CHEVROLET CAPTIVA
HONDA CR-V
MAZDA CX-5
NISSAN X-TRAIL HYBRIDE
ความร้อนจากภัยแล้ง ยังไม่แรงเท่าการแย่งชิงตลาดในกลุ่ม COMPACT SUV รถยนต์อเนกประสงค์ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดต่อเนื่องตลอดมา ตอนนี้เมื่อกระแสผู้ที่ต้องการรถใช้งานเปลี่ยนไป ภาพลักษณ์และสมรรถนะของตัวรถที่ใช้งานได้จริง คือสิ่งที่เป็นเครดิตให้ทุกคนมั่นใจรถในกลุ่มนี้ ถ้าวัดกันเรื่องเทคโนโลยีบางรุ่นอาจจะนำหน้า แต่ถ้าวัดกันเรื่องภาพลักษณ์บางรุ่นอาจะได้ไป คันไหน รุ่นไหนคือสิ่งที่ใช่ คุณจะแสวงหามันมารับใช้ด้วยตัวเอง
การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทยอยมีออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเพราะมันคือเวลาประจวบเหมาะที่กำลังซื้อจำนวนมหาศาลจะไปค้นหารถคู่ใจในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือหลายรุ่นที่เปิดตัวออกมาจะจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์เสียเป็นส่วนมาก แถมหลายค่ายที่เข้ามาทำตลาดใหม่ก็รีบที่จะนำเอารถในค่ายกลุ่มนี้ออกมาขอแบ่งยอดขาย ความต้องการสวนทางกับการตลาดในช่วงปีก่อนๆ ที่รถในกลุ่มรถเล็กจะขายได้มาก แต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มรู้จักแล้วว่า รถเอนกประสงค์ที่มีสมรรถนะสูงนั้นเป็นอย่างไร และแน่นอนว่าการเปิดตัวรถในกลุ่มนี้จะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ผิดกับฝนฟ้าคะนองตามธรรมชาติที่ทิ้งช่วงห่างไปนาน จนทำให้เส้นทางปกคลุมไปด้วยฝุ่นผง เมื่อฝุ่นฟุ้งกระจายเราก็มองเห็นเส้นทางลำบาก ไม่ต้องตกใจไปเพราะถ้าเราควบรถยนต์อเนกประสงค์ เส้นทางทุรกันดารฝุ่นคลุ้งแบบนี้มันพาเราไปได้
ความน่าสนใจของรถยนต์ในกลุ่มนี้ นอกจากจะมาจากสมรรถนะของตัวมันแล้ว ความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ต้องหยอดไม่ต้องระมัดระวังจนเกินไป ใส่ไปได้ด้วยความมั่นใจ นั่นคือข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง อีกทั้งความลงตัวของภาพลักษณ์ของผู้ใช้งาน ซึ่งมันจะได้รับความเกรงใจจากพนักงานรักษาความปลอดภัยตามห้างสรรพสินค้าอย่างมาก เพราะกลุ่มคนมีสีจะนิยมใช้งาน แถมดีไซน์ของมันยังไปโดนใจไฮโซสาวหลายคนอีกด้วย เพราะมันมีพื้นที่ให้ใส่ของได้มาก และของนั้นอยู่ภายในห้องโดยสารสามารถปีนป่ายเอื้อมไปหยิบเอามาใช้ เช่นหากล้องฟรุ้งฟริ้งมาถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คยามรถติด เหมือนเป็นรถที่เข้าได้กับทุกกลุ่มรองรับการใช้งานได้ค่อนข้างครบ
แต่ในประโยชน์ทั้งหลายของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ได้ว่านั้น มันยังมีคุณสมบัติบางอย่างที่บางคนก็มองไม่เห็นคุณค่าด้วยคำว่า “ไม่ค่อยได้ใช้” นั่นก็คือฟังก์ชั่นการขับขี่อันทันสมัย (AWD) ซึ่งถ้ามันถูกจัดมาอยู่ในรถกลุ่มนี้ ต้องมีของพิเศษติดตัวมาบ้างไม่มากก็น้อยแล้วแต่รุ่น แต่ละค่ายจะให้มา เพราะถ้าจะว่ากันไปเทคโนโลยียานยนต์ไม่หนีห่างกันเพราะมันถูกพัฒนาบนข้อมูลเดียวกันในการรองรับการใช้งาน แต่ใครจะให้มาก ให้น้อยหรือให้แต่พอดี ตรงนี้คือสิ่งที่เราต้องมาชั่งน้ำหนัก เพราะมันต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายนั่นเอง
