BMW ตั้งเป้านำเสนอรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนก่อนสิ้นทศวรรษนี้ และมีการตอบรับจากโครงการนำร่อง iX5 Hydrogen จำนวน 80 คัน ที่ได้รับการสนับสนุนต่อไปเพราะทางค่ายรถยังคงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีนี้
เจอร์เก้น กุลด์เนอร์ ผู้จัดการโครงการทั่วไปด้านเทคโนโลยีไฮโดรเจนของ BMW กล่าวว่าพลังงานไฮโดรเจนกำลังถูกวางตำแหน่งให้เป็นพลังงานทางเลือก นอกเหนือจากรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานไฟฟ้า (BEV) ซึ่งหลายคนที่ได้สัมผัสรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนต่างบอกว่ามันเยี่ยมมาก และมีความแตกต่างจากรถแบตเตอรี่ที่มีความไม่แน่นอนในการขับขี่มากเกินไป
บริษัทได้ใช้กลุ่ม iX5 จำนวนหนึ่งเพื่อวัดความสนใจ และหาคำติชมจากผู้ใช้ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจากเยอรมนี แคลิฟอร์เนีย และตะวันออกกลาง พร้อมกับข้อมูลเชิงลึกที่ค่อนข้างน่าสนใจ ซึ่งช่วยสนับสนุนการมองโลกในแง่ดีของ BMW เกี่ยวกับอนาคตของไฮโดรเจน
ผู้ใช้ชื่นชมด้วยความจริงใจว่า รถพลังงานไฮโดรเจนที่ถูกนำมาทดสอบมีความเสถียรระหว่างช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว ผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศร้อนก็ยังสนุกกับการเปิดเครื่องปรับอากาศโดยไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเสียเปอร์เซ็นต์ของแบตเตอรี่ที่ลดลง และระยะทางการใช้งานที่สั้นลง
BMW ยังคงเชื่อมั่นในความเป็นไปได้ที่รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของตนจะเข้าสู่การผลิตในไม่ช้า โดยแพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้งหมดในอนาคต อาจจะสามารถรองรับพื้นฐานระบบขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจนได้ เป้าหมายสำหรับวิศวกรของบริษัท คือ การสร้างถังไฮโดรเจนที่สามารถบรรจุภายในเข้ามาแทนพื้นแบตเตอรี่ EV ได้
แผนงานระยะยาวของ BMW คือ การนำรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนเข้าสู่การผลิตภายในปี 2030 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทางแบรนด์ได้ร่วมมือกับผู้สนับสนุนพลังงานไฮโดรเจนอย่าง Toyota เพื่อทำการวิจัยเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยี โดย iX5 จะใช้เซลล์เชื้อเพลิงจากพันธมิตรชาวญี่ปุ่น ในขณะที่ Toyota Mirai ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนเพียงคันเดียวในตลาด และยังมีความทะเยอทะยานที่คล้ายกันที่จะจำหน่ายกระบะ Hilux ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฮโดรเจนภายในสิ้นทศวรรษนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.