2023 Aston Martin DBX707 ขึ้นแท่นราชาแห่งเอสยูวี ใส่ขุมพลัง V8 พละกำลัง 697 แรงม้า
Aston Martin ได้เปิดตัวธงสมรรถนะสูงของกลุ่ม DBX ที่ได้รับการขนานนามว่า “DBX707” เป็นเอสยูวีสุดหรูที่ทรงพลังที่สุดในโลกด้วยฝูงม้าที่มากถึง 697 ตัว จากเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบที่ปรับจูนมาจากโรงงาน รวมกับเกียร์ DCT ใหม่, อัพเกรดแชสซีและการปรับเส้นสายให้เฉียบคมมากกว่าเดิม
เริ่มต้นด้วยขุมพลัง 4.0 ลิตร V8 ทวินเทอร์โบ จาก AMG ได้รับการปรับแต่งใหม่จากทีมวิศวกรของ Aston Martin เพื่อให้เจ้า 2023 Aston Martin DBX707 สร้างพละกำลังได้สูงสุดอย่างน่าประทับใจที่ 697 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร นับว่าเป็นการแสดงถึงกำลังมหาศาลเมื่อเทียบกับ DBX โมเดลทั่วไป เพราะมีแรงม้ามากกว่าเดิม 155 ตัว และแรงบิดเพิ่มขึ้น 200 นิวตันเมตร
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ 2023 Aston Martin DBX707 มีพละกำลังมากกว่ารถเอสยูวีรุ่นอื่นๆ ที่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง Lamborghini Urus (641 แรงม้า) และ Bentley Bentayga (626 แรงม้า) แน่นอนว่า Aston Martin จะเป็นราชาแห่งเอสยูวีไว้จนกว่าโมเดลปลั๊กอินไฮบริดของคู่แข่งจะมาถึงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
2023 Aston Martin DBX707 ยังได้รับเกียร์ DCT แบบ 9 สปีดรุ่นใหม่ มาแทนที่เกียร์ทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ทำให้เกียร์สามารถตอบสนองในการเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและลิมิเต็ดสลิปที่อัพเกรดแล้ว ทำให้มันสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.2 วินาที โดยทาง Aston Martin ระบุว่าสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 310 กม./ชม. ทำให้ DBX707 เป็นรถที่เร็วที่สุดในกลุ่มรถเอสยูวีสุดหรู แซงหน้า Bentley Bentayga Speed เคยทำตัวเลขความเร็วสูงสุดไว้ที่ 306 กม./ชม.
2023 Aston Martin DBX707 ได้รับการปรับแต่งแชสซีให้เหนือกว่า DBX รุ่นมาตรฐาน ซึ่งรวมถึงการเซ็ทอัพระบบกันสะเทือนใหม่ที่ใช้แบบถุงลมสามห้องแบบปรับได้ พร้อมวาล์วแดมเปอร์และสปริงใหม่ รวมถึงพวงมาลัยและระบบอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนระบบเบรกยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยจานเบรกคาร์บอนเซรามิกขนาดมาตรฐาน ด้านหน้า 420 มม. และด้านหลัง 390 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกแบบ 6 ลูกสูบ
ภายนอกของ DBX นั้นเป็นเอสยูวีที่ต้องบอกว่าหล่อเหลาเอาการอยู่แล้ว แต่ชุดแต่งที่ออกแบบใหม่ทำให้ 2023 Aston Martin DBX707 ดูดุดันยิ่งขึ้นจากทุกมุมมอง โดยด้านหน้าถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพในหารไหลผ่านของอากาศสูงสุด รวมถึงกระจังหน้าออกแบบมีให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมและขนาบข้างด้วยช่องดักอากาศไอดี พร้อมติดตั้งไฟส่อง สว่างกลางวัน DRL บวกกับติดตั้งลิ้นล่างให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น แน่นอนว่าส่วนที่ตกแต่งเพิ่มเติมเหล่านี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อโชว์สวยๆ เท่านั้น แต่มันยังสัมพันธ์ถึงหลักแอโรไดนามิกและการระบายความร้อนที่มากขึ้นสำหรับเครื่องยนต์ กระปุกเกียร์ และเบรก
ตัวรถยังมาพร้อมกับล้อฟอร์จขนาด 23 นิ้ว ที่ช่วยเสริมทั้งสัดส่วนและการควบคุมได้อย่างลงตัว ขณะที่กาบบันไดด้านข้างมีครีบไปทางด้านหลังเพื่อจัดระเบียบลมไหลผ่าน และส่วนบั้นท้ายซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของ DBX รุ่นนี้ เพราะได้รับดิฟฟิวเซอร์สไตล์ F1 ยื่นออกมาจากส่วนล่างของกันชน ส่วนด้านบนตัวรถติดตั้งสปอยเลอร์หลังดีไซน์เฉียบ โดยรวมแล้วนั้นชุดแต่งที่ออกแบบมาทั้งคันให้มีการไหลเวียนของอากาศที่ดีขึ้น และใช้สีที่ดูโดดเด่นตัดกับสีตัวถังด้วยสีดำเงา แต่ก็มีลายคาร์บอนไฟเบอร์ให้เลือกเป็นออฟชั่นเสริม
ภายในห้องโดยสารของ 2023 Aston Martin DBX707 ส่วนประตูจะเป็นระบบปิดแบบแบบนุ่มนวล ส่วนล่างของคอนโซลกลางออกแบบใหม่ บนคอนโซลกลางมีสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่แบบใหม่ ซึ่งรวมถึงปุ่มสำหรับโหมดช่วงล่างโดยเฉพาะ, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ, โหมดเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา และสวิตช์ไอเสียแบบแอ็คทีฟ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกการตั้งค่าของตนเองได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องผ่านเมนูหน้าจอสัมผัสเหมือนใน DBX รุ่นมาตรฐาน
ที่เพิ่มเข้ามาคือเบาะนั่งแบบสปอร์ตมีมาให้เป็นมาตรฐาน ส่วนเบาะนั่งแบบคอมฟอร์ทเป็นตัวเลือกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมกับระบบปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางและระบบทำความร้อน โทนสีภายในห้องโดยสารมีให้เลือกสามแบบ โดยตัวเลือกมาตรฐานมีวัสดุที่เป็นทั้งหนังแท้และหนัง Alcantara ผสมผสานกับแผ่นไม้อัดเปียโนแบล็ค แน่นอนว่า Q by Aston Martin พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นทั้งในด้านสี การตกแต่งและวัสดุที่ใช้
2022 Aston Martin DBX707 มีกำหนดส่งมอบในในตลาดสหรัฐฯ ช่วงไตรมาสที่สองของปี 2022 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 232,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,705,000 บาท) ทำให้มันมีราคาแพงกว่าคู่แข่งอย่าง Lamborghini Urus อยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังถูกกว่า Bentley Bentayga Speed อยู่ประมาณเกือบ 300,000 บาท
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.