ย้อนรอยเกวียนเส้นทางสัมปทานทำไม้บริษัทชาติไพรบูลย์
ณ แก่งเสือเต้น อ.สอง จ.แพร่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ดงสักงาม ป่าสักทองธรรมชาติผืนใหญ่กว่า 20,000 ไร่ ที่ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างหนาแน่น มีความอุดมสมบูรณ์ของแมกไม้นานาพันธุ์
ไม่น่าเชื่อว่าป่าสักทองผืนนี้จะผ่านการสัมปทานมาแล้วถึงสองยุคสองสมัย โดยในช่วงแรกยุคบริษัทฝรั่งอย่างอีสต์เอเชียติก เข้ามาสัมปทานไม้ประมาณปี พศ. 2480 ส่งไม้ไปยังอังกฤษ ไม้ขนาดใหญ่สองสามคนโอบซึ่งมีอายุหลายร้อยปี จึงถูกส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นยุคทองรุ่งเรืองในอุตสาหกรรมทำไม้ในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก ยุคสมัยยุคสมัยที่สอง บริษัทของคนไทยอย่าง บริษัท ชาติไพบูลย์ ได้รับสัมปทานประมาณช่วงปีพศ. 2500 และในปีพศ. 2529 พื้นที่กว่า 284,218.75 ไร่ หรือประมาณ 454.75 ตารางกิโลเมตร ได้ถูกประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแม่ยม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ แพร่ น่าน ลำปาง และพะเยา ต่อมามีการประกาศปิดป่าและยุติการให้สัมปทานป่าในปีพศ. 2532 เป็นต้นมา ทำให้ป่าสักทองผืนนี้ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างน่าทึ่ง
ครั้งนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นคนในพื้นที่เลยคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เลยเข้าไปปรึกษาทางชาวบ้านที่ไปหาของป่าจำพวก เห็ดป่าหรือหน่อไม้ ว่าเส้นทางลากไม้เก่าปัจจุบันมีสภาพเช่นไร ชาวบ้านให้คำตอบว่าทางรกและลำบากมากเหลือแต่รอยล้อรถมอเตอร์ชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่ายากที่จะเข้าไปถึงจุดที่เรียกว่า “น้ำตกตาดผาเหิบ “เป็นน้ำตกขนาดเล็กกลางป่ามีความลดหลั่นเป็นชั้นสวยงามผู้เขียนเลยชักชวนสมาชิกออฟโรด ชมรมแก่งเสือเต้นออฟโรด,ชมรมลุ่มน้ำงาวออฟโรด และกลุ่มสมาชิกออฟโรดในตัวจังหวัดลำปาง โดยวางแผนกันว่าจะเลือกใช้เส้นทางป่าฝั่งตะวันออกของอ.งาว ซึ่งเป็นพื้นที่ผืนป่าเดียวกันกับป่าแก่งเสือเต้นโดยเส้นทางค่อนข้างมีความหลากหลายทั้งวิ่งขึ้นเขาเนินชัน เนินสลับ พื้นที่เอียงและวิ่งในลำห้วยที่เป็นลักษณะแผ่นหินขนาดใหญ่
แต่การเข้าไปป่าที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเราต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่เขตป่าสงวนเพื่อจัดกิจกรรมทำฝายชะลอน้ำกึ่งชั่วคราว เพื่อที่จะได้เป็นแหล่งให้สัตว์ป่าลงมากินน้ำและช่วยให้ป่าชุ่มชื้นเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้พวกเราทำฝาย พร้อมส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเราสร้างฝายชะลอน้ำ หลังจากที่ทำฝายเสร็จแล้วพวกเราก็เดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปหาน้ำตกตาดผาเหิบ ซึ้งเป็นจุดหมายปลายทางในครั้งนี้ เราวิ่งในลำห้วยส้ม ไปประมาณ3กิโลก็เลี้ยวแยกขึ้นดอยซึ้งช่วงที่วิ่งในลำห้วยทางถือว่าค่อนข้างดีส่วนใหญ่เป็นลำห้วยพื้นเป็นทราย แต่หลังจากนั้นขับขึ้นเขาไปเพียง 100 เมตรเราก็เจอเนินรับแขก
