ท่องป่าน้ำตกคลองงา จ.พังงา

จ.พังงา…ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ ของภาคใต้ แต่จังหวัดนี้ก็เปรียบเสมือนแหล่งขุมทรัพย์ธรรมชาติ ที่มีความหลากหลายและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง พังงา เป็นจังหวัดที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าเขา มีพื้นที่ 4,170.895 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 788 กิโลเมตร เดิมพังงาไม่ได้มีชื่ออย่างปัจจุบันนี้ แต่มีชื่อว่า “เมืองภูงา” ตามชื่อเขางา หรือเขาพังงา (ซึ่งอยู่ในตัวเมืองพังงาในปัจจุบัน) เมืองภูงานี้ ว่ากันว่าอาจจะตั้งชื่อให้คล้องจองกับเมืองภูเก็ต แต่เหตุที่เมืองภูงากลายเป็นเมืองพังงานั้น สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเมืองภูงาเป็นเมืองที่มีแร่อุดมสมบูรณ์ จึงมีฝรั่งมาติดต่อซื้อขายแร่ดีบุกกันมาก ฝรั่งเหล่านี้คงจะออกเสียงเมืองภูงาเป็นเมือง “พังงา” เพราะแต่เดิมฝรั่งเขียนเมืองภูงาว่า PHUNGA หรือ PUNGA ซึ่งอาจอ่านว่า ภูงา หรือจะอ่านว่า พังงา หรือ พังกา ก็ได้

ด้วยว่าเมืองพังงาถูกล้อมกรอบไว้ด้วยธรรมชาติของเทือกเขาและท้องทะเลแทบทุกด้าน ทำให้เมืองนี้จึงดูเสมือนเมืองในนวนิยาย ที่มีแต่ความสวยงามและเงียบสงบ แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลก ที่ชาวต่างชาติมักเข้าใจว่า พังงาเป็นอำเภอหนึ่งของภูเก็ต นั่นเป็นเพราะว่า พังงามีสภาพคล้ายกับเป็นเมืองผ่าน ไม่ใช่เมืองท่าโดยตรงเหมือนเช่น ภูเก็ต กระบี่ หรือตรัง ในความเป็นจริงแล้ว ใครก็ตามที่มาเยือนพังงา และคลุกคลีกับเมืองนี้ จะทราบดีว่ามีสิ่งที่น่าสนใจซุกซ่อนอยู่มากมาย โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ อาจจะมากที่สุดของภาคใต้ก็ว่าได้ พังงามีทั้งท้องทะเลและหาดทรายขาวอันชวนให้น่าหลงใหล เช่นเดียวกับหมู่เกาะแก่งน้อยใหญ่ที่มีมากมายไม่แพ้กัน นอกจากนี้พังงายังเป็นจังหวัดที่มีผืนป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ และเพียบพร้อมไปด้วยสายธารและน้ำตก และที่สำคัญมีป่าชายเลนผืนใหญ่ที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย

ชมรม PART TIME OFF ROAD โคกกลอย  ครั้งนี้ทางชมรมได้ กำหนดเส้นทางเอาไว้ที่ อ.ท้ายเหมือง เส้นทางนี้มีชื่อว่า “น้ำตกคลองงา” เป็นเส้นทางใหม่แกะกล่องก็คงไม่ผิดนัก ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ รอยต่อของ 3 อำเภอ คือ อ.กะปง อ.ท้ายเหมือง และ อ.เมือง นอกจากเป็นเส้นทางที่เพียบพร้อมไปด้วยความสวยงามและสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว อุปสรรคต่างๆ ระหว่างทาง ก็เป็นสิ่งที่ท้าทายทักษะการขับขี่ของเจ้าของรถที่เดินทางเข้าไปไม่ใช่น้อย โดย บุญเลิศ  จริยโสภาคย์ บอกกับผมว่า

“เส้นทางไปน้ำตกคลองงานั้นถือว่าเป็นเส้นทางที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดเส้นทางหนึ่งของพังงา เส้นทางถือว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย หากเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก เดินทางลำบาก เพราะเราต้องขับรถวิ่งลัดเลาะไปตามลำห้วยถ้าฝนตกหนักต้องระวังน้ำป่า ถือว่าอันตรายมากเส้นทางนี้เป็นเส้นทางออฟโรดจริงๆ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ปลายทางจะไปสุดที่ตัวน้ำตกชั้นแรกของ น้ำตกคลองงา ซึ่ง มีต้นกำเนิดไหลมาจากคลองบางม่า  บ้านทุ่งคาโงก  อำเภอเมือง  จังหวัดพังงา  ลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน  อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้นานาพันธุ์และสัตว์ป่า โดยที่ปลายน้ำนั้นจะไหลไปลงทะเลอันดามันที่บ้านทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง”

เราออกเดินทางในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ด้วยจำนวนรถกว่า 10 คัน จาก ต.โคกกลอย โดยใช้เส้นทางหมายเลข 4 เป็นหลัก มุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4240 ก่อนตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 4090 หรือไปทางด้าน อ.ท้ายเหมือง รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ก็ถึงปากทางเข้าตำบลลำภี อ.ท้ายเหมือง

แต่ก่อนจะเดินทางเข้าพื้นที่ ทางคณะได้ติดต่อประสานงานกับ กำนันวีระศักดิ์  วรรณอมร เจ้าของพื้นที่ เพื่อขออนุญาตเข้าไปท่องเที่ยวด้านใน ซึ่ง กำนันวีระศักดิ์  วรรณอมร ยืนรอรับพวกเราอยู่ก่อนแล้ว พร้อมบอกกับเราว่า

“ผมก็อยากเปิดเส้นทางนี้ ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวผจญภัยสำหรับรถยนต์ออฟโรด จักรยานเสือภูเขา หรือใครที่ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะมีจุดที่น่าสนในอยู่มาก หากมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง อนาคตหากเราดำเนินการอย่างมีแบบแผน ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจังและยั่งยืน น่าจะเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนอีกด้านหนึ่งด้วย”

เส้นทางจากนี้ไปเราต้องวิ่งไปตามลำห้วยกว้างๆ ที่เป็นทรายสลับกับโขดหินน้อยใหญ่ น้ำใสไหลเย็นฉ่ำ พวกเราขับกันแบบสบายๆ แต่ก็ต้องคอยระมัดระวังช่วงล่างกระแทกโขดหินที่โผล่ตะปุ่มตะปั่มดักอยู่เป็นช่วงๆ ขับตามลำห้วยมาไม่กี่ร้อยเมตร ก็บรรจบกับเส้นทางชักลากไม้เก่า

ทางขาขึ้นมาบนตลิ่งนั้น ถือว่าไม่ธรรมดาครับ แม้ว่ามันจะดูราบเรียบ แต่ด้วยเป็นทางขึ้นเนินแบบเอียงๆ  และเป็นดินภูเขาผสมดินป่าไผ่ ทำให้สภาพของพื้นผิวตอนนี้ มันก็คือ ดินหนังหมูเราดีๆ นี่เอง ประกอบกับแต่ก่อนที่เราจะมาถึง ฝนได้เทลงมาดักหน้าเราเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนเดินทางมาจากโคกกลอย ฟ้าใส แดดเปรี้ยง ทำให้สร้างปัญหาให้กับรถในคณะพอสมควร เพราะความลื่นบวกกับความลาดชัน ทำให้หลายๆ คันต้องใช้วินช์ช่วย เพราะปั่นเท่าไรก็นิ่งอยู่กับที่ แถมบางคันเป๋ไปเป๋มา ไปเปาะอยู่กับป่าไผ่ ได้บาดแผลเป็นของฝากไปหลายคัน

เราทั้งดึง ทั้งดัน ทั้งลากกันอยู่พักใหญ่ โดยเฉพาะรถที่ไม่มีวินช์ จึงสามารถเดินทางผ่านมาได้ทุกคัน และทางข้างหน้าก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมา เราวิ่งขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างลำห้วยกับเนินเขาอยู่ไม่นานนัก ก็ถึงจุดไฮไลท์ของเส้นทาง นั่นก็คือ เส้นทางนี้มีสองแพร่งให้เลือก ทางแรกวิ่งสวนกระแสน้ำที่ไหลแรงไปตามโขดหิน ทางที่สองวิ่งขึ้นเนินเขาที่ลาดชันและลื่น แต่ทั้งสองทางนี้ไปบรรจบกันที่ด้านหน้าห่างไปประมาณ 300-400 เมตร

เรียกว่าใครอยากไปไลน์ไหนเลือกเอาตามอัธยาศัย แต่ส่วนใหญ่จะเลือกขึ้นเนินกันมากกว่า มีเพียงรถกระบะ 2 คัน ที่แต่งแบบเต็มๆ จากเจ้าฟ้าออฟโรด เลือกที่จะล่องทวนกระแสน้ำไต่ไปตามโขดหินขนาดใหญ่และค่อนข้างลื่น รถทั้งสองคันค่อยๆ ขัยับเดินหน้าไปเรื่อยๆ แต่ก็ไปไม่ได้ไกลนัก ความลื่นของโขดหิน ทำให้ไม่สามารถบังคับรถได้ดั่งใจ และเพื่อเป็นการเซฟตี้รถ จึงใช้วินช์ดึงช่วยเป็นระยะๆ  เพราะเส้นทางแบบนี้ ถ้าหากขืนขับแบบแลก โอกาสที่รถจะเสียหายมีมาก โดยเฉพาะระบบช่วงล่าง

