GWM พลิกโฉมสำเร็จ ปิดฉากมหกรรมยานยนต์ Auto China 2020 อย่างสวยงาม
GWM ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก เผยภาพลักษณ์แบรนด์และกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจในมหกรรมยานยนต์ Auto China 2020 พร้อมตอกย้ำจุดสนใจใหม่ในส่วนของยานยนต์อัจฉริยะและประสบการณ์ที่มีผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง โดยบูธของ GWM ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลต์เด่นของงาน มีการนำเสนอแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนกลยุทธ์อัจฉริยะขององค์กร นอกจากนั้นยังมีการไลฟ์สดบรรยากาศภายในงานสู่สายตาผู้ชมหลายล้านคนทั่วโลก
GWM ยกทัพนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และแบรนด์มาจัดแสดงเต็มรูปแบบ โดยมีการดึงดาราชาวจีนมาเป็นตัวแทนนำเสนอวัฒนธรรมใหม่ของแบรนด์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่ นอกจากนั้นยังมีการอวดโฉมยานยนต์รุ่นใหม่มากมายเพื่อกรุยทางไปสู่โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต เช่น รถยอดนิยม HAVAL H6 เจนเนอเรชัน 3 ที่มีเทคโนโลยีอัปเดตเฟิร์มแวร์ FOTA ซึ่งเปิดศักราชใหม่ของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ พร้อมความสามารถในการเรียนรู้จากผู้ขับขี่และอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ทั้งรถรุ่น HAVAL H6 และ HAVAL Dagou ต่างมีระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L2 ขณะที่รถกระบะ POER มีระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ L4 รองรับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบในสถานการณ์ที่กำหนดไว้แล้ว
ยานยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้สะท้อนถึงมาตรฐานอีกระดับในการออกแบบและผลิตยานยนต์อัจฉริยะ หลังจากที่ GWM ได้ปรับเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทเทคโนโลยียานยนต์ระดับโลก โดยยานยนต์ที่นำเสนอในมหกรรม Auto China ได้รับการพัฒนา ออกแบบ และผลิตโดยใช้แพลตฟอร์มอัจฉริยะระดับโลก ดังนี้
– แพลตฟอร์ม “L.E.M.O.N” ซึ่งมีความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยขั้นสูง และน้ำหนักเบา รองรับการพัฒนารถหลายรุ่น เช่น รถที่ใช้แพลตฟอร์ม A0 และ D รวมถึงรถเอสยูวี เอ็มพีวี และอีกมากมาย
– แพลตฟอร์ม “COFIS” สร้างสรรค์การเดินทางแห่งอนาคตด้วยห้องโดยสาร ระบบขับขี่ และระบบอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นกลไกดิจิทัลที่ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านของ GWM
“ด้วยศักยภาพด้านพลังงานใหม่และดิจิทัลขั้นสูง ยานยนต์ของเราจึงมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะแข่งขันในตลาดโลก” โทนี่ ซุน รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดต่างประเทศของ GWM กล่าว “เราใช้โอกาสนี้แสดงให้ตลาดและผู้ขับขี่ทั่วโลกเห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของเรา โดยทุกคนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนจากรถกระบะ POER ที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ”
GWM มีศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาในระดับแนวหน้า บริษัทมีศูนย์วิจัยและพัฒนา 10 แห่ง ใน 7 ประเทศ โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเป่าติ้งเป็นศูนย์กลาง บริษัทมีทีมงานด้านการวิจัยและพัฒนากว่า 17,000 ชีวิตประจำอยู่ทั่วโลก ทั้งในเป่าติ้ง (จีน), เซี่ยงไฮ้ (จีน), โยโกฮาม่า (ญี่ปุ่น), ดีทรอยต์ (สหรัฐอเมริกา), ลอสแอนเจลิส (สหรัฐอเมริกา), แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมนี), มิวนิก (เยอรมนี), บังคาลอร์ (อินเดีย), คอตติงบรุนน์ (ออสเตรีย) และคยองกี (เกาหลีใต้)
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.