สัญญาหน้าฝน บนเส้นทางมหาโหดบ้านห้วยโกร๋น-ดอยม่อนล้าน
ห่างหายกันไปนาน กลับมาครั้งนี้ผู้เขียนเองขอนำเสนอกิจกรรมดีๆ ของทางเพื่อนพ้องน้องพี่ กลุ่มออฟโรดสายเหนือ ซึ่งทุกๆ ครั้งในช่วงต้นฤดูฝน เราจะมีกิจกรรมสัญจรมีตติ้งกระชับความสัมพันธ์เหล่าพี่ๆ น้องๆ ซึ่งในครั้งนี้คนต้นคิดกิจกรรมในครั้งนี้ คือ เอบีบี (เชียงรายแอดเวนเจอร์) ลุงหินเอาดอร์ และ เอก 4x4 และผู้เขียนเป็นคนประสานงาน
ครั้งนี้เราปักหมุดเส้นทางไว้ที่ ดอยม่อนล้าน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ซึ่ง ดอยม่อนล้าน มีความสูงประมาณ 1,696 เมตร ถือว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงของ อ.พร้าว สามารถเห็นทะเลหมอก โดยเฉพาะช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกจะมีความสวยงามมาก สามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาว เขื่อนแม่งัด และตัว อ.พร้าวในยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวยังจะได้ชมดาวบนดินได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ชาวบ้านเข้ามามีส่วนในกิจกรรมต่างๆ ของสถานี บริเวณพระตำหนักที่ประทับยังมีดอกไม้เมืองหนาวสีสันสวยงามนานาพันธุ์ให้ได้ชื่นชมและถ่ายภาพบนดอยม่อนล้าน ยังเป็นจุดติดตั้งของกังหันลมเพื่อการผลิตไฟฟ้า ตามโครงการศึกษาศักยภาพการ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่อีกด้วย
แต่เรามันคนออฟโรดจะขับไปตามเส้นทางหลักง่ายๆ ก็กระไรอยู่ จึงปรึกษากับ เอก 4×4 ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า เส้นทางที่จะใช้วิ่งขึ้นยอดดอยม่อนล้านจะใช้เส้นทางเก่าที่ชาวบ้านเลิกใช้ไปแล้ว ลุงหินบอกว่าเส้นทางที่ว่านี้คือ เริ่มต้นจากบ้านห้วยโกร๋น ระยะทางใกล้ๆ ประมาณ15 กิโลเมตร ก็ถึงยอดดอยม่อนล้าน ในใจผมคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน
ครั้นถึงวันเดินทางเรานัดหมายมาเจอกันที่ ปั๊ม ปตท. แม่ขะจาน สมาชิกออฟโรดสายเหนือ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอู่เอก 4×4, กลุ่มฝางออฟโรด 4×4, กลุ่มนอร์ทฟอร์เรส, กลุ่มดอยหล่อ 4×4, กลุ่มเชียงราย Adventure 4×4, กลุ่มแก่งเสือเต้นออฟโรด 4×4 และกลุ่มเฉพาะกิจออฟโรดเชียงใหม่ และกลุ่มพระยาพิชัยออฟโรด เริ่มทยอยเดินทางมาสมทบจนลานกว้างในปั๊มน้ำมันแคบไปเลย
เมื่อเหล่าเพื่อนสมาชิกมาถึงกันเกือบครบทุกกลุ่ม การจะเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อแวะมอบปัจจัยและเงินจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เสร็จกิจกรรมเวลาก็ปาไปเกือบเที่ยง พวกเราเร่งเดินทางมุ่งสู่บ้านห้วยโกร๋น เพราะตอนนี้มีฝนโปรยปรายลงมาแล้ว จากการสอบถามเอก ผู้ที่เคยใช้เส้นทางนี้เมื่อสามปีก่อนบอกว่า ลักษณะเส้นทางคือ ร่องลึก เนินชันยาวๆ มีดินหนังหมู และมีบ่อโคลนดักสุดท้ายก่อนออกถึงยอดดอยม่อนล้าน ในเส้นทางช่วงแรกนั้นผู้เขียนยังวิ่งไปแบบชิลๆ อารมณ์ขับรถไปเที่ยวสวน เส้นทางถือว่าเบาๆ ก่อนที่จะถึงทางแยกบ้านห้วยโกร๋น เริ่มจะเข้าสู่โหมดเส้นทางสาย A (ทางออฟโรด) และมีบางคณะที่ไปทางสาย B เพราะต้องขึ้นไปรอเตรียมเรื่องอาหารเย็น
