บทพิสูจน์ความแกร่ง ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต กับการแข่งขันสุดโหด เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025

ตีธงออกสตาร์ทกันไปเรียบร้อยแล้วกับ การแข่งขันรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 (AXCR 2025) ซึ่งปีนี้เริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา และจะจบการแข่งขันในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความแกร่งของรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ ทั้ง 3 คัน รวมทั้งเป็นความท้าทายนักแข่ง ทีมเซอร์วิส และทีมสนับสนุนทั้งหมด กับเป้าหมายในการคว้าแชมป์รายการแข่งขันแบบโอเวอร์ออล (Overall) อีกครั้งในรอบ 3 ปี

มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต กล่าวว่า “การพัฒนาสมรรถนะด้านการขับขี่ครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้รถแข่งไทรทันได้รับการยกระดับประสิทธิภาพอย่างมากในปีนี้ ทั้งในด้านแรงบิดและความทนทานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เรายังได้ปรับแต่งแชสซีส์เพื่อเพิ่มสมรรถนะของรถทั้งในด้านการควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนบนพื้นโคลน โดยการแข่งขันปีนี้จะจัดขึ้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและถนนลูกรังทางเรียบ คาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่ใช้ความเร็วสูง ซึ่งผมมั่นใจว่าช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งนี้จะแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ หนึ่งในรถแข่งของเราที่ใช้เป็นรถสนับสนุน ยังได้รับการติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ (AT) แบบใหม่ เพื่อทดสอบความทนทานและความแม่นยำของรถ ภายใต้สภาวะที่ท้าทายของการแข่งขัน เพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกสำหรับการพัฒนายานยนต์ใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งเรามั่นใจว่าทุกคนจะได้เห็นถึงความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณอันห้าวหาญในแบบฉบับ Mitsubishi Motors-ness เพื่อการคว้าชัยชนะอีกครั้งในรอบ 3 ปีของเรา

โดยปีนี้ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต มีความพร้อมเกิน 100% แม้ว่าเส้นทางการแข่งขันจะท้าทายและหฤโหดมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่มีการวางแผนการแข่งขันที่ช่วยให้มั่นใจมากขึ้น เพราะจากปีที่ผ่านมา ได้มองเห็นจุดที่ทำให้ทีมเสียโอกาส ปีนี้จึงได้วางแผนแก้ไขสถานการณ์เอาไว้แล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทีมยึดมั่นคือ ต้องพยายามไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะยิ่งผิดพลาดน้อยเท่าไหร่ โอกาสที่จะคว้าชัยชนะย่อมมีมากขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต ได้ทดสอบสมรรถนะรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ ภายใต้การจำลองสภาวะที่ใกล้เคียงกับการแข่งขันจริงบนเส้นทางออฟโรดรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยการทดสอบครอบคลุมระยะทางมากกว่าระยะทางการแข่งขันจริงในรอบ Special Stage ที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเน้นการทดสอบความแข็งแกร่งและความทนทานของเครื่องยนต์และตัวถัง รวมถึงการปรับจูนระบบกันสะเทือนและช่วงล่างให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้ง 3 วันก่อนการแข่งขัน ทีมยังได้ดำเนินการทดสอบภาพรวมของรถ (Shakedown) เพื่อตรวจสอบส่วนประกอบของรถแต่ละคันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100% พร้อมโชว์สมรรถนะในการแข่งขันปีนี้อย่างเต็มที่

สำหรับรถแข่ง ไทรทัน แรลลี่คาร์ หมายเลข 112 นักแข่ง คือ ชยพล โยธา และผู้นำทาง คือ พีรพงษ์ สมบัติวงศ์, หมายเลข 105 นักแข่ง คือ คัตสึฮิโกะ ทากูชิ และผู้นำทาง คือ ทาคาฮิโระ ยาสุอิ และ หมายเลข 118 นักแข่ง คือ คาสุโตะ โคอิเดะ และผู้นำทาง คือ เออิจิ ชิบะ

สำหรับผลการแข่งขันในวันที่ 9 สิงหาคม เป็น Leg 1 เส้นทางมีทั้งทางฝุ่น ลุยน้ำลึก เส้นทางขาด ระยะทางรวม 364.93 กิโลเมตร ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต จบ Leg 1 ในอันดับ top 10 ถึง 2 คัน คือ รถแข่งหมายเลข 112 และ 105 ส่วนรถแข่งหมายเลข 118 ประสบอุบัติเหตุทำให้ระบบหล่อเย็นเสียหาย ไม่สามารถจบการแข่งขัน Leg 1 ได้ และโดนโทษปรับเพิ่มเวลาการแข่งขันอยู่ในอันดับที่ 40

