เจาะข้อมูล Jaguar I-Pace เอสยูวีพลังไฟฟ้าสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
ทำความรู้จักกับ Jaguar I-Pace เอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบ 100%!!! รุ่นแรกของผู้ผลิตรถยนต์เก่าแก่แห่งเกาะอังกฤษ มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่มีระยะการขับได้ไกลถึง 470 กม./ชาร์จไฟ 1 ครั้ง และเตรียมจะมาเปิดตัวที่เมืองไทยในอีกไม่นานนี้
นับจากเผยโฉมรถต้นแบบที่งานลอสแอนเจลิส ออโต้โชว์ ในช่วงปลายปี 2016 Jaguar พยายามสร้างกระแสให้สาธารณชนรับรู้ถึงการก้าวสู่ยุคใหม่ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเลือกช่วงจังหวะที่เหมาะสมเปิดตัว I-Pace ที่ผลิตเพื่อขายจริงอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
ในช่วงระยะเวลาเพียงปีเศษของการพัฒนาจากคอนเซปต์สู่เวอร์ชันจำหน่ายจริง I-Pace ต้องเผชิญการทดสอบอย่างหนักหน่วงในทุกภูมิภาคทั่วโลก ด้วยมาตรฐานที่เข้มข้นไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์น้ำมัน จนกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดรุ่นหนึ่งของโลกในเวลานี้
ระหว่างที่เป็นรถต้นแบบ I-Pace มาพร้อมสโลแกน “The Electric Performance SUV” รูปแบบตัวถังจัดอยู่ในประเภทมิดไซซ์เอสยูวี 5 ที่นั่ง เน้นความอเนกประสงค์ในการใช้งาน แต่ตัวตนในความเป็นเอสยูวีของ I-Pace ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากซูเปอร์คาร์ต้นแบบ Jaguar C-X75 ทำให้รายละเอียดการดีไซน์แตกต่างจากบรรดารถอเนกประสงค์ที่เราคุ้นเคย รวมถึงระบบขับเคลื่อนที่มีกำลังระดับ 400 แรงม้าที่ไม่ได้ถูกลดทอนลงเมื่อเข้าสู่แผนการผลิตจริง ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ไม่ธรรมดาทีเดียว
Jaguar จัดการส่ง I-Pace เข้าทดสอบในทุกสภาวะการขับขี่ตามขั้นตอน Electric Test Programme ทั้งการขับผ่านถนนที่มีระดับน้ำลึก 500 มม., การจำลองอุบัติเหตุที่ชุดแบตเตอรี่จะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง, ทดสอบความเสถียรของการจ่ายไฟฟ้าของระบบที่อุณหภูมิร้อนเกิน 40 องศาเซลเซียส และหนาวระดับ -40 องศาเซลเซียส, การขับทดสอบรอบสนามแข่งนาร์โด้ ในประเทศอิตาลี และนูร์เบิร์กริง สนามแข่งระดับตำนานของเยอรมันมากกว่า 400 รอบ
นอกจากนี้รถต้นแบบ 200 คัน ถูกขับทดสอบเพื่อให้ทีมวิศวกรเก็บข้อมูลบนถนนจริงในยุโรป, อเมริกาเหนือ และเอเชีย มากกว่า 11,000 ชั่วโมง เป็นระยะทางรวม 2.4 ล้านกิโลเมตร เพื่อความมั่นใจก่อนการผลิต I-Pace เวอร์ชันจำหน่ายจริง
ไม่เพียงเฉพาะงานออกแบบตัวถังที่ถ่ายทอดจาก C-X75 (เข้าฉากในภาพยนตร์ James Bond ตอน Spectre) แต่การวางเลย์เอาต์ของรถทั้งคันยังถอดแบบจากรถสปอร์ตเต็มขั้น ใช้ระยะฐานล้อที่ยาวพร้อมระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า-หลังที่สั้น เพื่อความคล่องแคล่วปราดเปรียวในการบังคับควบคุม โดยมิติตัวถังความกว้าง 1,895 มม., ความยาว 4,682 มม. และความสูง 1,565 มม. ขณะที่ระยะฐานล้อมาเต็มที่ระดับ 2,990 มม. เพื่อเพิ่มความยาวให้ห้องโดยสารโดยเฉพาะ
