ADVENTURE (ตอนที่ 1) เรื่องโดย: พิทักษ์ ปราดเปรื่อง ภาพจาก: 4×4 Overland Explorer
การเดินทางผจญภัยด้วยรถยนต์โดยกลุ่ม 4×4 World Explorer จากมาเลเซียนำโดย Thomas Foo ผู้มีประสบการณ์ขับรถเดินทางทุกทวีปทั่วโลกมาแล้วกว่า 30 ปี โดยใช้รถยนต์ที่จดทะเบียนคาร์เน่ต์ (Carnet) จากออสเตรเลีย Toyota Landcruiser 10 คัน ส่งออกทางเรือจากมาเลเซีย ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังทวีปอเมริกาใต้ขึ้นฝั่งที่กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ในช่วงต้นปี 2568 และในระหว่างนั้นก็พาคณะผู้ร่วมเดินทางนั่งเครื่องบินไปลงบัวโนสไอเรส เพื่อการท่องเที่ยวนั่งเรือ Cruise จากเมือง อูซัวยา(Ushuaia) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “End of the World” เพือลุย“แอนตาร์กติกา”อยู่ที่ขั้วโลกใต้เป็นทวีปที่ 7 ของโลกเมื่อ 23-28 มีนาคม 2568 ตามที่ออฟโรดได้นำเสนอไปเป็นตอนแรก
ทริปขับรถยนต์ผจญภัยในแถบ Latin America หรืออเมริกาใต้เริ่มต้นขึ้น 28 มีนาคม (หลักจบ ทริปท่องเที่ยวเรือ Cruise) จากบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา > บราซิล > โบลิเวีย > เปรู >ชิลี แล้วกลับมาจบทีบัวโนสไอเรส 16 พฤษภาคม 2568 ใช้เวลา 50 วัน
เราใช้เวลา 2 วันท่องเที่ยวชมเมืองบัวโนสไอเรส จากนั้นก็เริ่มต้นขบวนคาราวานแลนด์ครุยเซอร์ 10 คันขับออกจากบัวโนสไอเรส เดินทางวันแรก 425 กม. บนถนนทั่วไปเข้าพักที่เมือง Concordia พอวันรุ่งขึ้นขับกันอีก 400 กม. เพื่อเข้าชมอุทยานแห่งชาติอิเบร่า (Pargque Nacional Ibera) ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและคุ้มครองที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์มากกว่า 4,000 สายพันธุ์รวมถึงนกมากกว่า 360 สายพันธุ์ แม้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนยังไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้ แต่การได้ภูมิภาคห่างไกลของอเมริกาใต้แห่งนี้ถือเป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้ชื่นชอบสัตว์ป่า
จากอุทยานแห่งชาติอิเบร่าขับกันไปอีก 500 กม.ก็ถึง “Puerto Iguazu” สายน้ำอันยิ่งใหญ่เป็นคำภาษาชาวอินเดียแดงเผ่าดั้งเดิมกวารานี น้ำตกอีกวาซูตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรหมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินากับประเทศบราซิล (รัฐมิชิโอเนส อาร์เจนตินา กับ รัฐปารานา บราซิล) เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีขนาดใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา โดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่า น้ำตกอีกวาซูเกิดจากแม่น้ำอีกวาซูซึ่งไหลมาจากที่ราบสูง ปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงสู่พื้นราบต่ำจึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่ 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝน (พฤศจิกายน-มีนาคม) มีปริมาณน้ำมากกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาทีมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร พวกเราพักท่องเที่ยวที่นี่ 2 คืน ก่อนจะเดินทางต่อไปข้ามแดนเข้าสู่ประเทศบราซิลระยะทาง 360 กม.
ประเทศบราซิลมีพื้นที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก (ใหญ่กว่าประเทศไทย 17 เท่า) กินพื้นที่ถึง 47% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ มีนครรีโอเดจาเนโร เป็นเมืองหลวง มหาอำนาจลูกหนังที่ทั่วโลกรู้จักกันดีเคยเป็นสถานที่แข่งขันบอลโลกเมื่อปี ค.ศ.1950 และ 2014 และทีมชาติบราซิลครองแชมป์บอลโลกมากที่สุดถึง 5 สมัย บราซิลมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติโดยเฉพาะป่าดิบชื้น Amazon (แอมะซอน) มีสายพันธุ์สัตว์ป่าหลายชนิด แต่พวกเรามาเที่ยวบราซิลครั้งนี้แบบผ่าน ๆ แค่เพียง 5 วันเท่านั้น เข้าพักที่ที่เมือง Navirai 1 คืน วันรุ่งขึ้นเราเดินทางกันต่อไป 407 กม. ถึงเมืองโบไนโต (Bonito) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเทศกาลคาร์นิวัลและสภาพอากาศยอดเยี่ยมเป็นการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของบราซิล องค์บริหารจัดการจุดหมายปลายทางของรัฐ Mato Crosso do Sul (เข้าไปดู Green initiative เว็บไซต์) เมืองโบนิโด รัฐมาตู โกรสซูดูซูล ประเทศบราซิล คณะของเราพักที่เมืองโบไนโต 2 คืน
พักผ่อนในการกิจกรรมอันยอดเยี่ยมดำน้ำกับปลาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเต็ม ๆก่อนจะเดินทางต่อไปอีก 350 กม. เข้าพักที่เมือง Corumba เป็นคืนสุดท้ายในประเทศบราซิล (Day10) ก่อนจะเดินทางข้ามแดนเข้าสู่ประเทศโบลิเวีย
(อ่านต่อตอนที่ 2 Day 11 Bolivia)
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.