Haval Big Dog Plus มีทั้งเครื่องยนต์สันดาปล้วนและปลั๊กอินไฮบริด

GWM ส่ง Haval Big Dog Plus ทำตลาดที่จีนด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าBig Dogเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าครอบครัว โดยที่ยังคงสไตล์รถเอสยูวีทรงกล่อง แต่มีการอัปเกรดหลายส่วนของรถ ในขณะที่การขับเคลื่อนมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปล้วนและปลั๊กอินไฮบริด

Haval Big Dog Plus

Haval Big Dog Plus มาในขนาดตัวรถที่มีความยาว 4,705 มม. กว้าง 1,908 มม. สูง 1,780 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,810 มม. ซึ่งเมื่อเทียบกับBig Dogรถเอสยูวีรุ่นใหม่ยาวกว่า 85 มม. กว้างกว่า 18 มม. มีระยะฐานล้อยาวกว่า 72 มม. แต่ยังคงมีความสูงเท่ากัน และแม้จะเป็นรถเอสยูวีสำหรับครอบครัวแต่ก็มาพร้อมความสามารถในการลุยด้วยการมีมุมไต่ 24 องศา มุมจาก 30 องศา สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 560 มม.

Haval Big Dog Plus

ด้านดีไซน์ของรถแม้ยังคงมาในรูปทรงกล่องแต่ก็มีความแตกต่างจากBig Dogด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งไฟหน้าทรงกลม กระจังหน้าพร้อมชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่ กันชนหน้า โป่งซุ้มล้อโชว์น็อตยึด ไฟท้ายทรงกลม และกันชนหลังใหม่ โดยมีโลโก้ GWM ที่ฝาท้ายแทนHaval ในขณะที่สีภายนอกรถมีให้เลือก 5 สี

ห้องโดยสารของรถมีการปรับดีไซน์จากรถที่มีขนาดเล็กกว่าด้วยการมีคอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ มีช่องระบบปรับอากาศแนวนอนตรงกลาง ย้ายตำแหน่งมือจับด้านหน้าผู้โดยสารเบาะหน้าให้ต่ำลง และมีพวงมาลัยสองก้านใหม่ นอกจากนี้ยังอัปเกรดจอแสดงข้อมูลการขับให้ใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอตรงกลางมีขนาด 14.6 นิ้วพร้อมระบบปฏิบัติการ Coffee OS 3.0 โดยทางผู้ผลิตอ้างว่ามีการปรับปรุงระบบสั่งงานด้วยเสียงให้มีการตอบสนองที่เร็วขึ้นด้วยเวลา 250 มิลลิเซคัน

รถเอสยูวีรุ่นใหม่ยังให้ความอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวด้วยการมีถึง 38 พื้นที่เก็บสัมภาระ ส่วนพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีความจุ 474 ลิตร และขยายได้ถึง 1,362 ลิตรเมื่อพับเลาะหลังลง

Haval Big Dog Plus

ระบบขับเคลื่อนของรถมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปและปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5T 154 แรงม้า แรงบิด 243 นิวตันเมตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่โดยมอเตอร์หน้ามีกำลัง 70 kW หรือ 94 แรงม้า แรงบิด 160 นิวตันเมตร มอเตอร์หลังมีกำลัง 150 kW หรือ 201 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร

แบตเตอรีของรถมีสองความจุให้เลือกระหว่าง 18.74 kWh และ 27.54 kWh ทำให้เดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ 105 กิโลเมตรและ 150 กิโลเมตรตามลำดับ ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน WLTC ถูกระบุไว้ที่ 1.65 ลิตรและ 1.13 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ด้านระบบส่งกำลังของรถเป็นแบบ DHT 2 สปีด

ส่วนเครื่องยนต์สันดาปมีสองทางเลือกระหว่างเครื่องยนต์ 1.5T 181 แรงม้า แรงบิด 275 นิวตันเมตร ใช้ระบบส่งกำลัง DCT 7 สปีด หรือเครื่องยนต์ 2.0T 235 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตรพร้อมระบบส่งกำลัง DCT 9 สปีด

ราคาของรถที่ขายในจีนถูกระบุว่าเริ่มต้น 135,800 หยวนหรือประมาณ 605,000 บาทสำหรับรถเครื่องยนต์สันดาป และเริ่มต้น 173,800 หยวนหรือประมาณ 774,000 บาทสำหรับรถปลั๊กอินไฮบริด

 

 

 

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save