Rolls-Royce Cullinan Series II ปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ เน้นความหรูหรามากกว่าเดิม
รถเอสยูวีสุดหรู Rolls-Royce Cullinan ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 ได้รับการปรับโฉมพร้อมกับมีชื่อ Series II ต่อท้าย ทำให้รถมาพร้อมกับด้านหน้าใหม่รวมทั้งมีความไฮเทคมากขึ้นในห้องโดยสาร โดยแนงทางการออกแบบรถรุ่นใหม่มาจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์หรูจากสหราชอาณาจักรเรียนรู้ว่าลุกค้าผู้ซื้อรถของตนมีอายุน้อย มักใช้งานรถในเมือง และขับรถเอง
ภายนอกของ Rolls-Royce Cullinan Series II แตกต่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมอย่างชัดเจนที่ด้านหน้า ด้วยการมีไฟ Daytime Running Light รูปตัวแอลคว่ำด้านบนและด้านข้างไฟหน้าที่ยาวลงมาถึงกันชนส่วนล่างท่ถูกออกแบบให้มีเส้นสายรูปตัววีต่อเนื่องมาจากไฟ Daytime Running Light นอจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รถมาพร้อมกับกระจังหน้าไฟ Backlit
ส่วน Cullinan Black Badge ที่มีความสปอร์ตและความเข้มมากขึ้นก็ได้รับการปรับโฉมตาม Series II แต่มีความแตกต่างจากรุ่นปกติด้วยการมีพื้นผิวของกระจังหน้าและโลโก้ Spirit of Ecstasy เหนือกระจังหน้าเป็นสีดำแทนโครเมียม ขณะที่ด้านหลังของรถมีปลายท่อไอเสีย การแต่งที่กันชนหลัง สปยเลอร์ปลายหลังคา ด้วยแบล็กโครมที่มีลักษณะ Mirror-Effect รวมทั้งรถมาพร้อมกับล้อขนาด 23 นิ้ว
ส่วนห้องโดยสารของรถมีจอดิจิตอลยาวเต็มความกว้างของแผงแดชบอร์ดตามรถไฟฟ้ารุ่น Spectre พร้อมระบบปฏิบัติการ Spirit รวมทั้งมี Spirit of Ecstasy ใค้นาฬิกา รวมทั้งสามารถเข้าสู่ Whispers แอปพ์สำหรับสมาชิกโดยเฉพาะของ Rolls-Royce ได้ รวมทั้งมีวัสดุใหม่สำหรับแต่งห้องโดยสารอย่างไม้ Grey Stained Ash สิ่งทอจากไม้ไผ่ที่เรียกว่า Duality Twill ส่วนรุ่น Black Badge มี Spirit of Ecstasy สีดำแทนโครเมียมพร้อมกับใช้คาร์บอนในการแต่งห้องโดยสารซึ่งถูกระบุว่าเคลือบแลกเกอร์ 6 ชั้นและใช้เวลาในการผลิตถึง 21 วัน
ขุมพลังของรถเอสยูวีหรูไม่เปลี่ยนแปลงที่ยังคงเป็นดครื่องยนต์ V12 6.75 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลัง 570 แรงม้าในรุ่นปกติ แต่รุ่น Black Badge มีกำลัง 600 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตัน-เมตร ขณะที่ราคาของรถทางผู้ผลิตไม่ได้เปิดเผยออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.