All New Subaru Forester EyeSight-ครบเครื่องเรื่องความปลอดภัย
ก่อนหน้านี้ทีมงาน Off Road มีโอกาสทดสอบรุ่นเริ่มต้นของ All-new Subaru Forester เวอร์ชั่นประกอบในประเทศไทยมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาจะได้สัมผัสตัวท็อปที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุด EyeSight!!!
ในบ้านเราคนที่สนใจ All New Subaru Forester จะมีตัวเลือกเป็น 3 รุ่นย่อยไล่เรียงจากรหัส 2.0i-L, 2.0i-S และ 2.0i-S EyeSight ตั้งราคาอยู่ระหว่าง 1,030,000-1,130,000 บาท โดยความแตกต่างแน่นอนว่าอยู่ที่ออปชั่นความสะดวกสบาย
หากเทียบกับคราวก่อนที่ทีมงาน Off Road นำรุ่นล่างสุด All New Forester 2.0i-L มาลองขับทดสอบ 1 ในอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไปสำหรับรถเอสยูวีประเภทครอบครัวคงจะหนีไม่พ้นระบบเปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้าที่สามารถสั่งงานจากกุญแจรีโมต พร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่งความสูงได้อีกด้วย
ในส่วนของชุดไฟหน้า-หลังจะเป็นแบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติเหมือนกัน แต่ 2 รุ่นบนไฟตัดหมอกหน้าจะเป็น LED เช่นเดียวกับไฟ Day Time Running Light ไม่ใช่หลอดฮาโลเจนเหมือนในรุ่น 2.0i-L และเพิ่มระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของพวงมาลัย (SRH) เข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในเวลาขับตอนกลางคืน
สัดส่วนของตัวรถทั้ง 3 รุ่นย่อยเท่ากันหมด ตัวถังของ All New Forester มีความกว้าง 1,815 มม., ความยาว 4,625 มม., ความสูง 1,730 มม. และระยะฐานล้อ 2,670 มม. โดยน้ำหนักรถเปล่าจะไล่เรียงจาก 1,533-1,545 กิโลกรัม โดย 2 รุ่นบนจะใช้ยางขนาด 225/55 R18 ใหญ่กว่ารุ่นล่างที่จะเป็นขนาด 225/60 R17
อีกองค์ประกอบสำคัญ และทำให้ผู้คนทั่วโลกหลงใหลรถยนต์ Subaru—เครื่องยนต์ Boxer โดยขุมกำลังเบนซินลูกสูบนอน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงตรงขนาด 2.0 ลิตรที่อยู่ใน Forester ทั้ง 3 รุ่นย่อย สามารถสร้างกำลังสูงสุด 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที เรียกว่ากดคันเร่งลงไปคุณจะได้สัมผัสความเร้าใจทันที
ความแตกต่างอีกอย่างของ All New Forester ใน 2 รุ่นบนจะเป็น X-Mode ระบบช่วยเหลือการขับขี่บนเส้นทาง Off Road ใน 2 รุ่นบนถูกอัพเกรดเป็น Special X-Mode เวอร์ชันใหม่ สามารถปรับเลือกการขับตามสภาพถนนทั้ง Snow, Dirt และ Mud เพิ่มเข้ามา
‘EyeSight—ดวงตาเทพเจ้า’
อธิบายความแตกต่างใน 3 รุ่นย่อยของ All New Forester เป็นที่เรียบร้อย มาทำความรู้จักการทำงานของ EyeSight มีด้วยกัน 6 ฟังก์ชันคือ Pre-Collision Braking ระบบป้องกันการชน, Adaptive Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามรถคันหน้า, Pre-Collision Throttle Management ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เพื่อป้องกันการชนกรณีมีวัตถุอยู่ด้านหน้า, Lead Vehicle Start Alert ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว, Lane Departure Warning และ Lane Sway Warning ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร และแจ้งเตือนเมื่อรถมีอาการส่ายไปมา
