การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรกำลังจะมีราคาแพงขึ้น และไม่เกี่ยวอะไรกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ
รัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวว่าตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 จะเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ (VED-Vehicle Excise Duty) ซึ่งเป็นการเก็บภาษียานยนต์ทั้งหมดที่ชาวอังกฤษส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ “ภาษีท้องถนน”
(Road Tax-ภาษีท้องถนนที่รู้จักกันในชื่อต่างๆ ทั่วโลก เป็นภาษีที่ต้องชำระกับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สำหรับใช้งานบนถนนสาธารณะ)
นายกรัฐมนตรี Jeremy Hunt กำลังหาทางเพื่อแก้ไขช่องโหว่ทางการเงินขนาดใหญ่ในด้านการเงินของสหราชอาณาจักร ส่วนหนึ่งเป็นผลจากงบประมาณที่ประกาศเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน แผนการของ Kwasi Kwarteng สำหรับการลดภาษีที่ไม่มีเงินเข้ามาแบกรับภาระจำนวนมาก ซึ่งทำให้ตลาดการเงินตื่นแตกตื่น ส่งผลให้เงินปอนด์ร่วงลงและอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้น
เจ้าของรถยนต์เบนซินและดีเซลจ่ายอัตรา VED ที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับการปล่อย CO2 ของรถแต่ละคัน ในขณะที่เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้ากลับมีความสุขที่ได้ขับรถบนถนนในอังกฤษโดยไม่ต้องเสียภาษีใดๆ เลย เพราะรัฐบาลชุดก่อนหน้านี้มีการเสนอให้การขับรถปลอดภาษีเป็นแรงจูงใจเพื่อให้ผู้คนเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ทาง Jeremy Hunt กลับเห็นต่างและต้องการยุติการยกเว้นเพื่อความยุติธรรมต่อคนใช้รถใช้ถนนมากขึ้น
อัตราภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงต่ำกว่าอัตราภาษีสำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ก่อมลพิษสูง โดยจะมีจำกัดการขึ้นภาษีไว้ที่ 1 เปอร์เซ็นต์ทุกปี ตั้งแต่ปี 2025
Ian Plummer จาก Auto Trader ก็ออกมาเตือนเมื่อเห็นประกาศดังกล่าว ว่า “หากมีการเพิ่มภาระใช้จ่ายมากขึ้น จะผลักดันให้หลายคนซื้อเลิกใช้ EV มากขึ้น เมื่อสิ่งจูงใจอื่นๆ กำลังถูกยกเลิก และค่าพลังงานที่สูงกำลังบั่นทอนข้อดีของการใช้ไฟฟ้า”
อย่างไรก็ตาม ชาวอังกฤษส่วนใหญ่อาจคาดหวังว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายในบางจุดให้ดีขึ้น เนื่องจากประเทศกำลังห้ามการขายรถยนต์สันดาปภายในปี 2030 และก็ต้องการที่จะเก็บเงินภาษี แต่ก็ยังมีตัวเลือกที่น่าสนใจคือการซื้อรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 40 ปี จะได้รับการยกเว้นภาษีถนนและการทดสอบความปลอดภัยของยานพาหนะประจำปี
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย Off Road Magazine
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ https://offroadmag-thailand.grandprix.co.th/
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.