หลังจากขับมาเรื่อยๆ ผู้เขียนและกลุ่มเอก 4×4 มาถึงเป็นกลุ่มแรก จึงขออาสาเข้าเป็นหน่วยหน้า ซึ่งงานนี้ก็ทั้งฟันทั้งขุดทำทาง เล่นเอาน้องๆ ในกลุ่มหมดแรงไปตามๆ กัน กลายเป็นว่ากลุ่มหลังเบาแรงไปเยอะ ซักพักเสียงวิทยุของกลุ่มหลังแจ้งมาว่า รถกลุ่มหลังของฝางออฟโรดมีปัญหาขอเปลี่ยนเส้นทางไปสาย B ให้กลุ่มข้างหน้าเดินทางได้เลยไม่ต้องรอ กลุ่มแรกจึงขับนำไปเรื่อยๆ ขับมาซักพักมาถึงจุดไฮไลต์ ขวามือเป็นหลุมลึกและทางแคบมากต้องวินช์กันไม่ให้รถไหลตกลงหลุมด้านขวา แต่ยังมีสมาชิกบางคันขอสู้โดยไม่ขอวินช์ คันที่ไม่วินช์ขอประเดิมคันแรกคือ รถของเอบีบี แกเล่นเบียดซ้ายสุดๆ เทคเดียวยกหน้าโชว์ เล่นเอาผมหลบแทบไม่ทันเพราะเป็นคนถ่ายภาพ ตามมาด้วยคันเก่งของผู้เขียนตามไลน์เดียวกัน เทคเดียวเช่นกันแต่ไม่มีใครถ่ายภาพให้ เสียใจจริงๆ ไม่มีภาพ ตามมาด้วยรถของสอนอ คาริเบียนแดงคันเก่งตามไลน์เดียวกัน แต่ดินเริ่มสไลด์แล้วทำให้ล้อหลังไหลตกลงร่องขวา ตกลงไปเกือบทั้งคัน เช่นเดียวกับรถของเฮียหริดขาประจำที่ชอบคว่ำทุกทริป ก็ไม่ยอมน้อยหน้าตามสอนตกลงหลุมเดียวกัน เป็นจุดที่ได้เรียกเสียงเฮฮามากไม่น้อย
ผ่านจุดนั้นมาซักพักเริ่มมืดค่ำ มีเสียงวิทยุสื่อสารของกลุ่มที่ใช้เส้นทางสาย B เรียกมาเป็นระยะๆ ว่า ตอนนี้ถึงไหนกันแล้ว อาหารกับแกล้มก็พร้อมรอคนขึ้นมากินเท่านั้น หลายคนหันหน้ามาถามผมว่า อาจารย์ต้อม ตอนนี้เราผ่านมาเยอะใกล้ทางออกแล้วหรือยัง ผมเองเงียบตอบไปว่าใกล้แล้ว แต่ด้วยความมืดเริ่มปกคลุมบวกสายฝนโปรยปรายลงมาตลอด ยังถือว่าโชคดีที่ฝนไม่ได้ตกหนักไม่อย่างนั้นคงหนาวแย่ ผู้เขียนเองต้องขึ้นๆ ลงๆ เพื่อไปเก็บภาพจุดยากๆ จนตามกลุ่มนำไม่ทันแล้ว ผู้เขียนเองจึงขยับมาเกาะกับกลุ่มเฉพาะกิจออฟโรดเชียงใหม่กับกลุ่มแก่งเสือเต้น
ตลอดเส้นทางฝนตกโปรยปรายลงมาไม่ยอมหยุด จนเวลาเกือบ 4 ทุ่ม กลุ่มหลังที่ขับตามกันมาก็ขับมาเจอกลุ่มเอก 4×4 ซึ่งกำลังช่วยกันทั้งวินช์ เปิดทางใหม่ เพื่อหลบบ่อโคลนเพราะเท่าที่ผมเองจับเวลาในแต่ละคันที่ลงไปใช้เวลาวินช์มากกว่า 20 นาที แต่การเปิดไลน์ใหม่กลายเป็นยากกว่าเดิม เพราะผิวดินบริเวณดังกล่าวเป็นลักษณะบ่อโคลนดูด ยิ่งปั่นยิ่งลึกกลายเป็นฝังตัวเอง ผมเองก็ไปช่วยบ้างนิดๆ หน่อยๆ จุดนี้เองทำให้สมาชิกทีมเอกหลายคนนอนในรถหมดเรี่ยวแรง เพราะทั้งฟันกิ่งไม้ทั้งขุดทำทางมาตลอด นับถือน้ำใจจริงๆ ผมเองก็หมดแรงแอบหนีไปงีบนอนเหมือนกัน ผ่านไปซักพักสะดุ้งตื่นมาดูนาฬิกา เวลาปาไปเกือบตีสาม เสียงวินช์ยังหวีดร้องทำงานยังไม่หยุด ผมจึงไปต๋งหลังวินช์ให้กับกลุ่มทริปเปอร์ โดยมีเอ ราหู จากเชียงรายแอดเวนเจอร์ ช่วยกันวินช์กับเมษ์ จนผ่านไปหลายคัน เหลือชุดหลัง 3 คันสุดท้าย คือ รถผู้เขียน รถเมษ์สปิริตทีม และรถเนว์นอร์ทฟอร์เรส
