Subaru Outback เจเนเรชันที่ 7 เผยโฉมที่สหรัฐอเมริกา
รถแวกอนครอสโอเวอร์ Subaru Outback เข้าสู่อายุ 30 ปีด้วยการมีรุ่นใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 7 เผยโฉมออกมาที่สหรัฐอเมริกา โดยรถรุ่นใหม่ยังคงจุดเด่นเดิมของรถเอาไว้พร้อมกับมีลักษณะที่เข้าใกล้รถเอสยูวีมากขึ้น รวมทั้งมีเกรดแต่งที่ลุยได้มากขึ้นออกมาเป็นทางเลือก
Subaru Outback ใหม่ถูกระบุว่านำเอาสไตล์ของรถเอสยูวีมาใช้กับรถโดยที่ยังคงจุดเด่นดั้งเดิมของรถในเรื่องความอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานในทุกวันเอาไว้ ทำให้ภายนอกของรถถูกออกแบบให้แสดงถึงพลังมากขึ้น ด้านหน้าของรถมีความแข็งแกร่งขึ้นและกว้างขึ้นด้วยการมีไฟหน้าแนวนอนทั้ง 4 มุมที่เพิ่มประโยชน์ในการใช้งานทั้งบนถนนและออฟโรด รวมไปถึงรถยังมีด้านหน้าที่ตั้งตรงมากขึ้น และมีกระจังหน้าขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างความแกร่งให้กับรถมากขึ้น ขณะที่ด้านล่างของกันชนหน้ามีพื้นผิวที่ทนต่อการขูดขีดพร้อมมีแอโรไดนามิกที่ดี
รถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ยังมาในรูปทรงกล่องมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเพื่อเสริมความสูงและความทนทานของรถ พร้อมมีแนวเส้นหลังคาที่เรียบตรงทำให้มีพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้น รวมไปถึงมีรูฟเรียลบนหลังคาที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 362 กิโลกรัมเมื่อรถจอดนิ่ง และมีครอสบาร์เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อช่วยให้บรรทุกสัมภาระได้สะดวกขึ้น ขณะที่ด้านหลังของรถมีไฟท้ายยาวเต็มความกว้างของรถเพื่อเสริมความกว้างและความสูงของรถ และส่วนล่างของกันชนหลังมีพื้นผิวทนต่อการขูดขีดเช่นเดียวกับกันชนหน้าเพื่อให้ความมั่นใจในการผจญภัย
ห้องโดยสารของรถมีจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 12.3 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ซึ่งมี Clam Mode ที่ช่วยลดความสับสนของผู้ขับมาให้ใช้นอกจากการแสดงข้อมูลใน Normal Mode ตามปกติ ส่วนจอ Infotainment มีขนาด 12.1 นิ้วมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่มีความล้ำหน้ามากขึ้น รองรับทั้ง Android Auto ไร้สายและ Apple CarPaly โดยสามารถเข้าถึงการทำงานได้ผ่านการจดจำเสียง และมีเมนูใหม่ที่ทำให้ใช้งานได้เร็วขึ้น
ห้องโดยสารของรถรุ่นใหม่ยังได้รับการบุหลังคาเพื่อให้มีความเงียบมากขึ้นจนลดเสียงรบกวนจากลมลง 10 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งให้ความสบายมากขึ้นและมีความอเนกประสงค์ขึ้น ด้วยการที่แนวเส้นหลังคาของรถสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 นิ้ว และมีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 979 ลิตร ส่วนพื้นของพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขึ้น 43.3 นิ้ว
รถรุ่นใหม่ทั้งหมดมากับเทคโนโลยี EyeSight Driver Assist ล่าสุดทำให้มีการทำงานต่างๆ อย่างระบบเบรกก่อนการชนด้านหน้า ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผัน ระบบช่วยให้รถอยู่กลางช่องจราจร ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องจราจร ระบบเบรกเมื่อมีรถผ่านด้านหน้า รวมทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการทำงานหยุดรถฉุกเฉินพร้อมนำรถเข้าสู่ช่องจราจรที่ปลอดภัยหากผู้ขับไม่ตอบสนองต่อการเตือน รวมไปถึงบางเกรดของรถผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้เมื่อขับบนทางหลวงที่ความเร็วถึง 136 กม./ชม.
การขับเคลื่อนของรถมีสองทางเลือกระหว่างเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 180 แรงม้า แรงบิด 241 นิวตัน–เมตร หรือเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เทอร์โบ 260 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตัน–เมตร โดยทั้งสองเครื่องยนต์ใช้ระบบส่งกำลัง Lineartronic CVT พร้อมชิฟต์โหมดแมนนวล 8 สปีดเหมือนกัน และมากับระบบขับเคลื่อนทุกล้อ โดยรถทั้งหมดมี X-Mode ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้มีสมรรถนะการลุยออฟโรดดีขึ้น รวมทั้งมีความสูงของใต้ท้องรถจากพื้น 8.7 นิ้ว
ในส่วนราคาของรถจะมีออกมาในช่วงใกล้ขายปลายปี 2025 นี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.