Casio EDIFICE ร่วมมือกับ Honda Racing และทีมแข่งรถสูตรหนึ่ง Scuderia Toro Rosso
Casio EDIFICE นาฬิกาโครโนกราฟโลหะรุ่นใหม่ในไลน์นาฬิกาสมรรถนะสูง ถือกำเนิดขึ้นจากคอนเซปต์ “ความเร็วและอัจฉริยะ” ร่วมมือกับนาฬิกาตระกูล Honda Racing ผลิตรุ่นใหม่อย่าง EQB-1000HRS และ EQB-1000HR เป็นความร่วมมือครั้งที่สองระหว่าง Casio กับ Honda Racing โดยมีวางจำหน่ายทั่วโลกด้วยจำนวนจำกัดเพียง 900 เรือนและ 2,900 เรือนตามลำดับ
นาฬิการุ่นใหม่จากความร่วมมือกับทีมแข่งรถฟอร์มูลาวัน Scuderia Toro Rosso อย่างรุ่น EQB-1000TR และ EFR-S567TR นั้น เป็นนาฬิกาที่มีความบางพิเศษและเกิดขึ้นจากการพัฒนาร่วมกับทีม Scuderia Toro Rosso ซึ่งเป็นทีมรถแข่งอันดับต้น ๆ ของโลก
สำหรับนาฬิกา Honda Racing รุ่นลิมิเต็ด ได้มีการสร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับ HRD Sakura ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยที่พัฒนาเทคโนโลยีรถมอเตอร์สปอร์ตขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับ Honda
สำหรับการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่นี้ Honda ได้เตรียมอัลลอยพิเศษอย่างไทเทเนียมอลูมิไนด์ ซึ่งใช้ในวาล์วเครื่องยนต์ของ Honda มาผลิตเป็นกรอบของตัวนาฬิกา โดยพื้นผิวของกรอบนาฬิกานั้นได้มีการเคลือบคาร์บอนที่มีลักษณะเหมือนเพชร (DLC) ซึ่งเทคนิค DLC ที่ว่านี้ยังได้มีการใช้อยู่ในชุดต้นกำลังของ Honda เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิวด้วย ส่งผลให้ตัวกรอบนาฬิกานี้สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ นาฬิกา EQB-1000HRS มีสายสีแดง ซึ่งทำจากผ้า Kevlar® ที่ถูกประกบอีกทีด้วยผ้า Cordura® ซ้อนกันสองชั้น เข้ากับสีของแบรนด์ Honda อันเป็นเอกลักษณ์
นาฬิการุ่น EQB-1000HRS และ EQB-1000HR รังสรรค์ขึ้นจากเทคโนโลยีของ EQB-1000 ซึ่งเป็นนาฬิกาโครโรกราฟแบบบางที่มาพร้อมกับระบบ Tough Solar และการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
หน้าปัดของนาฬิกาใช้สีดำไล่เฉดไปยังสีแดง เพื่อสะท้อนถึงช่วงเวลาที่กระบอกสูบเครื่องยนต์เริ่มมีการเผาไหม้ โดยโลโก้ของ Honda Racing ประดับอยู่บนหน้าปัดและเคสด้านหลังของนาฬิกาทั้งสองรุ่น รวมถึงบนสายนาฬิกา EQB-1000HRS นาฬิกาสุดพรีเมี่ยมเหล่านี้อยู่ในแพคเกจสุดพิเศษ พร้อมการ์ดที่ปรากฏให้เห็นภาพของชุดต้นกำลังของ Honda และทีมแข่งรถฟอร์มูล่าวัน Scuderia Toro Rosso
ขณะที่นาฬิกาโครโนกราฟรุ่นใหม่ในไลน์ Scuderia Toro Rosso อย่าง EQB-1000TR และ EFR-S567TR ได้รับการออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากรถแข่งฟอร์มูลาร์วันในปีนี้ โดยเล่นสีที่โดดเด่นสะดุดตาของรถแข่งอย่างน้ำเงิน แดง และสีเงิน นาฬิกาทั้งสองรุ่นทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับรถแข่งในปัจจุบัน ไม่รวมกรอบนาฬิกาและหน้าปัดด้านใน
หน้าปัดและเคสด้านหลังประดับด้วยโลโก้ของทีม ส่วนหน้าปัดเล็กที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกามีรูปกระทิงอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีมที่ให้ความรู้สึกเลอค่าในการเป็นเจ้าของ
นอกเหนือจากความแม่นยำในการซิงค์เวลาผ่านการเชื่อมต่อกับแอปบนสมาร์ทโฟนแล้ว นาฬิการุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ World Time เพื่อให้ผู้สวมใส่มองเห็นเวลาได้สองที่พร้อมกันบริเวณหน้าปัดใหญ่และหน้าปัดเล็ก ซึ่งมีเวลาให้เลือกรวมกันราว 300 เมือง โดยเป็นฟีเจอร์ที่นักแข่งทีม Scuderia Toro Rosso ต้องมี เพราะต้องลงประชันความเร็วกันทั่วโลก
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันใหม่อย่าง Last Lap Indicator เพื่อแสดงระยะเวลาส่วนต่างเมื่อเทียบกับรอบเวลาก่อนหน้า โดยแสดงผลบริเวณหน้าปัดเล็กในกรอบ -5 ถึง +1 วินาที ขณะที่ฟังก์ชันจับเวลาก็ได้รับการอัปเกรดขึ้นเช่นกัน เพื่อให้อัปโหลดเวลาที่บันทึกไว้ขึ้นแอปบนสมาร์ทโฟนได้ นาฬิการุ่นนี้บันทึกเวลาได้ถึง 200 รอบ จับเวลาได้ละเอียดถึง 1/1000 วินาที ทั้งหมดนี้ช่วยให้นักแข่งบริหารจัดการเวลาระหว่างลงแข่งได้อย่างละเอียดยิบ
นาฬิการุ่น EFR-S567TR ต่อยอดมาจากนาฬิกาโลหะรุ่น EFR-S567D ตัวเพลททำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ล้อมรอบด้วยขอบนาฬิกาโลหะ พร้อมประดับแถบยาวสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ประจำทีมบริเวณหน้าปัด และเพื่อให้มองเห็นเวลาได้อย่างเด่นชัด นาฬิการุ่นนี้จึงมาพร้อมกับกระจกแซฟไฟร์คริสตัล ซึ่งกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีแม้ใช้งานอย่างสมบุกสมบัน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.