PUSH START จุดพลังให้เครื่องยนต์เพียงแค่กดปุ่ม

 ท่านคงเคยได้ยินคำเปรียบเปรยที่มักยกยอให้ความสะดวกสบายในทุกสิ่งทุกอย่างมีวิธีการใช้ที่ง่ายดาย “เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส” กันมาอยู่บ่อยครั้งจนชินหูกันแล้ว แต่พอมาถึงในวันนี้ จะมีใครคาดคิดบ้างว่า การกดปุ่มเพื่อเปิดและปิดอันเป็นเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานของอุปกรณ์เครื่องใช้ทั่วๆ ไป กำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่แห่งโลกยานยนต์ที่มีความล้ำหน้ามากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

อันที่จริงเรื่องของการสตาร์ทรถยนต์ด้วยวิธีการกดปุ่มนั้น เป็นหลักการและแนวความคิดที่มีมานานแล้ว จนบางทีอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความคิดที่ได้มีการริเริ่มที่จะนำวิธีการดังกล่าวนี้มาใช้ในการสตาร์ทรถออกมาก่อนวิธีการสตาร์ทรถด้วยการบิดกุญแจเสียด้วยซ้ำไป เพียงแต่ติดขัดอยู่ตรงที่ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีบางตัว ซึ่งในยุคนั้นยังไม่ได้มีการรับรองอย่างเป็นกิจจะลักษณะเท่านั้น เทคโนโลยีการสตาร์ทรถด้วยการกดปุ่มจึงถูกลดบทบาทลงไป และถูกดองเอาไว้ในกรุยานยนต์มามากกว่า 50 ปี

ซึ่งเทคโนโลยีการสตาร์ทรถยนต์ด้วยการกดปุ่มหรือที่มีชื่อเรียกนวัตกรรมดังกล่าวนี้ว่า “Push Start” เป็นการผสมผสานนำเอาความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นหลักใหญ่และใจความสำคัญในการพัฒนา ภายใต้กรอบของความปลอดภัยที่เทคโนโลยีนี้จะต้องมีให้กับผู้บริโภคมากกว่าวิธีการสตาร์ทรถด้วยการบิดกุญแจในรูปแบบเดิมๆ เพราะแน่อนอนว่า หากทำออกมาแล้วมันไม่ได้มีคุณภาพที่ดีกว่ารูปแบบการสตาร์รถด้วยวิธีการบิดกุญแจ เทคโนโลยีดังกล่าวย่อมไม่ได้รับความนิยมและมีอันต้องถูกเขี่ยตกกระป๋องไปในท้ายที่สุด

และนั่นคือ อุปสรรคข้อที่แรกของปุจฉาวิสัชนาที่จะต้องทำออกมาให้ดีกว่าเทคโนโลยีของเดิมที่มีอยู่ ส่วนอุปสรรคข้อต่อมาก็เป็นเรื่องของความมั่นใจ ซึ่งเป็นปัญหาในเรื่องของภาพลักษณ์และมุมมองที่ผู้บริโภคคุ้นเคย กับวิธีการสตาร์รถด้วยการบิดกุญแจมายาวนานมากกว่า 50 ปี ดังนั้นการที่จะไปเปลี่ยนค่านิยมและวิธีการปฏิบัติที่ถูกฝังลึกมายาวนาน จึงไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายอย่างที่ทุกคนคิดกันว่าของใหม่จะกลบกลืนของเก่าได้เสมอไป

การสตาร์ทรถแบบ Push Start เป็นเทคโนโลยีการสตาร์ทรถยนต์รวมไปถึงการเข้า-ออกภายในห้องโดยสารที่ไม่จำเป็นต้องใช้การบิดกุญแจที่เบ้าเสียบ ซึ่งระบบนี้จะใช้กุญแจระบบ Keyless Smart Entry System ที่คอยส่งคลื่นสัญญาณที่มีความถี่ที่เป็นรหัสเฉพาะตัวของรถแต่ละคัน เพื่อคอยปลดล็อกประตูและสตาร์ทรถด้วยวิธีการกดปุ่ม