จุดนี้เองเราเสียเวลามากเพราะลักษณะทางร่องตัว V บังคับเลี้ยวขวาแถมขึ้นเนินอีกจุดนี้มีรถเอียงตะแคงข้างกันหลายคันเลยรถของเสี่ยอ๊อดแพร่ ไทเกอร์ก็คงจะบรรทุกน้ำแข็งมามากแอบมาเทน้ำแข็งทิ้งตรงจุดนี้เกือบหมดถัง ผู้เขียนเองก็ต้องลงมาดูทางว่าจะเกาะไลน์ซ้ายหรือไลน์ขวาหากพลาดคงไม่ต่างกันคงจะเทน้ำแข็งทิ้งตรงบริเวณนี้เป็นแน่ บรรยากาศเริ่มมืดครึ้มเหมือนจะมีฝนแอบคิดในใจว่าว่าตกมารับรองว่าสนุกแน่ๆผู้เขียนขับวิ่งมาประมาณ 100 เมตร ผมก็เจอเนินหินงานนี้หินจริงๆ เพราะรถหลายคันเพลาขาดตรงจุดนี้โชคยังดีที่เตรียมอะไหล่มาด้วยทำให้รถหลายคันที่ยางต่ำกว่า 35 นิ้วต้องหลบไลน์ตรงเนินหินขับอ้อมเพื่อประหยัดเวลาเพราะทางยังเหลืออีกไกล หลังจากรถกลุ่มหลังซ่อมเสร็จ ผู้เขียนจึงขอออกเดินทางนำไปก่อนวิ่งไปสักพักเราก็ไปเจอเนินฉลาม
ผมเองก็สงสัยว่าทำไมต้องเรียก”เนินฉลาม” สอบถามได้ความว่า เพราะหากขับมอเตอร์ไซค์มาจะต้องมาจอดพักดื่มเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่งตามชื่อเนินแล้วทิ้งขวดไว้แถวนั้นทำให้บริเวณดังกล่าวมีแต่ขวดเครื่องดื่มชูกำลังทิ้งเร่ยราด ไปทั่วบริเวณ ตรงจุดนี้เป็นลักษณะเนิน สลับร่องลึกทำให้รถที่ไม่มีอาวุธลับดริ๊ฟล๊อคงานนี้ถึงกับต้องถึงวิ้นกันหลายคันเลย ผมเองก็ขับไปเรื่อยๆ จนมาเจอเนินม่อนลิ่นตรงจุดนี้เองที่ชาวบ้านบอกนักหนาให้ระวังหากพลาดจะคว่ำเอาง่ายๆผู้เขียนเองจึง วอ ไปบอกให้ ทางสมาชิกลงมาดูเนินกันก่อนจะได้กะ ระยะถูก หลังจาก ผ่านม่อนลิ่นมาได้ทางค่อนข้างจะดีแต่ต้องตัดต้นไม้ที่ล้มขวางทาง3-4จุด เราก็ขับลงเขามาถึงจุดแค้มป์กลางลำห้วยในป่าเกือบมืดผมถาม พี่วีชาวบ้านที่จ้างนำทางมาว่าจุดที่เราแค้มป์เราไปหาน้ำตกได้หรือไม่พี่วีบอกว่าพรุ่งนี้เช้าเดินเท้าไปอีกประมาณ 400เมตรก็จะถึงน้ำตก ค่ำคืนวันนั้นเราก็สรุปว่าพรุ่งนี้เราจะออกทางแก่งเสือเต้นหรือจะวนออกเส้นทางลงห้วยออกทางอ.งาว หลายคนคงจะเพลียที่ต้องทั้งลากวิ้นตัดต้นไม้ที่ล้มขวางทางเลยขอเลือกทางในห้วยเพราะหากขึ้นเขาในวันพรุ่งนี้เช้ากลัวจะเจอไม้ล้มขวางทางจะต้องออกแรงเยอะ..
เช้าวันใหม่บรรยากาศฝนตกพร่ำๆผู้เขียนเองตอนนแรกว่าจะไปถ่ายน้ำตกตาดผาเหิบคงต้องงดเพราะกลัวฝนตกลงมาหนัก พวกเราจึงรีบเก็บสัมภาระออกเดินทางกันต่อโดยมุ่งหน้าไปห้วยจำคาวตอง(ผักคาวตองเยอะมากห้วยนี้)เส้นทางบังคับทางแคบร่องวีเนินสลับช่างเป็นเส้นทางที่ถึงว่ายากมากในระดับหนึ่งตรงจุดที่เป็นทางลงรถหลายคันเกือบตะแคงบางคันท้ายรถฟาดกับเนินหินแต่ก็ผ่านได้ด้วยดี ขับมาสักพักเราเจอจุดที่ชาวบ้านเรียกว่า “ผาลาด” ช่างสวยงามจริงๆดังมีคนมาสร้างไว้เป็นแผ่นหินราบเรียบขนาดใหญ่เสียดายที่น้ำไหลน้อยไปหน่อยหากไปช่วงเดือน สิงหาคม คงจะสวยงามไม่แพ้ที่ใด
ทริปนี้หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เส้นทางหลากหลายอารมณ์ ความยากง่ายบอกเลยว่าหากเจอฝน ระดับ 5 ดาวเลย แต่สำหรับทริปนี้เอาเป็นว่าฝนน้อยไป 3 ดาวละกัน
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ Off Road Magazine
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.