และเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปสุดพิเศษกับกิจกรรม “Extraordinary Adventure กับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์” ณ ประเทศลาวทางตอนใต้ ด้วยการนำคณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปท่องเที่ยวพร้อมๆ กับทดสอบสมรรถนะของรถ SUV สุดหรูดังกล่าว
โดยตลอดเส้นทางของการเดินทางครั้งนี้ คณะสื่อมวลชนได้ร่วมพิสูจน์สุดยอดสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดของฟอร์ด เอเวอเรสต์ จากเส้นทางอันแสนท้าทายในการข้ามลำธารถึง 3 แห่ง โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะด้านการขับขี่อันทรงประสิทธิภาพตามเอกลักษณ์ของฟอร์ด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq TDCi VG Turbo ขนาด 3.2 ลิตร แบบ 5 สูบ ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ อัจฉริยะ Terrain Management ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับรูปโหมดการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับลุยโคลน พื้นทราย หินกรวดขรุขระ รวมถึงการลุยน้ำข้ามลำธาร เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนให้ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ด้วยระบบล็อคเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential (LRD) ประกอบกับความสูงจากพื้นรถถึง 225 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ระดับเดียวกัน และความสามารถในการลุยน้ำที่ความลึกสูงสุดที่ 800 มิลลิเมตร
ต่อมา ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ เดินทางถึงน้ำตกแซปองไล น้ำตกอันซีนสุดตระการตาแห่งใหม่ในลาว ขณะที่แสงยามเย็นของดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ ทาง นิตยสารออฟโรด ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้จัดคาราวานพารถมากกว่า 50 คัน มาท่องเที่ยวเมื่อต้นปี จากนั้นมาชื่อของน้ำตกแซป่องไลก็เป็นที่รู้จักและสร้างความฮือฮาไปทั่ว ทำให้มีทั้งคณะนักท่องเที่ยว ชาวออฟโรดในเมืองไทย หรือแม้แต่บริษัทรถยนต์ค่ายต่างๆ จัดทริปเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวไม่ขาดสาย เพราะนอกจากความสวยงามราวกับสวรรค์ปั้นแต่งของน้ำตกแห่งนี้แล้ว การเดินทางเข้าไปเที่ยวชม ยังจะต้องอาศัยรถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถออฟโรดเป็นพาหนะสำคัญต้องขับฝ่าเส้นทางฝุ่น ผสมเส้นทางออฟโรดในบางช่วง และที่สำคัญต้องขับข้ามลำห้วยถึง 3 แห่ง ถือเป็นการเดินทางผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดแห่งหนึ่งของลาวใต้ในปัจจุบัน
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีโอกาสชื่นชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตก และความงามของแสงที่ส่องกระทบกับละอองน้ำก่อให้เกิดรุ้งกินน้ำสวยงามสะกดทุกสายตา สมาชิกคาราวานได้อิ่มเอมกับบรรยากาศแคมปิ้งที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ ก่อนเข้าพักในเต็นท์เพื่อเตรียมตัวสำหรับการผจญภัยในวันถัดไป
ในวันที่สอง คณะสื่อมวลชนออกเดินทางไปยังน้ำตกแซพะ น้ำตกเลื่องชื่ออีกแห่งหนึ่งที่สวยงามไม่แพ้กัน แล้วจึงมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนสมบูนไชย ดอนโขง เพื่อมอบสิ่งของที่จำเป็นให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่ พร้อมทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนและเด็กนักเรียน
จากนั้น ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ เคลื่อนต่อไปยังน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของลาวใต้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับเส้นทางลาดชันและโค้งจำนวนมาก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงสามารถฝ่าฝันทุกสภาพเส้นทางได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อการขับขี่แบบออฟโรดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) ที่ช่วยควบคุมการขับลงเขาที่เสริมแรงเบรกในระดับความเร็วต่อเนื่อง และระบบช่วยการออกตัวขณะจอดรถบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist)
สถานที่แห่งสุดท้ายของวันที่สอง คือ น้ำตกตาดฟาน น้ำตกสูงใหญ่สองสายที่ไหลขนานลงสู่หน้าผาสูงกว่า 100 เมตร รายล้อมด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่มนานาพรรณในบริเวณอุทยานแห่งชาติดงหัวสาวแถบที่ราบสูงโบโลเวน เมืองจำปาสัก นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมซิปไลน์ (Zip Line) หรือ โหนสลิงจิบกาแฟ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยท้าทายในแบบเอ็กซ์ตรีม ที่มอบความตื่นเต้นประทับใจเสมือนได้เป็นนกบินอยู่เหนือผืนป่าอันกว้างใหญ่
หลังจากนั้น คณะสื่อมวลชนได้แวะเยี่ยมชมวิถีชีวิตชนเผ่า “ตะโอย” ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่าที่อาศัยอยู่อย่างเรียบง่ายบริเวณใกล้เชิงเขาท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม ชาวตะโอยมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ ด้วยจารีตประเพณีการบูชาเจ้าอย่างเคร่งครัดและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยชาวบ้านนิยมปลูกไม้อุตสาหกรรม ไม้ผล กาแฟ และเลี้ยงสัตว์ใหญ่ รวมถึงงานหัตถกรรมและงานผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดเวียงจันทน์
ส่วนเช้าวันสุดท้ายในแผ่นดินลาวใต้ ขบวนคาราวานฟอร์ด เอเวอเรสต์ ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการแวะเยี่ยมชมปราสาทหินวัดพู หรือที่ชาวลาวนิยมเรียกกันว่า ภูเกล้า โบราณสถานสำคัญของลาว ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์กร UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี 2544 ก่อนที่จะเดินทางย้อนกลับเข้าสู่ประเทศไทย หลังซึมซับความสวยงามของธรรมชาติสุดอันซีนไปกับสุดยอดรถ SUV สมรรถนะสูงอย่าง ฟอร์ด เอเวอเรสต์
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.