ส่วนใน Leg 2 วันที่ 10 สิงหาคม เส้นทางยังคงดุเดือดต่อเนื่องจากปราจีนบุรีสู่เขาใหญ่ เส้นทางนี้เจอทั้งทางหิน ลานกว้างที่มองเส้นทางได้ยาก เส้นทางที่แคบขนาดเท่าตัวรถ ที่ต้องคุมไลน์การขับตลอดทุกวินาที นักขับและผู้นำทางต้องประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งรถแข่งหมายเลข 112 คุมจังหวะได้แม่นยำตลอดเส้นทาง ทำให้ทั้งสองวันยังคงอยู่ในอันดับที่ 2 มีเวลาที่ตามหลังผู้นำเพียง 5 นาที ส่วนรถแข่งหมายเลข 105 วันนี้ทำเวลาได้ดี จบ Leg 2 ในอันดับที่ 4 ทำเวลารวมขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 และรถแข่งหมายเลข 118 แม้ว่าเมื่อวานนี้ต้องหยุดการแข่งขันเพราะอุบัติเหตุ แต่วันนี้ลุยแบบไม่ยั้งเพื่อกู้เวลาคืน จบ Leg 2 ด้วยอันดับที่ 19 ทำให้เวลารวมขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 34 ถือว่าเปิดคันเร่งสู้ได้ถึงใจจริงๆ

ส่วนใน Leg 3 วันที่ 11 สิงหาคม ต้องมาลุ้นกันว่า รถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ ทั้ง 3 คัน จาก ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต จะทำผลงานขยับขึ้นมาได้อีกหรือไม่ แฟนๆ มิตซูบิชิร่วมส่งกำลังใจเชียร์กันด้วย และสามารถติดตามการผลการแข่งขันได้ทางเพจเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

ภาพการแข่งขันใน Leg 1

ภาพการแข่งขันใน Leg 2

บรรยากาศการตีธงเปิดการแข่งขันที่วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา

ทั้งนี้ การแข่งขัน “เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025” หรือ AXCR 2025 เป็นการครบรอบการแข่งขัน ครั้งที่ 30 ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้น มีรถที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 93 คัน แบ่งเป็นประเภทรถยนต์ (Auto) 47 คัน ประเภทรถมอเตอร์ไซค์ (Moto) 44 คัน และประเภทรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง (Sidecar) 2 คัน โดยพิธีปล่อยตัวตีธงเปิดการแข่งขันกำหนดจัดขึ้น ณ เมืองพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลชื่อดังของไทยจะเริ่มการแข่งขัน Leg 1 จากพัทยาสู่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ราว 130 กิโลเมตร โดย Leg 2 จะมุ่งหน้าจากปราจีนบุรีไปยังเขาใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย และ Leg 3 จะจัดขึ้นภายในพื้นที่ของเขาใหญ่ทั้งหมด หลังจากนั้นใน Leg 4 จะย้อนกลับมายังปราจีนบุรี ซึ่งจะเป็นฐานการแข่งขันต่อเนื่องใน Leg 5 และ 6 โดยการแข่งขัน Leg 7 จะนำผู้เข้าแข่งขันกลับมาสู่จุดเริ่มต้นที่เมืองพัทยาอีกครั้ง ซึ่งเป็นวันสุดท้ายจะสิ้นสุดการแข่งขัน Leg 8 ณ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา

นอกจากนี้ การแข่งขันปีนี้ รถเดลิกา ดี:5 (Delica D:5) จำนวน 4 คัน จะรับหน้าที่เป็นรถสนับสนุนให้กับทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ตอีกครั้ง โดยวิศวกรของทีมจะประจำตามจุด Passage Control บนเส้นทางการแข่งขัน เพื่อคอยตรวจเช็กและซ่อมบำรุงรถแข่งที่กลับมาจากช่วง Special Stage ดังนั้น รถสนับสนุนที่รับส่งทีมงานและผู้อำนวยการทีมจะต้องสามารถเข้าถึงทุกจุดหมายได้อย่างไร้ปัญหา ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสภาพถนนแบบใดก็ตาม

โดยรถเดลิกา ดี:5 เป็นรถมินิแวนสมรรถนะรอบด้าน โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่งแบบ Rib-bone Frame ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางและสภาพอากาศ โดยรถเดลิกา ดี:5 ถูกใช้เป็นรถสนับสนุนของทีมในการแข่งขัน AXCR มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 และในครั้งนี้  มร.ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อำนวยการทีม ยังคงใช้ในการตรวจสอบเส้นทางการแข่งขันอีกด้วย ตัวรถยังได้รับการติดตั้งแผงอลูมิเนียมกันกระแทกป้องกันเครื่องยนต์และยกสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 20 มม. พร้อมติดตั้งระบบกันสะเทือนใหม่ทั้งหน้าและหลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางสุดทรหดโดยเฉพาะ

รถสนับสนุนทั้ง 4 คันจะถูกตกแต่งด้วยลวดลายเดียวกับรถแข่งไทรทัน แรลลี่คาร์ โดยเน้นโทนสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของทีม เสริมด้วยกราฟิกรูปพายุทรายสไตล์ดิจิทัล สื่อถึงฝุ่นทรายที่พัดพาแรงบันดาลใจแห่งสนามแข่ง ครอบคลุมตั้งแต่บริเวณด้านหน้าจรดกลางตัวรถ พร้อมประทับโลโก้ “Ralliart” ทั้งสองด้าน สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่พุ่งทะยานสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของทีม

และนี่คือ บทพิสูจน์หัวใจนักสู้และความแกร่งตัวจริง ของ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต กับศึกทางฝุ่นสุดโหด เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2025 หรือ AXCR 2025 กับการแข่งขัน 8 วัน บนระยะทางรวมกว่า 3,200 กิโลเมตร และทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต จะคว้าแชมป์แบบโอเวอร์ออล (Overall) ได้หรือไม่..ต้องติดตาม!

 

 

เรื่อง : พุทธิ ผาสุข

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save