ผู้จัดจำหน่ายชิปรถยนต์ของจีนถูกปรับเงิน 12 ล้าน หลังจากขึ้นราคาสูงถึง 4,000 เปอร์เซ็นต์
หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้ปรับเงินผู้จัดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ยานยนต์ จำนวน 3 ราย เนื่องจากตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่จะช่วยอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนและประเทศอื่นๆ ในโลกที่กำลังเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนชิปทั่วโลก
บริษัททั้งสาม ได้แก่ Shanghai Cheter, Shanghai Chengsheng Industrial และ Shenzhen Yuchang Technologies ถูกปรับ 2.5 ล้านหยวน (ประมาณ 12,767,900 บาท) โดย State Administration of Market Regulation (SAMR) หรือสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของจีน
ตามรายงานของ South China Morning Post ระบุว่าหน่วยงานกำกับดูแลกำลังตรวจสอบการกักตุนชิป พบว่าทั้งสามบริษัทได้ขึ้นราคาถึง 40 เท่า ซึ่งการปรับขึ้นราคา 7-10 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อเจอกับราคาที่ผันผวนจึงทำให้ผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนต้องซื้อชิปกักตุน และทำให้ปัญหานี้กลับแย่ลงไปอีก
เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ 90% ของชิปยานยนต์ในประเทศจีนล้วนนำเข้าเป็นส่วนมาก และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจีนต้องเผชิญกับยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลงถึง 16% ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดแคลนชิป และมีรายงานว่า Audi ได้ลดการผลิตลงอีก ในขณะที่โรงงาน 2 แห่งของ Toyota ในจีน ต้องลดการผลิตลงถึง 40%
ในขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกาก็มียอดขายรถยนต์ลดลง 17% เมื่อเดือนสิงหาคม โดย Ford และ GM ถูกบังคับให้หยุดการผลิตและตัดออพชั่นออกไปในรถยนต์บางรุ่น
คาดว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะยาวต่อไปอีกในปีหน้าและเชื่อว่ามันอาจเลวร้ายยิ่งกว่านี้ หากว่ามันถึงขั้นวิกฤตจริงๆ อุตสาหกรรมยานยนต์อาจประสบปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ต่อไปจนถึงปี 2023
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.