2,900 KM. จากมหาสมุทรแปซิฟิกสู่มหาสมุทรอินเดีย กับ MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN
MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN
EAST – WEST ECONOMIC CORRIDOR เวียดนาม-ลาว-ไทย-พม่า
Greater Mekong Subregion (GMS) หรือ การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งคนทั่วๆ ไปอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไรนัก มันเป็นมาตรการสำคัญประการหนึ่งในการพัฒนาภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนระหว่าง 6 ประเทศ คือ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ ตั้งแต่ปี 2535 โดยมีธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank – ADB) เป็นผู้ให้การสนับสนุนหลัก เพื่อส่งเสริมการขยายตัวด้านอุตสาหกรรม การเกษตร การค้า การลงทุนและบริการ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ยกระดับการครองชีพ การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการศึกษาระหว่างกัน รวมทั้งการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ส่งเสริมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถและโอกาสการแข่งขันในเวทีการค้าโลก
ย่างกุ้งในปัจจุบัน การจราจรค่อนข้างหนาแน่นพอๆ กับกรุงเทพฯบ้านเรา
รถไฟพม่าหรือเมียนม่าร์ อายุอานามใกล้เคียงกับเมืองไทย
“ตลาดสก๊อต” หรือ ตลาดโบยกอองซาน สถานที่จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อและของที่ระลึก ใจกลางเมืองย่างกุ้ง
ทั้งนี้ Greater Mekong Subregion (GMS) ได้กำหนดแนวพื้นที่เศรษฐกิจในลุ่มแม่น้ำโขงเอาไว้ ให้เป็นแนวพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจของอนุภูมิภาค โดยทั้งหมดจะตั้งอยู่บนแนวระเบียงเศรษฐกิจหลักๆ 3 แนว ได้แก่
1) ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ (North-South Economic Corridor: NSEC)
2) ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East-West Economic Corridor: EWEC)
3) ระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ (Southern Economic Corridor: SEC)
ประเทศไทยเราจะเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุด ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์ และระเบียงเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ จะเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก ที่ จ.พิษณุโลกและตาก ส่วนระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor : EWEC) หรือเส้นทางหมายเลข R2 หรือ R9 มีระยะทางยาว 1,450 กิโลเมตร อยู่ในเขตไทยประมาณ 950 กิโลเมตร เส้นทางนี้เริ่มจากเมืองท่าดานัง ผ่านเมืองเว้ และเมืองลาวบาว (Lao Bao) อันเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม จากนั้นจะใช้ทางหลวงหมายเลข 9 ในลาว ผ่านเข้าแขวงสะหวันนะเขต ข้ามสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 (มุกดาหาร – สะหวันนะเขต) ข้ามแม่น้ำโขงสู่ไทยที่ จ.มุกดาหาร ผ่านจ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ไปจนสุดชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก และเข้าไปยังประเทศพม่าจนถึงอ่าวเมาะตะมะที่เมืองเมาะลำไยหรือมะละแหม่ง นับเป็นการเชื่อมจากทะเลจีนใต้ไปสู่มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งอาจจะสามารถเชื่อมต่อไปยังอินเดียและตะวันออกกลางต่อไป
เจดีย์โบดาทาวน์ หรือ เจดีย์นายทหาร 1000นาย ที่ย่างกุ้ง ที่ตั้งของเทพทันใจ
สถูปบรรจุพระเกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ ที่เจดีย์โบดาทาวน์
เทพทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์
เทพกระซิบ ที่เจดีย์โบดาทาวน์
และในโลกของยานยนต์ทุกวันนี้ จะเห็นว่าแต่ละค่ายต่างแข่งขันกันด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมล้ำสมัย ที่ทุกค่ายทั่วโลกต่างมุ่งมั่นคิดค้น พัฒนา ด้วยแนวคิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง และเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะมาสด้าได้มุ่งมั่นทุ่มเทพัฒนาจนประสบความสำเร็จอย่างสูง จนได้รับการยอมรับมาแล้วทั่วโลก โดยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทั้งหมดนี้จะอยู่ในรถของมาสด้าทุกรุ่นจนกลายเป็น MAZDA DNA SKYACTIV ซึ่งทางมาสด้าได้นำสื่อมวลชนไปร่วมสัมผัสบนเส้นทางสายเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งนี้
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า เทคโนโลยีใหม่ สกายแอคทีฟ – วิฮีเคิล ไดนามิกส์ (SKYACTIV–Vehicle Dynamics) ของมาสด้านั้นมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง เริ่มจาก
เครื่องยนต์ทั้งสกายแอคทีฟคลีนดีเซล (SKYACTIV-D) คือ เครื่องยนต์ดีเซลที่เผาไหม้สะอาดเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่สามารถผ่านข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียโลก ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสกายแอคทีฟเบนซิน (SKYACTIV-G) คือ เครื่องยนต์เบนซินแบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ที่ให้ประสิทธิภาพสูง เจนเนอเรชั่นใหม่เป็นเครื่องยนต์ที่มีอัตราแรงอัดอากาศในการเผาไหม้สูงที่สุดของโลก คืออัตรา 14:1 โดยที่เครื่องยนต์ไม่เกิดอาการน๊อค เผาไหม้สมบูรณ์ ให้แรงม้าและแรงบิดสูง พร้อมประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น มาพร้อม SKYACTIV-Drive ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ที่ส่งถ่ายแรงบิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ แม่นยำ ราบรื่น ต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว
SKYACTIV-Body ที่ถูกพัฒนาเพื่อลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นลง เป็นโครง