งานออกแบบห้องโดยสารส่วนที่ถูกเน้นเป็นพิเศษ คือพื้นที่วางขาของผู้โดยสารแถวหลัง ซึ่งมีระยะห่างระหว่างหัวเข่ากับเบาะหน้ามากกว่า 70 มม. ห้องโดยสารของ I-Pace กว้างกว่าเอสยูวีทั่วไป เพราะปราศจากอุโมงค์เพลากลาง ทำให้พื้นห้องโดยสารราบเรียบ นับเป็นข้อได้เปรียบในการออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรงจากการที่วิศวกรใช้ส่วนพื้นห้องโดยสารเป็นที่เก็บชุดแบตเตอรี่ และวางกันแบบเต็มพื้นที่เพื่อให้ I-Pace สามารถมีพลังงานสำรองมากพอ สำหรับการใช้งานทั้งในเมือง และเดินทางไกล
แม้จะเป็นเอสยูวี แต่ระบบแอโร่ไดนามิกเป็นส่วนที่ I-Pace โดดเด่นไม่เป็นรองรถสปอร์ต มาพร้อมตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงต้านทางอากาศ (Coefficient of Drag) ที่ต่ำเพียง 0.29 ท่อนหน้ารถถูกออกแบบเป็นช่องรับลมขนาดใหญ่ นอกจากประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ยังผันกระแสลมเข้าไประบายความร้อนให้ระบบไฟฟ้าภายในรถอีกด้วย
ส่วนฝากระโปรงหน้าฉีกดีไซน์เดิมๆ ที่เคยมีในรถอเนกประสงค์เพราะถูกออกแบบเป็นช่องดักลมขนาดใหญ่ ลมจะถูกส่งมาจากกระจังหน้าผ่านช่องดักลม ก่อนจะเคลื่อนที่ผ่านกระจกบังลมหน้า, หลังคา ต่อเนื่องจนถึงท้ายรถ สร้างแรงกดให้ท่อนหน้าของรถแบบที่ไม่ต้องไปพึ่งพาอุปกรณ์ล้ำสมัย เป็นการส่งต่อระบบแอโร่ไดนามิกของ C-X75 มาสู่ I-Pace
I-Pace มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD ส่งกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Synchronous Permanent Magnet Electric Motors เชื่อมต่อสู่เพลาหน้าและเพลาหลังโดยตรง เป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากทีมรถแข่งไฟฟ้าในศึก Formula E ของ Jaguar แต่ละตัวจะสร้างกำลังได้ 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 348 นิวตันเมตร (แรงบิดรวมสูงสุด 696 นิวตันเมตร) ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ Single-speed Epicyclic Transmission กำลังรวมของระบบจะอยู่ที่ 400 PS พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 696 Nm
อัตราเร่งจากแรงบิดระดับ 696 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน AWD จะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสุภาพสไตล์รถเมืองผู้ดี แต่หนักแน่นระดับน้องๆ รถแข่ง Formula E เป็นการไต่เพดานความเร็วที่ปราศจากอาการล่าช้าเหมือนรถที่ใช้เครื่องยนต์ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.8 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 200 กม./ชม.
เรียกว่าเป็นอีกตัวเลือกของคนที่กำลังสนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับการเดินทางในอนาคต โดยอินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Jaguar และ Land Rover ในบ้านเรา เตรียมจะนำเข้าเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้เช่นกัน เตรียมนับถอยหลังรอได้เลย!!!
