2023 Kia Sportage ปี 2023 เพิ่งเปิดตัวสำหรับตลาดสหรัฐฯ ไม่กี่เดือนหลังจากเปิดตัวในตลาดอื่นๆ เช่น ยุโรป แต่มีขนาดความยาวของตัวรถมากกว่าที่ขายอยู่ในออสเตรเลีย และเกาหลีใต้
2023 Kia Sportage เข้าสู่ตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐฯ จะถูกประกอบที่โรงงานผลิตของ Kia ในเมืองเวสต์พอยต์ รัฐจอร์เจีย โดยส่วนใหญ่โมเดลที่ในสหรัฐอเมริกาจะเหมือนกับรุ่นที่ขายในตลาดอื่นๆ ยกเว้นยุโรปที่ Sportage มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย
ด้วยเหตุนี้ Kia Sportage จึงสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบ ‘Opposites United’ ของผู้ผลิตรถยนต์ และมีกระจังหน้าทรงจมูกเสือขนาดใหญ่ สะดุดตาด้วยไฟส่องสว่างกลางวัน LED รูปทรงบูมเมอแรง ซุ้มล้อโค้งมน มีเส้นสายข้างตัวรถที่เด่นชัด และไฟท้ายแบบ LED
Kia Sportage รุ่นล่าสุดยาวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้อยู่ที่ 7.1 นิ้ว นอกจากนี้ยังสูงและกว้างกว่ารุ่นเก่าครึ่งนิ้ว และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 3.4 นิ้ว ขนาดที่เพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้มีพื้นที่วางขาด้านหลังที่น่าประทับใจอยู่ที่ 41.3 นิ้ว และพื้นที่เก็บสัมภาระ 1,104.3 ลิตร
ลูกค้าในสหรัฐอเมริกามีรุ่นย่อยมากมายสำหรับซับคอมแพ็คเอสยูวีใหม่ โดยเริ่มจาก LX เป็นรุ่นระดับเริ่มต้น ตามมาด้วย EX, SX, SX-Prestige, X-Line และ X-Pro และ X-Pro Prestige ใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมแผงหน้าจอแสดงผลดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว และ Apple CarPlay และ Android Auto
คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่เป็นมาตรฐาน ได้แก่ ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบช่วยให้รถขับอยู่ในช่องทางเดินรถ, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, การหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหว, การแจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง, จอภาพด้านหลัง และเซ็นเซอร์แจ้งเตือนเมื่อถอยหลัง
ออพชั่นภายในที่สำคัญ ได้แก่ ระบบเสียงระดับพรีเมียมของ Harmon Kardon, การเชื่อมต่อ Bluetooth แบบหลายจุด, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย และบริการ Kia Connect ที่มี Wi-Fi hotspot รวมลำโพงอัจฉริยะ
สำหรับใคราที่มองหาตัวเลือกที่มีความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดมากกว่าทางดำธรรมดา ก็จะมีรุ่น Sportage X-Line, X-Pro และ X-Pro Prestige ให้เลือก โดยทุกรุ่นที่กล่าวมาจะมีกันชนหน้าและหลังที่โดดเด่นพร้อมชิ้นส่วนที่ตัดด้วยสีเงินด้าน กระจกมองข้างสีดำเงา ราวแร็คหลังคาแบบยกสูง ขอบหน้าต่างและล้อขนาด 19 นิ้ว ซึ่งเป็นการออกแบบที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะรุ่น
ในขณะเดียวกันรุ่น X-Pro มีล้อสีดำด้านขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง BF Goodrich all-terrain ไฟตัดหมอก LED, ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ LED, หลังคาทูโทน และระบบเป่าลมร้อนไล่ฝ้า นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกให้งานให้เหมาะกับภูมิประเทศ ส่วนในรุ่น X-Pro Prestige เสริมด้วยเบาะนั่งด้านหน้าแบบระบายอากาศและปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง
2022 Kia Sportage มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยที่เป็นออพชั่นเสริมให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจจับมุมอับสายตา, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนกันในจุดบอด, ระบบหลีกเลี่ยงการชนในจุดบอดตรงทางออกคู่ขนาน, ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหลัง, ระบบหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าเมื่อเลี้ยวทางแยก, ระบบเตือนระยะการจอดรถข้างหน้า, ระบบช่วยเหลือการขับขี่บนทางหลวง, ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ, ระบบช่วยจำกัดความเร็ว Smart Cruise Control-Curve, ระบบนำทาง, ระบบช่วยเหลือในการจอดและป้องกันการชนจากวัตถุที่กำลังเคลื่อนมาจากด้านหลังขณะกำลังถอยรถ, ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปิดประตู และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบอัจฉริยะพร้อมระบบหยุดและไป
Kia Sportage ทุกรุ่นในโมเดลปี 2023 ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร 4 ลูกสูบ ให้กำลังสูงสุด 187 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีระบบขับเคลื่อนล้อหน้า FWD และระบบขับเคลื่อนทุกล้อ AWD ให้เลือกสรร ส่วนระบบส่งกำลังอื่นๆ จะเปิดตัวในภายหลัง รวมถึงระบบไฮบริด
ยังไม่มีการประกาศรายละเอียดราคา แต่จะเริ่มขายในไตรมาสแรกของปี 2022 แน่นอน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.