เมื่อความรักใน ชีวิตคลาสสิค พาคู่เหมือน JEEP M38A1มาพบกันที่ BJC

หนึ่งในวงการรถคลาสสิคของเหล่าออฟโรด คงหนีไม่พ้นสุดยอดรถเพื่อใช้ในการสงคราม อย่างรถ JEEP นั่นก็เพราะมันเป็นหนึ่งในรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่มากด้วยสมรรถนะ ทั้งยังผ่านการพิสูจน์การใช้งานจริงมาแล้วในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองไปจนถึงสงครามครั้งใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นสงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สิ่งเหล่านี้ทำให้ JEEP รุ่นที่ผลิตเพื่อใช้ในราชการสงครามกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้ออีกหลายๆ รุ่นที่ผลิตออกสู่ตลาดรถยนต์

dsc_0779_resize

แม้นว่า ในสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โลกจะได้เห็นการนำเครื่องจักรกลเข้ามาใช้งานในราชการทหารบางส่วนแล้วก็ตาม แต่สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อนั้น จะพบเห็นได้ชัดเจนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมากกว่า สำหรับรถ JEEP นั้นเกิดขึ้นจากการที่กรมสงคราม ประเทศสหรัฐอเมริกา มีความต้องการจะได้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเอาไว้ใช้งานในสงคราม เลยจัดให้มีการประกวดราคาเพื่อการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อใช้ในราชการสงคราม ก็มีบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดราคา เพื่อทำการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อดังกล่าว

dsc_0753_resize

ด้วยมาตรฐาน ที่กรมสงครามตั้งบังคับไว้ เพื่อให้ได้รถที่มีประสิทธิภาพไปใช้งานในกองทัพบกสหรัฐอเมริกา โดยมีข้อกำหนดพื้นฐานว่า จะต้องเป็นรถเพื่อใช้ในการลาดตระเวนได้เป็นอย่างดี และจะต้องสามารถที่จะใช้เพื่อขนส่งทหารเข้าสู่พื้นที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หรือจะต้องบรรทุกสัมภาระได้ ทั้งนี้ตัวรถจะต้องมีน้ำหนัก ¼ ตัน เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเข้าสู้พื้นที่เป้าหมาย และยังมีข้อกำหนดว่า เมื่อเสร็จสิ้นการประมูลผู้ผลิตที่ได้รับสัญญา จะได้รับระยะเวลาประมาณ 75 วัน ในผลิตและทดสอบรถให้กับทางกองทัพสหรัฐและรถต้นแบบดังกล่าวจะต้องมีฐานล้อไม่เกิน 75 – 80 นิ้ว ทั้งนี้กระจกหน้ารถต้องสามารถพับลงได้ ตัวรถต้องสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 300 กิโลกรัม และต้องมีเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดไม่น้อยกว่า 115 นิวตันเมตร

จากข้อกำหนดดังกล่าวมีสองบริษัทได้แก่ American Bantam และ Willys-Overland ที่สามารถเข้าร่วมการประมูล ถึงแม้ว่า Willys-Overland จะเป็นผู้ชนะการประมูลมาได้ก็ตาม แต่สุดท้าย Bantam ก็รับช่วงต่อสัญญา โดยการผลิตรถให้ทันภายใน 49 วัน และทดสอบภายใน 75 วัน ภายใต้การดูแลของนักออกแบบ Karl Probstก็ได้รถต้นแบบออกมาภายใต้ชื่อว่า Blitz Buggy

dsc_0699_resize

แต่หลังจากนั้นBantamกลับไม่มีที่จะทำการผลิตและเกิดขาดสภาพคล่อง ทำให้ไม่สามารถที่จะผลิตและทำการส่งมอบให้กับทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เลยเป็นโอกาสให้กับ Ford และ Willys กลับเข้ามาทดสอบ และทำสัญญาเพื่อผลิตรถส่งมอบให้กับทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐแทน Bantamและเหตุผลที่ทางกระทรวงกลาโหม ต้องการรถใช้ในราชการอย่างเร่งด่วน กระทรวงกลาโหมจึงส่งแบบพิมพ์เขียนให้กับทาง Ford และ Willysโดยให้เหตุผลว่า พิมพ์เขียวของรถBantamนั้นมีรัฐบาลเป็นเจ้าของซึ่งทางBantam เองก็ไม่ได้ทำการคัดค้านใดๆ นี่เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมรถ JEEPของทั้งทาง Ford และ Willys ที่ผลิตออกมานั้นจึงมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกันจนแทบจะไม่แตกต่างอะไรกับรถของทางBantam แล้วก็ได้นำมาทดสอบเปรียบเทียบกันทั้งสามค่าย ส่วนที่มาของคำว่า JEEP นั้น น่าจะมาจากตัวย่อ GP ที่ไว้ใช้ระบุประเภทของยานพาหนะ จนเพี้ยนมาเป็น JEEP

