ลุยเหมืองหิน! สัมผัสความแกร่ง ‘BFGoodrich KO2’ ยางออลเทอร์เรนเพื่อชาวออฟโรด
BFGoodrich Driving Experience กิจกรรมพิเศษเพื่อทดสอบสมรรถนะ BFGoodrich KO2 ยางออลเทอร์เรนรุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีล่าสุดที่เพิ่มความแข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพในการลุยแบบออฟโรดได้ดีขึ้น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าเดิม
กิจกรรมทดสอบครั้งนี้มีขึ้นที่สนาม 8 สปีด เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสยามมิชลิน ผู้ดูแลการจัดจำหน่ายยาง BFGoodrich ในประเทศไทย เชิญลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ออฟโรดจากหลายคลับดัง, บรรดาตัวแทนจำหน่าย และสื่อมวลชนชั้นนำรวมกว่า 100 คน เข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะของยาง BFGoodrich KO2 แบบเต็มที่ตลอดทั้งวัน
หลังจากผู้บริหารสยามมิชลิน และคุณ Tim Hoare ผู้บริหาร BFGoodrich Asia เป็นตัวแทนกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน พร้อมพูดถึงความสำเร็จของยาง BFGoodrich KO รุ่นแรก และคุณสมบัติพิเศษที่ได้รับการพัฒนาขึ้นของยางรุ่นใหม่ KO2 ตัวแทนทีมผู้ฝึกสอนการขับขี่ประสบการณ์สูงอธิบายรายละเอียดของกิจกรรมที่แบ่งออกเป็น 4 สถานี
กลุ่มสื่อมวลชนประเดิมด่านแรก 4L Bucket Challenge เพื่อทดสอบทักษะการควบคุมรถยนต์บนทางออฟโรดจำลอง แต่เพิ่มระดับความยากด้วยการนำถังพลาสติกใส่น้ำมาติดแผ่นแม่เหล็กยึดกับฝากระโปรงหน้าของ Toyota Fortuner รถเอสยูวียอดนิยมของคนไทยที่ถูกเปลี่ยนมาใส่ยางออลเทอร์เรน BFGoodrich KO2 เพื่อเก็บคะแนนว่าผู้ขับขี่คนใดมีปริมาณน้ำเหลือในถังพลาสติกมากที่สุด
เส้นทางทดสอบที่ทีมงานจัดเตรียมไว้ถือว่ามีระดับความโหดใกล้เคียงการลุยทางออฟโรดกลางป่าของจริง ทั้งความขรุขระของทางดิน และต้องคอยระวังก้อนหินขนาดใหญ่ ทำให้คนขับต้องรักษาสมาธิในการควบคุมพวงมาลัย ควบคุมคันเร่ง และรักษาจังหวะการเบรกให้เหมาะสมตลอดเวลา
ในด่านแรกต้องยอมรับว่าสมรรถนะของยาง BFGoodrich KO2 ที่มีการยึดเกาะ และตะกุยที่ดีขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ (โดยเทียบกับ BFGoodrich All-Terrain T/A KO ขนาด LT265/70R17) ทำให้การควบคุมรถ Fortuner เป็นไปอย่างง่ายดายถึงจะไม่ใช่รถของตัวเองก็ตาม โดยการออกแบบไหล่ยางแบบหยักช่วยให้การขับในพื้นถนนที่อ่อนนุ่มมีความคล่องตัวมากขึ้น เสริมด้วยสันสลัดโคลน Mud-Phobic Bars ช่วยสลัดโคลนที่อัดตัวอยู่ระหว่างร่องไหล่ยางออกไป ทำให้การยึดเกาะมีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ยาง BFGoodrich KO2 ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีคอร์การ์ด (Coregard) เพิ่มขนาดเส้นใยโครงยางมีขนาดใหญ่ และหนาแน่นมากขึ้น ทำให้โครงยางรองรับแรงได้ดีกว่าเดิม และแข็งแกร่งขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ โดยแก้มยางยังมีความแข็งแกร่งขึ้นด้วยสูตรเนื้อยางเดียวกับการแข่งขัน Baja T/A KR2 มีความทนทานต่อการหลุดร่อน และบาดตำ รวมทั้งบล็อกไหล่ยางแบบโค้งเพื่อใช้เป็นแนวรับสิ่งกีดขวางจากด้านข้าง ป้องกันความเสียหายบริเวณแก้มยางในเวลาเดียวกัน