ตรงนี้ผมอาศัยวินช์ หลังช่วยเหลือกันขึ้นบ่อโคลนได้ค่อนข้างเร็ว แต่พอมาเจอรถเมษ์ โอ้ว…หนักจริงๆเล่นเอาวินช์เชือกขาดถึง 3 รอบ ตรงนี้หันมามองหน้าปัดนาฬิกาหน้ารถปาเข้าไปถึงตี 4 เสียงเอกมาเคาะกระจก อาจารย์จะขึ้นอีกเหรอ ผมบอกว่าจะขึ้นไปกินลาบที่ทางฝางออฟโรดเตรียมไว้ให้ เอกบอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะตามขึ้นไปเพราะหลายคนหมดแรงขอต่อพรุ่งนี้ ผมกับเมษ์ขับตามกันมาท่ามกลางหมอกที่ลงปกคลุมไปทั่ว มองเห็นไม่เกิน 5 เมตร ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะทางยังเป็นร่องลึกและลาดเอียง ขับมาสักพักจนเจอถนนดำ ผมก็เจอกลุ่มแก่งเสือเต้นจอดนั่งพักเหนื่อยกันกลางทาง หันมาถามว่าจุดกางเต็นท์อยู่ไกลไหม ผมก็พยายามโทรหาโลที่ไปกางเต็นท์นอนรออยู่ก่อนแล้ว จังหวะดีมากเพราะแกไม่ปิดโทรศัพท์ บอกให้มากางเต็นท์ตรงลานด้านล่าง ซึ่งสมาชิกฝางออฟโรดกับพระยาพิชัยออฟโรด ที่วิ่งเส้นทางสาย B มานอนกันตรงนี้ คณะเราจึงรีบเดินทางให้ไปถึงจุดหมาย เพราะผู้เขียนเองง่วงสุดๆ พอไปถึงที่หมายหลายคนหลับกันหมดแล้ว
ทริปนี้เป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ ตื่นนอนตอนเช้าจะว่าไปก็เหมือนไม่ได้นอนเพราะมีคนมากวนตลอดเสียงเพลงร่ำร้องของเหล่าพี่ๆ น้องๆ บนยอดดอยม่อนล้านมันช่างมีความสุขจริงๆ เฮฮาตามประสาคนคอเดียวกัน…ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันกลับบ้านตามเส้นทางคนออฟโรดสายเหนือ จบไปอย่างสวยงาม ทริป “สัญญาหน้าฝน เฮาคือเพื่อนกั๋น”
การเดินทางสู่ดอยม่อนล้าน
เส้นทางแรก จาก อ.พร้าว – อ.เวียงป่าเป้า (ถนนลาดยาง) ระยะทาง 22 กิโลเมตร ไปถึงแยกซ้ายที่บ้านขุนแจ๋ (ถนนดินลูกรัง) ผ่านโครงการหลวงแม่ปูนหลวงหน่วยจัดการต้นน้ำพร้าว บ้านแม่ปูนหลวง ถึงหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวม ระยะทาง 17 กิโลเมตร จากหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สะลวมถึงดอยม่อนล้าน (ถนนดิน) ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เส้นทางส่วนใหญ่ไม่ค่อยดีเป็นดินแดงลูกรัง ต้องใช้รถกระบะเท่านั้น รถเก๋งหรือรถตู้ไม่สามารถขึ้นไปได้ สามารถติดต่อเช่ารถกระบะขึ้นดอยม่อนล้านได้
เส้นทางที่สองคือ เส้นทางป่าไหน–ป่าหญ้าไทร เฉพาะรถออฟโรดเท่านั้น เนื่องจากเป็นเส้นทางดินลูกรังมีหลุมบ่อลึกและค่อนข้างชัน จากอำเภอพร้าว ผ่านวัดกลางเวียง อ่างเก็บน้ำห้วยโกร๋น และบ้านป่าหญ้าไทร ถึงสถานีเกษตรที่สูงดอยม่อนล้าน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และเส้นทางที่สามก็คือเส้นทางที่เราเดินทางไปในครั้งนี้
เรื่องและภาพโดย อ.ต้อม ประตูผา