ประมาณบ่ายเศษๆ ทั้งขบวนจึงสามารถผ่านอุปสรรคดังกล่าวมาได้หมดทุกคัน อย่างไรก็ตามผ่านจุดนั้นมาได้โดยปลอดภัยทุกคัน เราก็ต้องขึ้นๆ ลงๆ เขา สลับกับวิ่งทวนกระแสน้ำไปเรื่อยๆ ลึกบ้างตื้นบ้าง โดยเฉพาะช่วงก่อนจะถึงตัวน้ำตก จะเต็มไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่ขวางตะปุ่มตะปั่มดักอยู่ตลอดเส้นทาง เราต้องขับกันด้วยความระมัดระวัง จุดไหนที่ซุ่มเสี่ยงต่อระบบช่วงล่างของรถ ก็ต้องนำหินมารอง พร้อมทั้งให้คนเดินบอกไลน์และสำรวจล่วงหน้าไปเรื่อยๆ เราขับแหวกว่ายสายน้ำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงตัวน้ำตกคลองงา จึงหยุดพักขบวนและทานอาหารกันที่หน้าน้ำตก

น้ำตกคลองงาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเรานั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็กตั้งอยู่ในหุบเขา สายน้ำขาวทิ้งตัวยาวลงมาจากแผ่นผาเล็กๆ กระโจนลงสู่อ่างรับน้ำด้านล่าง ช่วงที่เราเดินทางไปนั้นน้ำยังไม่มากเท่าไรนัก น้ำตกคลองงาแห่งนี้ อาจจะไม่ยิ่งใหญ่หรือสวยงามเลิศเลอ แต่ถ้าดูโดยภาพรวมและนำธรรมชาติที่สมบูรณ์และเงียบสงบแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและความเงียบสงบ เพราะบริเวณด้านหน้าของน้ำตกนั้น มีลานทรายเล็กๆ ที่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้

น่าเสียดายที่เรามีเวลาเอ่ละเหยในการซึมซับกับน้ำตกแห่งนี้ไม่มากนัก ก็เลยไม่มีโอกาสเดินเที่ยวขึ้นไปยังตัวน้ำตกด้านบนหรือชั้นต่อๆ ไป เพราะกว่าเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้เวลาก็บ่ายคล้อย แถมฟ้าฝนก็เริ่มตั้งเค้าดำทะมึนขยับเข้าใกล้มาทุกขณะ กลายเป็นตัวกระตุ้นให้รถทุกคันต้องเก็บข้าวเก็บของ หันหัวรถย้อนกลับเส้นทางเดิม เพราะอย่างที่รู้กันดีในหมู่นักเที่ยวป่าว่า ในช่วงฤดูฝนหรือฝนตกหนัก โอกาสที่จะเกิดน้ำหลากหรือน้ำป่ามีสูง

ชั่วไม่นานฝนก็เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาช่วงสั้นๆ ตามธรรมชาติของฝนใต้ มาเร็ว-ไปเร็ว แต่นั่นไม่เท่ากับที่ พิษของสายฝนได้ทิ้งภาระอันหนักอึ้งเอาไว้ให้ขบวนรถของเราต้องแก้ไขตลอด โดยเฉพาะความลื่นของพื้นผิวเส้นทาง จนต้องดึง ต้องลาก ฉุดกระชากกันจ้าละหวั่น กว่าจะหลุดพ้นเส้นทางสู่บ้านลำภีก็เย็นย่ำพอดิบพอดี

และนี่ก็คือ ทริปล่องใต้ ไปท่องผืนป่าน้ำตกคลองงา ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนป่ารอยต่อของ 3 อำเภอ สำหรับชาวออฟโรดท่านใด แวะเวียนลงใต้และอยากไปสัมผัสเส้นทางน้ำตกคลองงา ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ชมรม PART TIME OFF ROAD โคกกลอย ได้ตลอดเวลาครับ…

ข้อมูลการเดินทาง

น้ำตกคลองงา ตั้งอยู่ใน ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สามารถเดินทางมาได้ทั้งจากจังหวัดพังงา และ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วป่า หากว่าเดินทางจากโคกกลอยให้ใช้เส้นทางหมายเลข 4 เป็นหลัก จนถึงแยกบ้านทุ่งพร้าว จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4240 ก่อนตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 4090 รวมระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ก็ถึงปากทางเข้าตำบลลำภี อ.ท้ายเหมือง

หากว่าเดินทางจากพังงาซึ่งเป็นคนละด้านกับทางด้านโคกกลอย ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ขับไปจนถึงแยกนบปริง จากนั้นขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4090 ผ่านบ้านทุ่งคาโงก ใช้เวลาไม่นานก็จะถึงบ้านลำภี

อย่างไรก็ตามหากใครจะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในเส้นทางดังกล่าว ควรให้ความเคารพต่อสถานที่และผู้ดูแลพื้นที่ก่อน นั่นก็คือ ควรติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ คือ กำนันวีระศักดิ์  วรรณอมร ก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีของชาวออฟโรดที่ต่อเนื่องกันมา