ในการลองขับจริงบนถนน เริ่มต้นด้วยระบบง่ายๆ Pre-Collision Throttle Management สมมติว่าจอดรถอยู่ในช่องจอดข้างหน้าเป็นกำแพง แล้วเข้าเกียร์ D เดินหน้า ลองเหยียบคันเร่ง ระบบจะแจ้งเตือนโดยการส่งสัญญาณเสียง และไฟกะพริบพร้อมตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า นับว่าดีมากสำหรับคนที่ชอบเผลอเวลาเพิ่งสตาร์ทรถใหม่ จะช่วยให้รอดจากอุบัติเหตุได้
ต่อมาระบบ Adaptive Cruise Control จะต้องตั้งค่าความเร็ว และระยะห่างของ Forester กับรถคันหน้า ลองใช้ในสภาพการจราจรบนถนนในเมืองจะคล้ายกับ Stop & Go ที่ติดตั้งในรถยุโรป เมื่อเราวิ่งตามรถคันหน้า ก็จะแล่นตามในอัตราความเร็วที่ตั้งไว้ หากคันหน้าวิ่งช้ากว่าระบบจะชะลอความเร็วรถของเรา และทิ้งระยะห่างตามที่ตั้งไว้ ถ้ารถคันหน้าหยุด เราก็หยุดด้วย โดยไม่ต้องเหยียบเบรก ถ้าหยุดไม่นานรถจะไหลตามไป แต่ถ้าหยุดนานเกินกว่า 4 วินาที คนขับต้องเหยียบคันเร่งให้เคลื่อนตัวออกไป และหากก้มหน้ากดโทรศัพท์เพลินแต่รถคันหน้าออกไปแล้วจะมีไฟกะพริบแจ้งเตือนขึ้นมาเรียกว่าระบบ Lead Vehicle Start Alert
Pre-Collision Braking เป็นอีกระบบที่ช่วยหยุดรถก่อนชน เราจำลองด้วยการหาวัตถุมาไว้ข้างหน้า แล้ววิ่งด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. เมื่อเข้าใกล้ไม่เหยียบเบรกจะมีสัญญาณการเตือนแจ้งก่อน และถ้าไม่เบรก ระบบจะทำการเบรกเพื่อหยุดรถก่อนชน แต่ก็มีข้อจำกัดในกรณีที่สภาพอากาศย่ำแย่อย่างฝนตกหนักหรือหมอกจัด จะส่งผลให้ระบบไม่สามารถตรวจพบวัตถุ แต่จะมีการแจ้งเตือนบนหน้าปัดรถให้รู้ว่าระบบไม่ทำงานล่วงหน้า
สำหรับ Lane Departure Warning & Lane Sway Warning เป็นอีก 2 ระบบที่ไม่ซับซ้อนในการใช้งาน เมื่อเราขับออกนอกเลนหรือวิ่งส่าย ระบบจะเตือนด้วยสัญญาณเสียง และไฟเตือนบนหน้าปัดให้คนขับระวัง แต่ในกรณีที่จะเปลี่ยนเลนถ้าเปิดไฟกระพริบก่อนจะไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ
อีกจุดที่ชอบเป็นการส่วนตัวสำหรับ All New Forester นอกจากจะมีกล้องจับภาพด้านหลังที่จะฉายภาพท้ายรถเพื่อความปลอดภัยเวลาถอยเหมือนรถรุ่นใหม่ๆ ปกติ ทาง Subaru มีการเพิ่มภาพจากมุมซ้ายของรถแสดงผ่านบนจอด้านบนของคอนโซลกลางช่วยให้จอดชิดริมถนนมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าล้อจะไปขูดกับขอบฟุตบาทหรือสิ่งของที่อยู่บนถนนจนได้รับความเสียหาย
หลังจากมีเวลาคลุกคลีอยู่กับรถ 4 วัน ต้องยอมรับจริงๆ ว่าระบบความปลอดภัย EyeSight ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้ All New Subaru Forester กลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่กำลังมองหาเอสยูวีขนาดกลางเพื่อใช้งานแบบครอบครัวอย่างแท้จริง
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ซูบารุ ประเทศไทย
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.