BMW iX3 เจเนเรชันรุ่นใหม่ บนแพลตฟอร์ม Neue Klasse

BMW iX3 รุ่นใหม่เจเนเรชันที่สองที่มีรายละเอียดออกมาเป็นระยะก่อนหน้านี้ถูกเผยโฉมออกมาแล้ว ซึ่งนอกจากเป็นรถรุ่นแรกที่อยู่บนแพลตฟอร์ม Neue Klasse แล้ว ยังมาพร้อมกับภาษาการออกแบบใหม่ที่แม้ยังคงสิ่งที่เอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้แต่ฉีกแนวจากรถรุ่นอื่นอย่างชัดเจน รวมทั้งยังมากับเทคโนโลยีใหม่

BMW iX3 ใหม่มีขนาดตัวรถยาว 4,783 มม. กว้าง 1,895 มม. สูง 1,636 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,898 มม. ซึ่งทำให้รถมีความยาวโดยรวมมากกว่ารุ่นก่อน 49 มม. และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 34 มม. ส่วนดีไซน์ภายนอกของรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ยึดแนวทางจากรถคอนเซ็ปต์ Vision Neue Klasse X ที่เผยโฉมออกมาเมื่อปี 2024 ที่บ่งบอกถึงทิศทางการออกแบบของแบรนด์ซึ่งจะใช้กับรถรุ่นใหม่ต่อไป โดยทางผู้บริการด้านการออกแบบของบริษัทระบุว่าเป็นการตีความที่ทันสมัยในสิ่งที่ BMWเป็นยืนหยัดมาตลอด และด้วยภาษาการออกแบบใหม่ทำให้รถรุ่นใหม่เป็นการมองไปถึงอนาคต ความทันสมัย ไร้กาลเวลา พร้อมกับที่เป็นBMW มากขึ้น

ผลจากภาษาการออกแบบใหม่ทำให้ด้านหน้าของรถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่มากับกระจังหน้าไตคู่แนวตั้ง พร้อมแถบดำที่ต่อเนื่องมาจากไฟหน้าคู่ที่ให้กลิ่นไอความคลาสสิกในอดีตแต่เป็นการตีความที่ทันสมัยขึ้น นอกจากนี้รถยังมีช่องดักลมที่กันชนหน้าพร้อมการแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา ส่วนด้านข้างของรถมีเส้นซุ้มล้อที่เฉียบคม ขณะที่ด้านหลังของรถมีแถบไฟท้ายแนวนอน เส้นสายที่เฉียบคม และสปอยเลอร์ปลายหลังคา นอกจากนี้รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ยังมีแอโรไดนามิกดีขึ้นด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน 0.24Cd

หากต้องการเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นทางผู้ผลิตก็มีออปชันอย่างแพกเก็จ M Sport มาให้ติดเพิ่ม ซึ่งประกอบด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 20, 21 หรือ 22 นิ้ว โดยมีคาลิเปอร์เบรกสีฟ้าด้านหลัง แต่หากเลือกเพกเก็จ M Sport Professional ก็จะมีกระจังหน้าไฟเรืองแสง การแต่งด้วยสีดำ และคาลิเปอร์เบรกสีแดง

ห้องโดยสารของรถมีสิ่งใหม่ที่ถูกเรียกว่า Panoramic iDrive ซึ่งเป็นจอแสดงข้องมูลยาวเต็มความกว้างของรถใต้กระจกหน้า พร้อมมีจอตรงกลางขนาด 17.9 นิ้วแบบลอยตัว โดยที่มีการแสดงข้อมูล Head-up Display 3 มิติบนกระจกหน้าเป็นออปชันให้เลือก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานโดย Operation System X ล่าสุดซึ่งถูกระบุว่าเข้าใจและใช้งานง่ายขึ้น

แม้การควบคุมหลายการทำงานจะเป็นแบบดิจิตอล แต่รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ก็ยังมีหลายการปรับควบคุมที่เป็นปุ่มหรือแป้นปรับมาให้ใช้อย่างการปรับที่ปัดน้ำฝน ไฟสัญญาณ กระจกข้าง และเสียง ส่วนผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียงของรถถูกระบุว่าลดความสับสนลง นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังชูจุดเด่นในเรื่องพื้นที่ของห้องโดยสารด้วยการมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังความจุ 861 ลิตร และหากพับเบาะลงก็จะเพิ่มเป็น 1,841 ลิตร ส่วนใต้ฝากระโปรงหน้าของรถก็มีพื้นที่เก็บสัมภาระความจุ 57 ลิตรให้ใช้

ทางผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีเปิดเผยว่ารถรุ่นใหม่ของตนมากับ 4 คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่เรียกว่า Superbrains ซึ่งแต่ละคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่ในด้านการขับเคลื่อน ระบบขับขี่อัตโนมัติ Infotainment และการทำงานพื้นฐาน อย่างเช่น Superbrain ที่เรียกว่า Heart of Joy จะทำงานในส่วนของระบบขับเคลื่อน เบรก การชาร์จพลังงานกลับจากการเบรก และควบคุมทิศทางของรถ นอกจากนี้ยังปรับปรุงประสิทธิภาพได้จากการอัปเดต Over-the-air

รถรุ่นใหม่อยู่บนแพลตฟอร์ม Neue Klasse โดยใช้สถาปัตยกรรม 800-volt และระบบ eDrive เจเนเรชันที่ 6 ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรีทรงกระบอกความหนาแน่นสูงที่ถูกพัฒนาใหม่ โดยรถที่ออกมารุ่นแรกคือiX3 50 xDrive มากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่มีกำลังรวม 345 kW หรือ 469 แรงม้า แรงบิด 645 นิวตัน–เมตร ใช้เวลา 4.9 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 210 กม./ชม.

แบตเตอรีที่มากับรถมีความจุ 108.7 kWh ให้พลังงานสำหรับเดินทางได้ 679-805 กิโลเมตร โดยรองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ถึง 400 kW ทำให้เดินทางได้เพิ่ม 370 กิโลเมตรด้วยการชาร์จไฟ 10 นาที แต่หากรอได้ถึง 21 นาทีก็จะชาร์จไฟได้จาก 10-80 เปอร์เซ็นต์

รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่จะเริ่มออกสู่ตลาดในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2026 และตามด้วยสหรัฐอเมริกาใยช่วงฤดูร้อนปีเดียวกัน ส่วนราคารถยังไม่มีออกมา

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine