ALL NEW XPANDER นิยามใหม่ของครอสโอเวอร์เอนกประสงค์รุ่นใหม่แกะกล่องจากมิตซูบิชิ
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดกิจกรรมทดสอบให้แก่สื่อมวลชน ขับรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่แกะกล่อง MITSUBISHI ALL NEW XPANDER ยังไม่เผยโฉมอย่างเป็นทางการในเมืองไทย แต่ที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ สามารถโกยยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ซึ่ง ALL NEW XPANDER จะเป็นเซกเมนต์รถยนต์ที่เป็นธงรบบุกเบิกขึ้นใหม่ในประเทศไทย ชูจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบ รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ และห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน
โดย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้วางเส้นทางทดสอบเอาไว้รวมระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร ตั้งแต่เหนือสุดที่ จ.เชียงราย มุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ก่อนจะสิ้นสุดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตลอดการทดสอบมีทั้ง เส้นทางลูกรัง ถนนทางหลวง และสภาพการจราจรที่หนาแน่นในเมือง นอกจากนี้ยังมีเส้นทางขึ้น-ลง เขาสูงชันและคดเคี้ยว เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะอย่างเต็มที่ แบ่งการทดสอบออกเป็น 6 กลุ่ม นอกจากนี้สื่อมวลชนส่วนหนึ่งยังได้ร่วมกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบการสนับสนุนให้แก่โรงเรียนวัดบางเคียนใน จ.นครสวรรค์ ทั้งปรับปรุงอาคารเรียน บริจาคอุปกรณ์การกีฬาและเครื่องกรองน้ำ ซึ่งยังเป็นการทดสอบศักยภาพการบรรทุกสัมภาระไว้ในเนื้อที่อันกว้างขวางของ ALL NEW XPANDER รวมทั้งแวะเยี่ยมชมโชว์รูมต่างๆ ที่เดินทางผ่านอีกด้วย
ALL NEW XPANDER มีดีไซน์ที่ถือว่าค่อนข้างล้ำสมัย รวมทั้งการออกแบบ แบบ Advanced ‘Dynamic Shield’ ที่พร้อมปกป้องทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้เส้นทาง มีความลงตัวด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวผสานเข้ากับความแข็งแกร่ง และเปี่ยมด้วยระบบความปลอดภัย ปรากฏให้เห็นชัดเจนที่ด้านหน้าและตำแหน่งของไฟหน้าขณะที่ไฟหรี่แบบ Crystal LED ถูกติดตั้งอยู่ด้านบนของฝากระโปรงและเยื้องมาด้านหน้าซุ้มล้อ ช่วยให้ผู้ใช้ทางเท้าและยานพาหนะอื่น ๆ สังเกตเห็นได้ง่ายขึ้น ไฟหน้าติดตั้งในกันชนหน้าเพื่อเลี่ยงไม่ให้แสงจากไฟหน้ารบกวนสายตาผู้ใช้ทางเท้ารวมถึงผู้ขับขี่ยานพาหนะที่สวนมา ในรุ่น GT ยังมาพร้อมไฟตัดหมอกหน้า มือเปิดประตูโครเมียม คิ้วขอบกระจกประตู และแผงกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงคิ้วขอบประตูด้านล่างข้างตัวรถ
จุดเด่นของ MITSUBISHI ALL NEW XPANDER อยู่ที่ห้องโดยสารที่มีมิติค่อนข้างกว้างขวางที่สุดในรถระดับเดียวกัน รองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 คน สามารถพับเบาะราบได้เพื่อเพิ่มพื้นที่การบรรทุกสัมภาระ ตกแต่งด้วยโทนสีดำ ALL NEW XPANDER ได้รับการพัฒนาจากแนวคิด “โอโมเตะนาชิ” (Omotenashi) หรือการดูแลและใส่ใจในทุกรายละเอียดแบบญี่ปุ่น แม้ว่ารุ่นนี้จะมีฐานการผลิตที่อินโดนีเซียก็ตาม มีช่องจัดเก็บของมากมาย และช่องชาร์จกระแสไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แผงควบคุมระบบปรับอากาศด้านหลัง พวงมาลัยปรับระดับสูง-ต่ำ และปรับเข้า-ออก และสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง มีระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย จอภาพระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว และเบาะที่นั่งหุ้มหนังและวัสดุหนังสังเคราะห์ทั้ง 3 แถว (เฉพาะรุ่น GT)
ด้านขุมพลังของ MITSUBISHI ALL NEW XPANDER ใช้เครื่องยนต์อลูมินัมอัลลอยเบนซินขนาด 1.5 ลิตร DOHC MIVEC 16 วาล์ว 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที(เครื่องยนต์เป็นบล็อกเดียวกับ MITSUBISHI COLT) มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด หากเปรียบเทียบกับรูปร่างที่ใหญ่โต ดูเหมือนเครื่องยนต์อาจจะเล็กไปนิด แต่ก็ขับขี่ได้อย่างสะดวกสบาย อัตราเร่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร โดยเฉพาะการใช้งานทั่วๆ ไปที่ไม่เร่งรีบมากนัก แต่สำหรับวัยรุ่นที่ต้องการความปรู๊ดปร๊าดอาจจะขัดใจนิดๆ มาพร้อมช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้าและทอร์ชันบีมที่ด้านหลัง และล้ออัลลอยแบบสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น GT) สูงจากพื้นมากกว่ารถยนต์ในรุ่นเดียวกันโดยอยู่ที่ 205 มม. (สำหรับล้ออัลลอย 16 นิ้ว)
ส่วนระบบความปลอดภัยก็ใส่มาให้ค่อนข้างครบถ้วน อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC-Active Stability Control) ระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL-Traction Control System) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA-Hill Start Assist System) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS-Anti Lock Braking System) และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD-Electronic Brake Force Distribution) พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA-Brake Assist) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS-Emergency Stop Signal System) ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและระบบผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และเข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด 5 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง รุ่นสูงสุดยังมาพร้อมกับกล้องมองภาพด้านหลัง
โดยภาพรวมแล้วถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง หากมองถึงความนิ่มนวล สะดวกสบาย ช่วงล่างแน่นหนึบ ห้องโดยสารค่อนข้างเงียบ ปลอดภัยและต้องการความเอนกประสงค์ โดย MITSUBISHI ALL NEW XPANDER จะทำการเปิดตัว อย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2561 นี้ ที่ BIG MOTOR SALE 2018 ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติไบเทค บางนา และพร้อมจำหน่ายให้แก่ลูกค้าที่เครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ส่วนราคาค่าตัวนั้นทางมิตซูบิชิยังไม่มีการแจ้งเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 800,000 บวก-ลบ
กองบรรณาธิการ เรื่อง
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ภาพ