พระมหากษัตริย์นักกีฬา
เนื่องด้วยวันที่ผู้เขียนกำลังหาข้อมูลสำหรับคอลัมน์ Hobby Action ฉบับนี้ ตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม 2559 วันแห่งความโศกเศร้าที่สุดของประชาชนคนไทยทุกคน วันแห่งการสูญเสียหัวหน้าครอบครัวผู้เป็นที่รักยิ่ง
ผู้เขียนจึงขอรวบรวมเอากิจกรรมกีฬาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดมานำเสนอ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมถวายความอาลัยแด่กษัตริย์ผู้ทรงพระอัจฉริยภาพด้านการกีฬา ผู้เปรียบเสมือนพ่อของคนทั้งแผ่นดินที่จะสถิตอยู่ในดวงใจนิจนิรันดร์
“การกีฬามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของแต่ละคน และชีวิตบ้านเมือง”
*พระราชดำรัสเกี่ยวกับการกีฬาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
จากพระราชดำรัสเกี่ยวกับการกีฬานี้จะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดในการกีฬา และทรงมีพระราชปณิธานให้ประชาชนของพระองค์ได้เล่นกีฬาเพื่อตนเอง และเพื่อสังคม ด้วยกิจกรรมกีฬาใดๆ ก็ตามล้วนมีส่วนช่วยในการพัฒนาตัวบุคคล และประเทศชาติ พระองค์จึงทรงส่งเสริมวงการกีฬาในทุกประเภทมาโดยตลอด โดยส่วนพระองค์เองนั้น ทรงโปรดกีฬาที่มีความท้าทายเข้ามาเกี่ยวข้องมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ กีฬาเรือใบ และแบดมินตัน
พระอัจฉริยภาพด้านกีฬาเรือใบ
มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับกีฬาเรือใบว่า
“การเล่นใบ สอนให้คนคิดเอง ทำเอง เพราะเมื่อเราเล่นเรือใบไปแล้วเรือไม่วิ่ง จะไม่มีใครมาคอยสอน เราต้องคิดเอง ทำเอง ว่าลมมาทางไหน ลมแรงขนาดนี้ เราสู้ไหวไหม ถ้าไหว เราก็สู้ แต่ถ้าไม่ไหว แล้วเรายังสู้ เรือก็จะคว่ำ ถ้าลมเบา เราจะต้องทำอย่างไรเรือจึงจะวิ่ง แล้วถ้าไม่มีลม เราจะทำอย่างไร เราก็ควรจะรอสักครู่ให้ลมมา ถ้าเราเล่นเรือเป็น ดูทิศทางลมเป็น ถ้าเราเป็นตัวนี้ เด็กไทยเป็นตัวนี้ แล้วนำมาใช้ในชีวิต นำมาใช้ในกิจการงานได้ ไม่มีขาดทุน เพราะรู้เทคนิคการใช้ชีวิต เด็กไทยจะรู้จักและเข้าใจในการคิดเอง ทำเอง”
ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าทรงเข้าใจในเรื่องกระแสลม กระแสน้ำเป็นอย่างดี และทรงนำมาเป็นพระราชดำรัสที่เราทุกคนนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตอีกด้วย หากเราเข้าใจทุกอย่างได้ถ่องแท้ รู้จังหวะเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะกีฬาหรือในการลงมือทำสิ่งใดก็จะสำเร็จได้ดั่งที่พระองค์ท่านได้ทรงเรือใบจนได้รับเหรียญรางวัลชนะเลิศการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 (ปัจจุบันคือกีฬาซีเกมส์) มาแล้ว เมื่อครั้งที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ในปี พ.ศ.2510 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ ได้ลงแข่งในรายการนี้ในรุ่นเรือใบประเภท โอเค ซึ่งเป็นเรือที่ทรงต่อเอง และทรงทำคะแนนได้ดีที่สุด โดยเสียคะแนนไปเพียง 6 แต้มเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพที่โดดเด่นในการกีฬาของพระองค์
พระอัจฉริยภาพด้านกีฬาแบดมินตัน
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเกี่ยวกับกีฬาแบดมินตัน ใจความตอนหนึ่งว่า
“กีฬาแบดมินตัน เป็นกีฬาหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่คนไทยสามารถจะไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบทางด้านรูปร่าง และพละกำลังมากจนเกินไป เพียงแต่อาศัยความคล่องแคล่วว่องไว กับปฏิภาณไหวพริบของผู้เล่นคนไทยก็สามารถเอาชนะต่างชาติได้ไม่ยาก”
เนื่องด้วยแบดมินตันคือกีฬาอีกประเภทที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดปรานเป็นอย่างมาก พอพระทัยทั้งในการทรงแบดมินตันเอง และการทอดพระเนตรนักแข่งคนอื่น เพื่อวิเคราะห์ลักษณะการเล่นของแต่ละคนแล้วทรงนำมาชี้แนะพระราชทานข้อแก้ไข ตลอดจนเทคนิคการเล่นแก่นักกีฬาของไทย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่นักกีฬาไทย
ซึ่งเมื่อ พ.ศ. 2493 พระองค์ได้พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ให้กับสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และทรงลงแข่งด้วยพระองค์เองนั้น ก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าทรงแบดมินตันอย่างนักกีฬา ไม่ทรงแสดงอาการกริ้วแต่อย่างใดเมื่อทรงลูกเสีย หรือแม้กระทั่งผู้ที่ถวายตีลูกเสีย หรือทรงถูกกระทบกระทั่งถึงพระวรกายจากความเข้มข้นในเกมการเล่น ก็ไม่ทรงถือพระองค์แต่อย่างใด อันแสดงให้เห็นว่าทรงเป็นนักกีฬาที่มีน้ำใจนักกีฬาอย่างแท้จริง ทรงเป็นต้นแบบให้กับนักกีฬาทุกคนนำมาใช้ และทำให้วงการแบดมินตันไทยมีชื่อเสียงโด่งดังไปได้ไกลถึงระดับโลกดังเช่นทุกวันนี้
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.