พระตาหวาน วัดเจ๊าทัตยี พระนอนองค์ใหญ่ที่ตาหวานที่สุด ในย่างกุ้ง
เจดีย์ชเวดากอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองพม่าหรือเมียนม่าร์
สำหรับดีเอ็นเอ สกายแอคทีฟสายพันธุ์ล่าสุดนี้ ได้ถูกฝังในหัวใจของรถมาสด้ารุ่นปัจจุบันของปี 2017 ซึ่งได้แก่ มาสด้า 2, มาสด้า 3, มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะถูกส่งต่อในรุ่น มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ซึ่งทั้ง 4 รุ่นนี้ ใช้เป็นม้าศึกในการเดินทางผจญภัยสู่ EAST – WEST ECONOMIC CORRIDOR เส้นทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ประทับรอยล้อในรูปแบบคาราวานครั้งใหม่ ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของมาสด้า ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และมิได้มองเพียงการเติบโตของมาสด้าประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับสมาชิกในกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งเป็นภูมิภาคที่สำคัญต่อการลงทุน ด้วยประชากรประมาณ 600 ล้านคน จากตัวเลขการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมรถยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างมหาศาล
ทานาคา หรือ กาซานา ที่นิยมมาทำแป้งและครีมบำรุงผิว
แม่น้ำสะโตง หรือ แม่น้ำซิตอง มีความยาว 420 กิโลเมตร เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างหงสาวดีกับรัฐมอญ และเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ไทยเรา ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้แสดงวีรกรรมยิงพระแสงปืนข้ามลำน้ำสะโตง จนเป็นเหตุให้แม่ทัพพม่าคือ สุรกรรมา เสียชีวิต
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ มาสด้าใช้ฝูงสกายแอคทีฟนับ 10 คัน ขับเคลื่อนโดยสื่อมวลชนพร้อมด้วยผู้บริหาร และทีมงานกว่าร้อยชีวิต และแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ที่จะมาสลับผลัดเปลี่ยนกันขับ เพื่อร่วมสร้างเส้นทางแห่งประวัติศาสตร์ เชื่อมโยงอารยธรรม บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เชื่อมโยงวัฒนธรรม โดยมาสด้าปักหมุดไว้ที่เส้นทางสายเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้เส้นทาง R2 หรือ R9 เป็นเส้นทางหลักในการเดินทางครั้งนี้ รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,900 กิโลเมตร ในระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน 2560 รวมระยะเวลา 7 วัน
โดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มแรกหรือสื่อมวลชนชุดแรก เริ่มต้นภารกิจครั้งนี้ด้วยการบินลัดฟ้าสู่เมืองเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม (วันที่ 20-23 มิ.ย. 2560) ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พาคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์มาสด้าในแถบอาเซียน ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองเว้ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของเวียดนาม ก่อนที่จะเข้าสู่ด่านชายแดนลาวบาวของเวียดนาม-ลาว และข้ามแม่น้ำโขงผ่านประเทศลาวด้วยสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เข้าสู่ประเทศไทยใน จ.มุกดาหาร ผ่านขอนแก่น มุ่งหน้าสู่พิษณุโลกซึ่งเป็นจังหวัดที่รัฐบาลไทยปลุกปั้นให้เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงการเดินทางจะทั่วทุกสารทิศ นั่นคือ “4 แยกอินโดจีน” ด้วยตำแหน่งที่อยู่กึ่งกลางจุดตัดระหว่าง NSEC และ EWEC จึงเกิดการเชื่อมโยงเศรษฐกิจจากทั้ง 4 ทิศ ภาครัฐจึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุน มีการจัดตั้งศูนย์บริการกระจายสินค้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติสร้างรายได้ให้ครัวเรือนได้อีกด้วย
ข้ามแม่น้ำสาละวิน
การเดินทางช่วงที่ 2 รับช่วงต่อโดยผู้ร่วมเดินทางกลุ่มที่สอง (วันที่ 23-25 มิ.ย. 2560) ประเดิมวันแรกกับเส้นทางพิษณุโลก สู่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อข้ามแดนสู่เมืองมะละแหม่ง เมืองตากอากาศชายทะเล ประเทศพม่า ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงของประเทศพม่า ศูนย์กลางทางการค้าหลักที่สำคัญของประเทศ ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยบรรยากาศของตลาดจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกอันขึ้นชื่อ “ตลาดสก๊อต” หรือ ตลาดโบยกอองซาน ก่อนที่จะส่งมอบพวงมาลัยต่อให้ร่วมเดินทางกลุ่มสุดท้ายในวันที่ 24-26 มิ.ย.2560
สำหรับการเดินทางในช่วงสุดท้าย คือ สมาชิกกลุ่มที่ 3 ก่อนรับภารกิจครั้งนี้ได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวพม่า ที่แม้แต่คนไทยยังต้องดั้นด้นไปไหว้ขอพร เริ่มต้นที่วัดเจ๊าทัตยี พระนอนองค์ใหญ่ที่ตาหวานที่สุด, พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง และเจดีย์โบดาทาวน์ หรือ วัดเทพทันใจ หลังจากอิ่มบุญก็เริ่มภารกิจนำทัพ MAZDA DNA SKYACTIV กลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครถือเป็นอันเสร็จสิ้นสุดภารกิจ พร้อมกับการกลับมารวมตัวของผู้ร่วมเดินทางเพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของเส้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ MAZDA DNA SKYACTIV CARAVAN ณ ร้านอะเบาท์ฮิพ (About Hip) บนถนนประชาชื่น
จิตรกร ถาวร เรื่อง/ภาพ
ผ่านเมืองเมียวดี เมืองชายแดนติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก
MAZDA DNA SKYACTIV เดินทางกลับสู่ประเทศไทย ผ่านด่านแม่สอด มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับการกลับมารวมตัวของผู้ร่วมเดินทางร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของเส้นทางประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ณ ร้าน About Hip บนถนนประชา
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.