ก่อนหน้านี้ทาง Audi ได้ปรับการตั้งชื่อรุ่นรถที่ใช้มานานใหม่ เพื่อแยกระหว่างรถไฟฟ้าที่มีจำนวนรุ่นมากขึ้นกับรถใช้เครื่องยนต์ แต่อย่างไรก็ตามความเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ซื้อรถที่คุ้นเคยกับชื่อรุ่นแบบเก่ามานาน ผู้ผลิตรถยนต์จากเยอรมนีรายนี้จึงปรับชื่อรุ่นรถอีกครั้งโดยเปลี่ยนไปใช้แบบเดิมที่ผู้คนคุ้นเคย
ตั้งแต่ยุค 1990 เป็นต้นมา Audi ใช้รูปแบบการตั้งชื่อรถโดยมีตัวอักษรนำหน้าเลขเพื่อบ่งบอกถึงลักษณะและขนาดของรถ โดยใช้ A กับรถซีดาน แวกอน และแฮทช์แบ็ก ใช้ Q นำหน้ารถเอสยูวี ส่วนตัวเลขที่ตามหลังยิ่งเป็นจำนวนมากขึ้นจะหมายถึงรถขนาดใหญ่ขึ้น แต่ตั้งแต่ปี 2023 ทางผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมจากเยอรมนีรายนี้ได้ปรับการตั้งชื่อรุ่นรถใหม่เพื่อรับกับจำนวนรุ่นของรถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการใช้เลขคู่ตามหลังตัวอักษรกับรถไฟฟ้า ส่วนเลขคี่ใช้กับรถเครื่องยนต์สันดาป
อย่างไรก็ตามเนื่องจากผู้ซื้อรถจำนวนมากสับสนกับชื่อรุ่นของรถ และยังคงคุ้นเคยกับชื่อรุ่นรถแบบเดิม ล่าสุดทางค่าย 4 ห่วงจึงเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อรุ่นรถเหมือนก่อนหน้านี้ที่ผู้คนคุ้นเคยอีกครั้ง เพื่อลดความสับสนในเรื่องรุ่นรถ โดยจะใช้ตัวอักษรที่แสดงถึงระบบขับเคลื่อนต่อท้ายชื่อรุ่นเพื่อบ่งบอกถึงระบบขับเคลื่อนของรถอย่าง e-Tron สำหรับรถไฟฟ้า TFSI สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ TDI สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล
ด้วยการปรับไปใช้ชื่อรุ่นแบบเดิมจึงทำให้จากที่ก่อนหน้านี้ A6 ถูกใช้กับรถไฟฟ้าขณะที่ A7 ใช้กับรถใช้น้ำมัน จะกลายเป็นรุ่น A6 เหมือนกัน แต่มีคำที่บ่งบอกถึงระบบขับเคลื่อนต่อท้ายเพื่อแยกระบบขับเคลื่อนของรถอย่าง A6 e-Tron, A6 TFSI และ A6 TDI
การเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อรุ่นรถแบบเดิมอีกครั้งจะใช้กับรถรุ่นใหม่ที่ออกมาในอนาคตอย่างรถซีดานขนาดกลาง A6 ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่จะถูกเปิดตัวในเดือนนีนาคม 2025 นี้ซึ่งเดิมจะต้องใช้ชื่อ A7 ขณะที่รุ่น A5 ซึ่งเป็นรถใช้เครื่องยนต์ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้วเพื่อแทนที่รุ่น A4 จะยังคงใช้ชื่อ A5 ต่อไป
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.