ตั้งแคมป์ที่กระต่ายกินเนื้อ เมืองกาญจน์
สำหรับสายแคมป์ปิ้งที่รักในการใช้ชีวิตเรียบง่าย ได้ผ่อนคลายร่างกายไปกับธรรมชาติ ให้ป่าเขาได้โอบกอดเราบ้าง ด้วยการไปนอนกางเต็นท์ฟินๆ กินบรรยากาศกันที่ลานกางเต็นท์ จังหวัดกาญจนบุรี ที่ชื่อว่า “กระต่ายกินเนื้อ”
วันนี้เราออกเดินทางกันแต่เช้า เพื่อที่จะได้แวะเที่ยว แวะกิน ไประหว่างทาง แม้ว่าเมืองกาญจะไม่ได้ใช้เวลาเดินทางนานมากนัก จากกรุงเทพฯ แต่ด้วยสภาพอากาศในวันออกเดินทางไม่เป็นใจเท่าไหร่ ฝนดันตกลงมาตั้งแต่เริ่มขนของขึ้นรถ ทำให้เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างใช้เวลานานมากกว่าปกติ และถึงเมืองกาญก่อนเที่ยงนิดหน่อย จนได้แวะกินของอร่อยที่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่านี่คือของดีเมืองกาญอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ ขนมปากหม้อญวน
มื้อนี้เราขอแวะกินปากหม้อญวนที่ร้าน “ราตรี ปากหม้อญวน” ที่เพื่อนชวนมาแวะ บอกว่าอร่อยนักหนา เราจอดรถในซอยฝั่งตรงข้ามร้าน ฝนยังคงพรำลงมาต่อเนื่องตั้งแต่กรุงเทพฯ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการกินของเรา
ภายในร้านเป็นร้านที่เรียบง่าย มีโต๊ะให้เห็นอยู่ 3 มุม พร้อมกับปากหม้อและไส้ต่างๆ ตั้งอยู่ประจำโต๊ะ นั่นก็เพราะเมื่อเวลาเราสั่ง เขาก็จะมีคนทำมายืนทำให้สดๆ ตรงหน้า
ทีแรกคิดว่าเป็นอารมณ์ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ แบบที่จังหวัดฉะเชิงเทรา (เราเคยกินแต่แบบนั้น) ปรากฏว่าไม่ใช่จ้า ก็คือเป็นปากหม้อญวนจริงๆ กินเปล่าๆ กับน้ำจิ้ม พร้อมตะกร้าผักสดตรงหน้า ใครอยากกินไส้ไหนก็สั่ง
เริ่มแรกเขาจะทำให้เซ็ตละ 5 ชิ้น ก็คือมีไส้หัวไชเท้า ผักกาดดอง เต้าหู้ กุยช่าย หมูยอ และไชโป๊หวาน (ที่มักจะทำให้เป็นเซ็ตสุดท้าย คล้ายการปิดท้ายด้วยของหวาน) ซึ่งเขาใช้วิธีจำว่าใครกินไปกี่ชิ้น เรากินเองยังจำไม่ค่อยได้ว่าหมดไปกี่ชิ้นแล้ว เขาขายชิ้นละ 2 บาท และสอบถามคนขายมาว่า คนที่กินได้มากที่สุด ก็คือ ฟาดเข้าไปตั้ง 105 ชิ้น ใครที่อยากมาทำลายสถิติก็ลองดูนะ กินเพลิน อร่อยดี สามารถเซิร์ชหาชื่อร้านใน google map ได้เลย
เมื่อกินเสร็จ อิ่มท้อง เรายังพอมีเวลาเหลือที่จะแวะเที่ยวในที่ที่เรายังไม่เคยไป และดูจากรีวิวมาว่า ที่นี่น่าสนใจ เราขับรถต่อไปอีกราวครึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะต้องผ่านไปยังลานกางเต็นท์อยู่แล้ว ที่นี่ชื่อว่า “กำแพงถ้ำนก” ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอท่าม่วง ในจังหวัดกาญจนบุรี
เส้นทางเข้าไปเป็นดินแดง แนะนำว่าใช้รถปิ๊กอัพจะเหมาะกว่ารถเก๋ง เพราะช่วงนี้ฝนตก ดินจะยวบๆ หน่อย ซึ่งต้องบอกว่าที่นี่ยังไม่ได้โด่งดัง หรือมีคนมาเที่ยวมากเท่าไหร่นัก คนส่วนใหญ่ที่มาก็จะเป็นสายลุย รักธรรมชาติ แบบตั้งใจแวะมาเพราะอยากสัมผัสความเป็นอยู่ของนกจริงๆ แต่รับรองได้ว่าถ้ามาแล้วต้องทึ่งกับความอลังการ และความสามารถของนกหลายร้อยหลายพันตัวที่พากันมาทำรังจนทำให้ที่นี่สวยราวกับงานสถาปัตยกรรมล้ำค่าเลยล่ะ
เดินทางต่อจากกำแพงถ้ำนกไม่เกินชั่วโมง ก็มาถึงลานกางเต็นท์ของเราแล้ว ถามว่าทำไมต้องเป็นกระต่ายกินเนื้อ ก็เพราะว่าเดิมที่ ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของค่ายลูกเสือ ที่มีการปลูกผักออแกนิกให้บรรดาลูกเสือที่มาเข้าค่ายได้นำไปทำอาหาร จนมีการตั้งชื่อว่า “เสือกินผัก”
แล้วต่อมาก็ได้มีการปรับพื้นที่มาทำเป็นลานกางเต็นท์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของไลฟ์สไตล์คนในยุคนี้ พร้อมตั้งชื่อให้สอดคล้องกับชื่อเดิมว่า “กระต่ายกินเนื้อ”
