึ้น
BYD e2 อยู่บนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 เหมือนที่อยู่ในรถ Ocean Series ของBYD โดยได้รับการออกแบบภายนอกใหม่มีกระจังหน้าแบบปิด กันชนหน้าที่มีลักษณะ X-shape ส่วนไฟหน้าแม้ยังคงมีรูปทรงเดียวกับรุ่นก่อนหน้าแต่มีแถบสีดำเชื่อมต่อไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่ด้านหลังของรถยังคงมีไฟท้ายเหมือนรุ่นก่อน ส่วนขนาดตัวรถมีความยาว 4,260 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,530 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,610 มม. ซึ่งตัวรถมีความยาวมากกว่ารุ่นก่อน 20 มม.
ภายในห้องโดยสารของรถแฮทช์แบ็กไฟฟ้ารุ่นใหม่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจนมีดีไซน์ใกล้เคียงกับรถรุ่นใหม่ร่วมค่าย โดยมีพวงมาลัย D-Shape เหมือนกับ Seal และ Dolphin ใน Ocean Series รวมทั้งคอนโซลกลางของรถที่คล้ายกับรถใน Ocean Series เช่นเดียวกัน ความทันสมัยขึ้นในห้องโดยสารของรถยังรวมไปถึงการมีจอตรงกลางขนาด 12.8 นิ้วที่ปรับหมุนหน้าจอเพื่อเป็นแนวนอนหรือแนวตั้งได้ ส่วนจอแสดงข้อมูลผู้ขับมีขนาด 8.8 นิ้ว นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับการ์ด NFC, กุญแจ บลูทูธ และ Heat Pump เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ด้านการขับเคลื่อนของรถใช้แบตเตอรี 43.2 kWh ให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า 95 แรงม้าเพื่อการเดินทางได้ถึง 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จตามมาตรฐาน CLTC โดย e2 ถูกผลิตออกมาให้เลือก 2 เกรด มีราคา 102,800 และ 109,800 หยวนหรือประมาณ 515,000 และ 551,000 บาท ซึ่งผู้ซื้อรถคันแรกจะได้รับการใช้งานอินเตอร์เน็ตฟรี 2 ปี และการรับประกันระบบขับเคลื่อนตลอดอายุการใช้งานรถเป็นของขวัญจากผู้ผลิตไปด้วย
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ https://offroadmag-thailand.grandprix.co.th/
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.