การคว่ำบาตร Toyota โผล่ขึ้นมาทันทีหลังจากนักสิ่งแวดล้อมบางคนอ้างว่าผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่กำลังพยายามขัดขวางความก้าวหน้าของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
นี่เป็นปัญหาสำคัญเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ กำลังพยายามลดการผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมหรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอยู่แล้ว ในทางกลับกันรัฐบาลสหรัฐฯ ยังวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่จะถึงนี้ในปี 2023 ซึ่งบริษัทที่กำลังปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ Tesla, Volkswagen, General Motors และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า Toyota มีเป้าหมายที่แตกต่างไปจากแบรนด์รถยนต์อื่นๆ
Toyota ยังกล่าวอีกว่าศัตรูที่แท้จริงคือคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่ใช่เครื่องยนต์สันดาป ฉะนั้นควรหันมาพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปให้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลง ดีกว่าจะมายกเลิกใช้เครื่องยนต์สันดาป นอกจากนี้ทาง Toyota ได้วิ่งเต้นคัดค้านการปฏิรูปที่ทางรัฐบาลในหลายประเทศได้หันมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
และในช่วงสมัย Donald Trump ที่ยังเป็นประธานาธิปดีสหรัฐฯ ยังสนับสนุนฝ่ายบริหารของ Trumph ในคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับกฏหมายใหม่ที่เกี่ยวกับมาตรฐานการปล่อยมลพิษในรัฐแคลิฟอร์เนียที่เข้มงวดมากกว่ารัฐบาลกลาง แต่หลังจากนั้นทาง Toyota ก็ถอนตัวจากการฟ้องร้องในสมัย Joe Biden ที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิปดีสหรัฐฯ เพราะทาง Biden เองก็สนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้านั้นเอง
นอกจากนี้ Toyota ยังถูกกล่าวหาว่าพยายามโน้มน้าวรัฐบาลสหรัฐฯ หันมาสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยทาง Paul Scott ผู้ก่อตั้งกลุ่มผู้สนับสนุน EV Plug-In America รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ได้รวมตัวประท้วงคว่ำบาตรในเมือนซานตาโมนิก้า และเรียกร้องให้ทางผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นรายนี้หยุดขัดขวางนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า และหันมาร่วมสนับสนุนด้านยานยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.