ผู้ใช้รถเพียงแค่พกพาเจ้ากุญแจรถ Keyless ที่ว่านี้ติดตัวเอาไว้ เมื่อไปถึงยังบริเวณที่จอดรถกุญแจจะส่งคลื่นสัญญาณที่มีการเข้ารหัสเอาไว้ไปที่ตัวรถโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้จึงสามารถเปิดประตูรถได้โดยที่ไม่ต้องหยิบกุญแจขึ้นมาเสียบและบิดไขรถเหมือนเช่นในอดีต ซึ่งการส่งสัญญาณจะครอบคลุมภายในรัศมีไม่เกิน 80 เซนติเมตรโดยวัดจากรถยนต์เป็นจุดศูนย์กลางจนถึงบริเวณที่ส่งสัญญาณจากุญแจ Keyless ซึ่งที่ประตูจะใช้ระบบเซ็นทรัลล็อกนิรภัยทั้งหมดจึงสามารถเปิดประตูในทุกๆ ด้านได้พร้อมเพรียงกัน

 สำหรับการสตาร์รถยนต์ก็จะใช้วิธีการกดปุ่ม Push Start ซึ่งปุ่มดังกล่าวนี้จะติดตั้งอยู่ที่บริเวณคอนโซลของรถทางฝั่งคนขับ ซึ่งกุญแจ Keyless จะส่งสัญญาณไปยังระบบความปลอดภัยตัวรถ เมื่อผู้ใช้ต้องการจะสตาร์ทรถยนต์ก็เพียงแค่เหยียบเบรคแล้วกดปุ่ม “Push Start” ระบบคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกว่า ECU จะทำการประมวลผลว่ารหัสของกุญแจตรงกันกับรถยนต์หรือไม่ จากนั้นจึงสั่งการให้ติดเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติทันทีที่ตรวจเช็คแล้วว่า มีความปลอดภัยตามเงื่อนไขที่ระบบของรถยนต์แต่ละคันได้ตั้งเอาไว้ (หากผิดเงื่อนไขหรือรหัสของกุญแจที่ส่งออกมาไม่ตรงกับตัวรถจะทำให้สตาร์ทไม่ติด)

ขั้นตอนการประมวลผลจะใช้เวลาที่ต่ำกว่า 1 วินาที (Millisecond) อีกด้วย ซึ่งหากเป็นในกรณีของการดับเครื่องยนต์ ก็จะมีวิธีในการดำเนินการที่คล้ายคลึงกัน เพียงแค่จอดรถจนหยุดสนิทกดปุ่มเครื่องยนต์ก็จะดับลงในท้ายที่สุด โดยเครื่องยนต์จะอยู่ในสภาะทำงานและระบบต่างๆ จะสามารถใช้งานไดก็ต่อเมื่อมีกุญแจอยู่ในรัศมีไม่เกิน 80 เซนติเมตรเท่านั้น หากเกินไปกว่านี้ระบบจะล็อคและหยุดการทำงานลงทันที

ภาพแสดงกราฟฟิคแสดงให้เห็นถึงระบบความปลอดภัยที่มาจากคลื่นของกุญแจ Keyless 

 ทั้งนี้ระบบ Push Start มีเงื่อนไงความปลอดภัยและระบบการทำงานที่น่าสนใจมากเพราะนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของรถแล้ว การทำงานทางด้านการประมวลผลของตัวรถก็มีความรัดกุมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งการกดปุ่ม Push Start มีความหมายที่แตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้

การทำงานของระบบ Push Start 

และนี่คือเทคโนโลยี Push Start นวัตกรรมที่มีแนวโน้มจะถูกนำมาใช้ในรถยนต์ทุกๆ คันเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ในอนาคตยานยนต์จะถูกเรียกขานว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งการขับเคลื่อนเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสอย่างแน่นอน