Ford Everest Sport Bi-Turbo จำกัดการผลิตแค่ 700 คันเท่านั้น
Ford เพิ่มทางเลือกในการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่พร้อมเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้งให้กับ Everest ที่ขายในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของรถเอสยูวีรุ่นนี้ ด้วยเกรด Sport Bi-Turbo โดยที่มีการจำกัดรถที่ผลิตแค่ 700 คันเท่านั้น
แน่นอนว่าขุมพลังของ Ford Everest Sport Bi-Turbo เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ 4 สูบ 2.0 ลิตรที่สร้างกำลังออกมา 207 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน–เมตรโดยใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีดนำกำลังสู่ทุกล้อของรถ ในขณะที่เกรด Sport ปกติที่มีขายอยู่แล้วมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 3.0 ลิตร 247 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตัน–เมตร
รถเอสยูวีขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ผลิตจำกัดยังมากับอุปกรณ์มาตรฐานมากกว่ารถที่มีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ด้วย Touring Pack และ Prestige Paint จึงทำให้มีอุปกรณ์อย่างกล้องมองภาพ 360 องศา Tow Bar และหูเกี่ยวสำหรับการลากจูงพร้อมระบบควบคุมการเบรกในการลากจูง และฟังก์ชัน Pro Trailer Backup Assist รวมทั้งมากับแพกเก็จสปอร์ตที่ทำให้มีการแต่งภายนอกด้วยกระจังหน้าสีดำและมากับล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 20 นิ้ว ส่วนสีภายนอกของรถมีให้เลือก 5 สี
อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารมีจอแสดงข้อมูลการขับแบบดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว จอ Infotainment ขนาด 12 นิ้วรองรับ Apple CarPlay ไร้สายและ Android Auto รวมทั้งที่ชาร์จไร้สาย ส่วนเบาะของรถที่มีรูปแบบ 7 ที่นั่งมีเบาะหน้าหุ้มหนังปรับความอุ่นและระบายอากาศได้ โดยเบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อมบันทึกตำแหน่งได้ ส่วนเบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
รถยังมากับระบบช่วยขับอย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอแดปทีฟพร้อม Stop & Go ระบบช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจร ระบบแสดงป้ายจราจร รวมทั้งระบบเตือนก่อนการชนพร้อมเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
รถเอสยูวีขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่จะถูกผลิตระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมก่อนที่จะส่งมอบให้กับลูกค้า ส่วนราคารถอยู่ที่ 75,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียหรือประมาณ 1,587,000 บาท
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.