การออกแบบรถในกลุ่มนี้ จะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ “รถตรวจการณ์” ก็มีคนใช้เรียกพวกมัน ด้วยต้นกำเนิดของความเป็น SUV รถที่ถูกพัฒนาให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นกว่ารถยนต์นั่ง SEDAN ทั่วไป ตัวถังของรถจึงจะมีลักษณะแบบโครงสร้างใหญ่ทะลุถึงกัน มีระยะห่างจากพื้นที่มากพอสำหรับรองรับการใช้งานในหลากหลายเส้นทาง โครงสร้างที่ใหญ่นี้ส่งผลต่อการออกแบบที่ต้องทำให้มัน ดูทันสมัยและใช้งานได้จริง ความโฉบเฉี่ยวของเส้นสายบนตัวรถ ทุกคันเน้นความเฉียบคม
เป็นตัวของตัวเองโดยเฉพาะที่ด้านหน้า CX-5 กระจังหน้าใหญ่วัสดุสีดำรูปทรงสปอร์ต CR-V เสริมเข้ามาด้วยขอบคาดกลางโครเมียม ที่รับกับคิ้วคาดโครเมียมด้านล่าง มันจะดูโอบล้อมทั้งหมดไปจนถึงด้านบนเมื่อยามที่ DAY TIME RUNNIG LIGHT ติดขึ้น วัสดุตกแต่งชนิดเดียวกันนี้ยังพบเห็นที่บริเวณชุดไฟตัดหมอกด้วย
ผ่านการปรับโฉมมาไม่นานทำให้ความทันสมัยของ CR-V แสดงผลงานได้ชัด เช่นเดียวกับ CAPTIVA ที่ในช่วงหลังมันจะดูอ่อนแรงไปจากกระแส ทำให้ทางค่ายระดมใส่ส่วนประกอบตกแต่งทุกสิ่งอย่างที่รถยนต์ในยุคสมัยนี้ควรจะมีมาให้ DAY TIME RUNNIG LIGHT แบบ LED กระจังหน้าขนาดใหญ่ล้อมกรอบด้วยวัสดุแบบโครเมียม แต่ไม่ใส่มามากเกินไป ใช้วิธีการเลือกวัสดุสีเมทัลลิกคาดขวางเป็นริ้วชั้นในกระจังหน้าทดแทน รับกับชุดกันกระแทกด้านล่างกันชนหน้าและไฟตัดหมอก
X-TRAIL HYBRIDE ลดความบึกบึนในการออกแบบลงมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นตัวเครื่องยนต์ธรรมดา แล้วมาใส่แถบคาดสีฟ้าเข้าไปในบริเวณกระจังหน้า บานประตูท้าย กับสัญลักษณ์ที่บานประตูหน้า จุดที่เป็นพื้นที่ภายในกระจังหน้าและช่องของกันชนหน้าและโดยรอบของไฟตัดหมอกนั้นเป็นสีดำ ชัดเจนบริเวณตรงกลางหน้ารถด้วยแถบวัสดุโครเมียมขนาดใหญ่รูปทรงเรขาคณิตรวมโคมในชุดไฟหน้าที่มี DAY TIME RUNNIG LIGHT แบบ LED
CX-5 มีลวดลายเส้นสายบนตัวรถไม่มากแต่เฉียบ คม เหมือนรอยแผลคมมีดจากดาบซามูไรญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่เส้นสันแนวฝากระโปรง CAPTIVA ที่มาในลักษณะที่คล้ายคลึงกันในจุดนี้แต่จะไม่ทิ้งความบึกบึนด้วยความต่างระดับของพื้นที่บริเวณเส้นฝากระโปรงที่กว้างกว่า CR-V ฟรุ้งฟริ้งที่ด้านหน้าแต่ในบริเวณฝากระโปรงจะเน้นความเรียบง่ายเพื่อมุมมองที่สบายตาในแนวลาดด้านหน้านั่นเอง
ส่วน X-TRAIL HYBRIDE ยังไม่เน้นเรื่องการดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสาย แต่ไปใช้ ความได้เปรียบของความปราดเปรียวด้วยความพอดีของแต่ละส่วนในตัวรถแทน โดยทุกคันมีชุดราวแร็คหลังคาติดตั้งมาให้ นั่นคือใช่ในภาพลักษณ์ของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ไม่ใครอยากสลัดทิ้ง