รู้จักแบตเตอรี่ของ Jaguar I-Pace
ชุดแบตเตอรี่เป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากที่สุดในรถ ถูกวางในตำแหน่งที่ต่ำเพื่อประโยชน์ในเรื่องลดจุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) ของรถทั้งคัน ส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทรงตัว ทั้งวิ่งทางตรง และเข้าโค้ง ชุดแบตเตอรี่ได้รับการปกป้องอย่างดีจากโครงสร้างโลหะซีลกันน้ำอย่างมิดชิด มาพร้อมระบบหล่อเย็นประเภท Liquid-cooled เพื่อความเสถียรในการจ่ายกระแสไฟในทุกภูมิประเทศทั้งอากาศที่ร้อนจัด และหนาวสุดขั้ว
แบตเตอรี่ประเภทลิเธียม-ไอออน 432 เซลล์แบ่งเป็น 36 โมดูล ความจุ 90 กิโลวัตต์ต่อ 1 รอบการชาร์จ เดินทางได้ไกลกว่า 470 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLPT) หากชาร์จด้วยกระแสไฟฟ้าแบบตรง (DC) 100 กิโลวัตต์ กำลังแบตเตอรี่จาก 0-80 เปอร์เซ็นต์จะใช้เวลาเพียง 40 นาที และการชาร์จเพียง 15 นาที รถสามารถวิ่งใช้งานได้ถึง 100 กิโลเมตร แต่หากเป็นเครื่องชาร์จ Wall Box ติดตั้งที่บ้าน 0-80 เปอร์เซ็นต์ จะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
90kWh BATTERY
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ที่มีระดับความหนาแน่นพลังงาน 432 เซลล์ แบ่งเป็น 36 โมดูล นับเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้การขับมีประสิทธิภาพ และได้ระยะทางไกลที่สุด
SINGLE-PEDAL DRIVING
ระบบเบรกของ I-Pace มีการเก็บพลังงานเข้าสู่แบตเตอรี่ในทุกโหมดการขับขี่-เพื่อเพิ่มระยะทางการขับให้สูงสุด และหากเลือกการขับแบบ High คนขับจะสามารถใช้แป้นคันเร่งเดียวเพื่อควบคุมความเร็ว/การหยุดของรถ โดยการเก็บพลังงานจากการเบรกจะช่วยกระจายแรงได้มากถึง 0.4 G
470 km
ระยะทางการขับตามมาตรฐานทดสอบ WLTP
40 MINUTES RAPID CHARGING
ระยะเวลาการชาร์จไฟฟ้าจาก 0-80% (ไฟฟ้ากระแสตรง DC กำลัง 100 กิโลวัตต์)
ไฟฟ้ากระแสตรง DC 100 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จ 15 นาที สามารถขับได้ไกล 100 กม.
TWO ELECTRIC MOTORS
มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Permanent Magnet Electric Motors มีน้ำหนักเบา แต่ประสิทธิภาพสูง และทำงานได้อย่างลงตัวกับระบบเกียร์ โดยจะส่งกำลังแยกสู่เพลาหน้า-เพลาหลังเพื่อการขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ AWD ตำแหน่งการเก็บแบตเตอรี่บริเวณด้านล่างห้องโดยสารช่วยลดจุดศูนย์ถ่วง ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น และมีความคล่องตัวสูง
7 kW AC WALL BOX
ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้า 10 ชั่วโมงจาก 0-80% – เหมาะสำหรับการเสียบชาร์จข้ามคืนเมื่อกลับถึงบ้าน
36 kNM / TORSIONAL RIGIDITY
โครงสร้างของพื้นที่บรรจุแบตเตอรี่ทำให้ตัวถังของ I-Pace มีความแข็งแกร่งที่สุดในบรรดารถยนต์ Jaguar – ทั้งความคล่องแคล่วในการควบคุม และความปลอดภัย
เรื่อง กองบรรณาธิการ ภาพ Jaguar Land Rover Media
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.