dsc_0693_resize

เรามาเข้าเรื่องของ JEEP M38 A1 กันเลยดีกว่า สำหรับโฉมนี้ คาดว่าอยู่ในช่วงปี 1952-1957 โดยมีจำนวนผลิตอยู่ที่ 101,488 คันแบ่งเป็น 80,290 คันที่ใช้งานในประเทศ และ 21,198 คัน สำหรับขายต่างประเทศ สำหรับรุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้งานมากในสมัยสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม โดยรถทั้งสองคันที่เอามาถ่ายทอดความคลาสสิคให้ชมกันนี้ เป็นรถที่อยู่ในสังกัด กลุ่มพิษณุโลกจี๊ปคลับ ที่มี พันเอกนพดล วัชรจิตรบวร  หรือที่รู้จักกันในวงการคนเล่นรถ JEEP ว่า ผู้การกบ ดำรงตำแหน่งประธานชมรมพิษณุโลกจี๊ปคลับ หรือที่ใช้ชื่อย่อสั้นๆ กันว่า BJC ซึ่งในชมรมนี้ก็มีรถอยู่เกือบ 30 คัน เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีรถเยอะที่สุดในประเทศไทย โดยมีสัญลักษณ์สำคัญที่แสดงให้รู้ว่าเป็นสมาชิกของชมรม คือ ไฟหน้ารถทุกคันในชมรมต้องเป็นสีเหลืองเพื่อสร้างความแตกต่างให้สังเกตได้นั่นเอง

dsc_0660_resize

สำหรับรถทั้งสองคันนี้ เป็นของ ชาญชัย สงวนงารีต และ ธงชัย มิตรสิทธิ์ทั้งสองท่านเสียสละเวลามาให้เราได้เก็บภาพกัน โดยรถทั้งสองคันนี้ เป็น JEEP M38A1 ที่เป็นรถที่สร้างชื่อเสียงเอาไว้อย่างมากในยุคสงครามเกาหลี โดยเครื่องยนต์นั้นเป็นเครื่องยนต์เฮอริเคน แบบ 3 เกียร์เดินหน้าแล้วก็ 1 เกียร์ถอยหลัง ใช้พลังงานไฟ 24 โวลต์ ทำให้มันเหมาะกับภารกิจในภาคสนาม ช่วงล่างนั้นเป็นแหนบบนคานแข็งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ใช้เฟืองท้ายของ Dana และบริโภคน้ำมันเบนซิน 95 เป็นเชื้อเพลิง แล้วทั้งสองคันนี้ เป็นรถที่ใช้ชุดแต่งเดิมทั้งหมด แต่มีคันของ คุณชาญชัย หรือ เฮียตี๋ได้ย้ายพวงมาลัยจากทางด้านซ้ายมาติดตั้งเป็นพวงมาลัยขวา

เหตุผลที่ทำให้ทั้ง คุณชาญชัย และ คุณธงชัย สะสมรถรุ่นนี้ก็มาจาก ต่างชื่นชอบที่จะแสวงหารถยนต์คลาสสิคมาเป็นทุนเดิมก่อนหน้านี้ พอได้มาเจอกับ M38A1 ที่เป็นรถยนต์ JEEP ในตำนานของตระกูลหน้ากบ ซึ่งรถในรุ่นนี้มีไฟหน้าที่เป็นหลุมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เมื่อกองทัพบกได้ปลดระวางรถรุ่นนี้ ก็เลยได้มาครอบครอง แต่การได้มานั้นก็ต้องอยู่ที่จังหวะเวลา เพราะการที่จะเล่นรถแบบนี้ มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ สำหรับอะไหล่ยังพอสามารถหาซื้อได้อยู่บ้าง

dsc_0665_resize

สำหรับคนที่ชื่นชอบในรถคลาสสิคตระกูล JEEP ก็สามารถหาข้อมูลได้กจากหลายๆ กลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ และแหล่งอะไหล่ ตามประสาคนคอเดียวกัน

SPECIFICATIONS Willys M38A1 (1952-1971)

Weight                                      3,865 lb. (Gross), 2,660 lb. (Crub)

Length(overall)                     138-5/8”

Width (overall)                      60-7/8”

Height (maximum)              73-3/4”

Ground Clearance                9-5/16”

Tire Size                                    7.00×16

Tread (front)                         49-1/8”

Tread (rear)                          49-1/8”

Transmission                        T-90

Transfer Case                       Dana 18

Front Axle                             Dana 25 (1952-1960) or Dana 27 (1961-1971)

Rear Axle                              Dana 44

Wheebase                             81”

Fuel Capacity                       17 Gal

Other                                      2-Piece Winshield, 24 Volt Electrical

Engine Type                         134 CID (2.2L) F4-134 Hurricane 14
Number of Cylinders          4
Cu-In. Displacement          134.2 cu. in. (2199,53 cm 3)
Horsepower                          72@4000 rpm
Torque                                   114 lb-ft. (15,7 kg-m.)
Compression Ratio             6.9 to 1
Valvetrain                              F-Head

 

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save