รถยนต์อเนกประสงค์ที่มีความพิเศษตรงพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสาร ในสี่รุ่นนี้มีทั้งที่เป็นเบาะนั่งแบบสองแถวและแบบสามแถว ทุกรุ่นปรับและพับได้ตามฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละรุ่น CAPTIVA ยังมีความเป็นเอกลักษณ์ของการใช้งานได้จริงในเบาะแถวที่สาม มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารในแถวที่สามนี้เอาไว้อย่างชัดเจน รวมไปถึงหน้าต่างด้านข้างที่เปิดโล่งมากที่สุด แอร์หลังแบบแยกสองส่วนกับเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบปรับปรุงใหม่หมด X-TRAIL HYBRIDE ก็ให้ความสำคัญในพื้นที่ด้านหลังแต่จะเน้นที่แถวสองซึ่งสามารถปรับได้ราบเรียบเสมอกับพื้นที่ด้านหลัง ถึงจะมีชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ก็ตาม CR-V เน้นการโดยสารที่สองแถวหน้า ฟังก์ชั่นการใช้งานช่องเก็บของต่างๆ มีอยู่มากและหลายรูปแบบ CX-5 เหมือนกับ CR-V ในเรื่องเน้นการโดยสารในสองแถวหน้า เพิ่มลูกเล่นเบาะแถวสองปรับพับได้หลากหลายกว่ารุ่นอื่นด้วยการออกแบบพนักพิงเบาะแถวสองเป็นสามชิ้น
คอนโซลหน้า CAPTIVA แสดงด้วยความหรูหราของสีทูดทนในการตกแต่ง วัสดุแถบคาดที่ใช้ในการตกแต่งที่ดูหรูมีราคาคาดต่อเนื่องตลอดบานประตูและคอโซลหน้า กรอบพื้นที่ บางจุดเสริมด้วยวัสดุแบบโครเมียม จุดสัมผัสหุ้มวัสดุนุ่มนวล เบาะนั่งรองรับน้ำหนักได้อย่างสนใจ ทัศนวิสัยชัดเจน จุดที่ต้องใช้งานบ่อยๆ จะถูกรวมการติดตั้งเอาไว้บริเวณตรงกลาง กับหน้าจอขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีการติดตั้งมาแทบทุกรุ่น
ส่วน CX-5 ยึดความสปอร์ตเป็นตัวชูโรงเน้นชั้นในดำ ตลอดทั้งคอนโซลเบาะนั่งตัดด้วยด้ายเย็บสีแดง หน้าจอดูธรรมดาไปสักหน่อยในตัวนี้ ด้วยความกลืนกันทั้งหมดของการตกแต่งด้วยสีดำมีเพียงวัสดุชิ้นเล็กๆ สีเมทัลลิกตกแต่งในมุมเฉียงของพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นขอบที่เก็บของและบริเวณบานประตู
แต่ถ้าต้องการความตื่นเต้นของเส้นเว้าเส้นโค้งต้องเดินมาที่คอนโซลหน้าของ X- TRAIL HYBRIDE ถึงจะเน้นการตกแต่งด้วยโทนสีดำ แต่ก็ไล่เฉดสีอ่อนแข็งให้มีความ แตกต่างของอารมณ์ได้บ้าง แถบคาดของวัสดุตกแต่งและวัสดุกระจุกกระจิกสีเมทัลลิก มีอยู่ในระดับที่พอดี โดดเด่นที่หน้าจอแสดงผลตรงกลางและที่แผงหน้าปัด ใช้งานได้อย่างสะดวกและ ในรุ่นนี้มีปุ่มหมุนเลื่อนเลือกระบบขับเคลื่อนในจุดที่ใช้งานได้ง่ายตรงด้านล่างของคันเกียร์ อัตโนมัติเช่นเดียวกับในรุ่น 4WD เครื่องยนต์ธรรมดา
CR-V ไม่เคยยอมแพ้ใครในเรื่องของการออกแบบตกแต่งอยู่แล้ว เส้นเว้าเส้นโค้งที่อ่อนไหวในบริเวณคอนโซลหน้า มีคอนเซ็ปต์การตกแต่งที่ทำให้มันดูหรูหรา การเล่นระดับและวัสดุตกแต่งที่เข้ากัน กับชุดพวงมาลัย หน้าจอและคันเกียร์ ความลงตัวมันจึงยังคงมีอยู่เสมอ แถมให้ NAVIGATOR มาด้วย