ลานกางเต็นท์กระต่ายกินเนื้อ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย เป็นลานสนามหญ้ากว้างๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ตั้งเด่นเป็นร่มเงาให้เราได้ตั้งแคมป์ รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวสายแคมป์ปิ้งได้ทุกกลุ่ม ทั้งที่มาเป็นครอบครัว หือมากับแกงค์เพื่อน มีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ ที่พ่อแม่พามาเปิดประสบการณ์ มีจักรยานให้ขี่ชมวิว หรืออยากจะนั่งตกปลาริมแม่น้ำก็ทำได้
สิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่มีครบครัน มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำหลายห้อง และหลายจุด (แยกหญิงชาย) มีจุดต่อปลั๊กไฟทุกมุม มีลานล้างจานพร้อม มีจุดจอดรถ มีรถเข็นสัมภาระไปจุดกางเต็นท์ เรียกว่าเพียงแค่คุณมาแต่ตัวกับอุปกรณ์แคมป์ปิ้งก็พอ
ซึ่งวันที่เราเดินทางมา ฝนตกกระหน่ำก่อนที่เราจะได้ตั้งแคมป์ ทำให้พื้นดินชุ่มฉ่ำ เปียก มีน้ำขังเป็นจุดๆ ถือว่าเป็นการกางเต็นท์ที่ลำบากที่สุดเท่าที่เคยไปมาแล้ว แต่ถ้าฝนไม่ตกนะ ที่นี่บรรยากาศดีมาก ลานกางเต็นท์สวยงามทุกจุด อยากตั้งแคมป์ตรงไหนก็ได้หมดเลย
เราเลือกตั้งแคมป์กันตรงเนินริมน้ำ เพื่อที่จะได้รับความเย็นในช่วงกลางคืน ซึ่งก็ต้องบอกว่าอากาศหลังฝนตกนั้นเย็นสบายๆ จริงๆ อาหาร เครื่องครัว ที่เราหอบหิ้วกันมา กว่าจะได้เริ่มทำ ฟ้าก็มืดลงซะแล้ว เพราะมัวแต่ปล้ำกับฟลายชีท ที่กางยากกางเย็นซะเหลือเกิน ด้วยความที่พื้นดินเปียก จนเต็นท์ข้างๆ เราคงทนไม่ไหว เห็นว่าเรากางกันอยู่นาน เลยเดินมาช่วยกาง พร้อมให้ยืมเสาเพิ่มอีกต่างหาก นี่ไง…ที่เขาบอกว่าการออกไปใช้ชีวิตแบบนี้ เรามักจะได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นเสมอ
กฏระเบียบของกระต่ายกินเนื้อ
- ห้ามจอดรถบนสนามหญ้า
- ทิ้งขยะในจุดทิ้งที่กำหนดไว้เท่านั้น
- สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยได้ แต่ห้ามให้สัตว์ส่งเสียงดังรบกวน และต้องเก็บอุจจาระให้เรียบร้อย
- ห้ามลงเล่นน้ำ
- หารใช้แอร์เคลื่อนที่ ต้องไม่เกิน 9,000BTU ซึ่งต้องแจ้งตอนลงทะเบียนก่อนใช้บริการ หากไม่แจ้งก่อน ปรับ 2,000 บาท (ไม่มีบริการเช่าแอร์)
- สามารถประกอบอาหารได้ แต่ห้ามก่อไฟบนสนามหญ้า หากหญ้าเกิดความเสียหายจากความร้อน ปรับ 2,000 บาท
- หากกางเต็นท์บริเวณใต้ต้นไม้ และมีกิ่งไม้หล่นใส่จนทรัพย์สินของผู้เข้าพักเสียหาย ทางกระต่ายกินเนื้อไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อทรัพย์สินนั้นๆ
งดใช้เสียงดังหลัง 22.00 น. หากฝ่าฝืนจะโดนเชิญออก
การจองก่อนเข้าพัก
- สามารถจองผ่าน Facebook: กระต่ายกินเนื้อลานกางเต็นท์ ได้เลย
- การจองล่วงหน้า เป็นการจองเพื่อจำกัดจำนวนผู้เข้าพักเท่านั้น ไม่สามารถจองจุดที่จะกางเต็นท์ได้ (แนะนำให้ไปไวๆ จะได้พื้นที่ดีๆ)
- มีอุปกรณ์ให้เช่า เช่น ปลั๊กไฟ พัดลม เตาย่าง
- ค่าบริการ ผู้ใหญ่ 200 บาท/ คน/ วัน
- ค่าบริการเด็กอายุ 12-15 ปี 100บาท/ คน / วัน
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรี
- แจ้งล่วงหน้า หากต้องการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วย
เชื่อมั้ยว่า การได้ออกมากางเต็นท์กับเพื่อนๆ ทุกครั้ง มันเหนื่อยนะ เพราะมันต้องทำหลายอย่าง ทั้งขั้นตอนการกางเต็นท์ การทำอาหาร แถมต้องใช้ห้องน้ำรวมอีกต่างหาก (ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบเอาซะเลย) แต่มันเป็นความเหนื่อย ที่สนุก และมีความสุขมากๆ เพราะเราได้ใช้เวลากับมันจริงๆ ทำในสิ่งที่เรานอนบ้าน หรือนอนโรงแรมเราไม่ได้ทำ ได้ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ และเพื่อนที่รู้ใจ ดังนั้น สำหรับใครที่ลังเลว่าจะลองไม่ลองดีกับการแคมป์ปิ้ง แนะนำเลยว่าลองสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักมัน เหมือนครั้งนี้ที่เรามานอนกางเต็นท์ฟินๆ ที่กระต่ายกินเนื้อ กาญจนบุรี
Comments are closed.