BMW XM ขุมกำลังปลั๊กอินไฮบริดรุ่นพิเศษในโอกาส 50 ปี
BMW ทำรถรุ่นพิเศษออกมาหลายรุ่นในโอกาส 50 ปี BMW M แต่อีกหนึ่งความพิเศษคือการเปิดตัวรถเอสยูวี XM ใหม่ออกมาซึ่งเป็นครั้งแรกที่รถ BMW M มาพร้อมความแรงในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์ V8 ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวมทั้งยังเป็นรถ BMW M แท้ๆ รุ่นแรกนับตั้งแต่ BMW M1
BMW XM มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน M Hybrid ที่มีเครื่องยนต์เบนซิน V8 4.4 ลิตร ทวินเทอร์โบ 489 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ใช้เกียร์ M Steptronic 8 สปีดส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ทั้งของรถผ่านระบบ M xDrive โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตรรวมอยู่ในระบบส่งกำลัง ทำให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 653 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ซึ่งใช้เวลา 4.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และมีความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
สำหรับแบตเตอรีที่ถูกติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถเอสยูวี BMW M มีความจุ 29.5 kWh สามารถให้ระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้าได้ 82-88 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP และทำความเร็วได้สูงสุด 140 กม./ชม. เมื่อใช้เฉพาะพลังงานไฟฟ้า โดยแบตเตอรีรองรับการชาร์จ 7.4 kW ซึ่งจะใช้เวลา 4.25 ชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟจาก 0-100 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ทาง BMW ยังทำงานร่วมกับ Hans Zimmer นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์เพื่อพัฒนา BMW IconicSounds Electronic สำหรับการทำเสียงที่เหมาะสำหรับการขับเคลื่อนโดยใช้เฉพาะมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดเสียงในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า M-specific เพื่อตอบสนองต่อทุกการเร่งความเร็ว
ในส่วนของขนาดรถ XM มีความยาว 5,110 มม. กว้าง 2,005 มม. สูง 1,755 มม. และมีระยะฐาล้อยาว 3,105 มม. ส่วนการออกแบบภายนอกถูกระบุว่าเป็น M-typical Design จึงทำให้แม้จะเป็นรถสมรรถนะสูง แต่ก็มีการตีความออกมาในแบบรถเซ็กเมนต์หรูของ BMW โดยมีไฟหน้าแบบแยก และกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ทรง 8 เหลี่ยมที่มีกรอบสีทองและไฟรอบกระจังหน้าที่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างรถมีแถบสีทองที่ทำให้คิดถึงแถบสีดำใน BMW M1 ในขณะที่ด้านหลังมีโลโก้ BMW ที่กระจกหลัง ไฟท้ายทรงเรียว รวมทั้งยังมีชื่อรุ่นและการแต่งที่ Diffuser หลังด้วยสีทอง
ภายในห้องโดยสารมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างที่นั่ง M มัลติฟังก์ชัน, พวงมาลัยหนัง M เฉพาะรุ่น รวมไปถึงมีกราฟฟิก M-specific ทั้งที่จอ BMW Curved Display และการแสดงข้อมูล Head-up Display ในขณะที่ด้านหลังมาในสไตล์ M Lounge มีระบบปรับความอุ่นที่พนักพิงหลังของเบาะรวมไปถึงด้านข้าง และมีการออกแบบการรองรับของเบาะเฉพาะเพื่อให้ความสบายแก่ผู้โดยสาร ในขณะที่เพดานมีการเย็บให้มีรูปแบบปริซุม 3 มิติ รวมไปถึงยังมีไฟ LED 100 จุดเพื่อให้ความสว่างในห้องโดยสาร
ทาง BMW จะเริ่มผลิต XM ที่โรงงาน Spartanburg ในสหรัฐอเมริกาเดือนธันวาคมนี้ก่อนที่จะเริ่มส่งรถไปตามดีลเลอร์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023 โดยมีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จีน และตะวันออกกลาง
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ https://offroadmag-thailand.grandprix.co.th/
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.