จบจากสถานีแรกเปลี่ยนบรรยากาศมาสู่ BFGoodrich History Rally แรลลี่สไตล์ครอบครัว ระยะทางราว 25 กิโลเมตร เพื่อให้สมาชิกที่ติดตามมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ได้เล่นเกมหาสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับยาง A/T KO2 เพื่อตอบคำถามเก็บคะแนน รวมทั้งสัมผัสประสบการณ์ว่ายางแบบ All Terrain สามารถใช้งานบนถนนปกติได้อย่างไม่แตกต่าง ก่อนจะแวะพักทานข้าวเหนียวมะม่วงที่บ้านหมากม่วงเขาใหญ่ และกลับมาสู่สนามแข่ง 8 สปีด
จากนั้นกิจกรรมในช่วงบ่ายย้ายสถานที่สู่เหมืองหินศิลาสากล เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสสมรรถนะอีกขั้นของยาง BFGoodrich KO2 บนเส้นทางดินผสมหินกรวดที่เกิดจากการระเบิดภูเขา เริ่มต้นที่สถานี BFG Rockhana โดยทีมงานเตรียมรถกระบะพันธุ์แกร่ง Ford Ranger Raptor ที่ติดตั้งยางออลเทอร์เรน BFGoodrich KO รุ่นแรกเป็นมาตรฐานจากโรงงาน รวมถึงในรถกระบะ Ford F-150 Raptor ที่ขายในประเทศสหรัฐฯ เพื่อให้ใช้ในการขับทดสอบ ภายใต้คำแนะนำของทีมผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์
ในการขับ Rockhana ทีมงานวางกรวยยางเพื่อกำหนดเส้นทางจำลองเป็นระยะทางประมาณ 150 เมตร เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์ตรงว่า BFGoodrich KO2 มีประสิทธิภาพในการเกาะถนนที่ดีเยี่ยมแค่ไหน ในการขับบนทางออฟโรดที่ต้องใช้ความเร็วระดับปานกลาง โดยจะให้โอกาสทำความคุ้นเคยจำจุดหักเข้าโค้งต่างๆ 1 รอบ ก่อนจะจับเวลาขับจริงที่ส่วนใหญ่หากไม่ถูกกรวยยางที่จะโดนบวกเวลาเพิ่ม เวลาต่อรอบจะอยู่ในราว 34-37 วินาที
มาถึงสถานีสุดท้าย Cross the Rock จะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์สุดเร้าใจจากการร่วมนั่งในรถแข่งจริงที่ขับโดยมานะ พรศิริเชิด นักแข่งระดับหัวแถวของประเทศไทยที่เคยมีประสบการณ์เข้าร่วมศึกแรลลี่หฤโหดปารีส-ดาการ์ เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะที่แท้จริงของยาง BFGoodrich KO2 ที่ติดตั้งในรถกระบะ Toyota Hilux Revo ที่ใช้แข่งขันจริง บนเส้นทางหินกรวดสลับทางขึ้นเนินภายในเหมืองหินแห่งนี้ที่สร้างความตื่นเต้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน
ก่อนจะจบกิจกรรม BFGoodrich Driving Experience อย่างเป็นทางการ ผู้บริหารสยามมิชลิน และคุณ Tim Hoare ผู้บริหาร BFGoodrich Asia มีการมอบรางวัลให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทำผลงานได้ดีที่สุด 3 อันดับแรกใน 4L Bucket Challenge, BFGoodrich History Rally และ BFG Rockhana รวมทั้งผู้ทำคะแนนรวมสูงสุดในทุกกิจกรรมได้รับรางวัลเป็นยาง BFGoodrich จำนวน 4 เส้น ท่ามกลางการแสดงความยินดีของผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่ได้มาร่วมพิสูจน์สมรรถนะของยาง BFGoodrich KO2 อย่างเต็มที่ตลอด 1 วัน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: BFGoodrich
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.