CX-5 ออกตัวมาด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ของค่ายที่เรียกการพัฒนานั้นว่า SKYACTIV ด้วยคุณสมบัตินั้นทำให้การขับเคลื่อนของตัวรถ แสดงออกมาอย่างกระฉับกระเฉง ถึงจะเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินบล็อก 2,000 ซี.ซี.ก็ตาม แต่แรงบิดที่ออกมา ตามรอบเครื่องยนต์ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจากน้ำหนักชิ้นส่วนประกอบ เครื่องยนต์ที่เบา การใช้ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงยิงตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ยิ่งช่วยให้การ กำหนดระยะเวลาการจุดระเบิดเป็นไปด้วยความแม่นยำ
CR-V ขยับความจุเครื่องยนต์ของตัวเองไว้ที่บล็อก 2,400 ซี.ซี. กับระบบเทคโนโลยี i-VTEC ซึ่งมีใช้อยู่ในหลายรุ่นของค่าย แต่เล่นกับระบบส่งกำลังที่เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ช่วยส่งเสริมการเรียงแรงบิดออกไปสู่พื้นอย่างราบลื่น และในต้นกำลังของทั้งสี่รุ่นมีความ เหมือนที่แตกต่างกันอยู่ในสองคู่
ฝั่งของ CAPTIVA เป็นตัวรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล มาเป็น ตัวแทนในการทดสอบคราวนี้ บล็อก 2,000 ซี.ซี. กับแรงบิดมากถึง 400 นิวตัน-เมตร ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบของการใช้งานด้วยเทคโนโลยีดีเซลปัจจุบันและอนาคต
X-TRAIL HYBRIDE ตัวเครื่องยนต์พื้นฐานแบบเบนซิน บล็อก 2,000 ซี.ซี. ที่ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้การส่งถ่ายกำลังด้วยเกียร์ X-TRONIC CVT ผ่านระบบคลัทช์สองชุดซึ่งจะควบคุมการทำงานของต้นกำลังทั้งสองให้สัมพันธ์กัน เรื่องเทคโนโลยีเครื่องยนต์ระบบขับเคลื่อน คงไม่มีใครเกินหน้า X-TRAIL HYBRIDE ในพื้นที่นี้ตัวเครื่องยนต์นอกจากจะเป็นต้นกำลังในการขับเคลื่อน ซึ่งให้สมรรถนะที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องเป็นจุดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งาน ในเรื่องของการจัดวางจะเห็นว่าตัวเครื่องยนต์ซึ่งถือเป็นชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักมากที่สุดในรถยนต์นั้นจะอยู่ระดับต่ำเพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงเหมาะสม อันส่งผลต่อการขับขี่และบังคับควบคุม
การใช้งานจริงเทคโนโลยีในแต่ละรุ่นจะมีการตอบสนองที่เหมาะสมในแบบของมัน เป็นตัวของตัวเอง การขับขี่ที่ต้องการความต่อเนื่องในรุ่นที่ใช้เกียร์แบบ CVT ซึ่งไม่แตกต่างทางด้านความรู้สึกมากไปกว่าเกียร์อัตโนมัติทั่วไปที่พัฒนาขึ้นมา ส่วนเรื่องอัตราทดที่หลากหลายนั่นก็คือข้อได้เปรียบของมัน
เมื่อจัดอยู่ในกลุ่ม SUV ทุกรุ่นย่อมที่จะมีสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่โดดเด่น ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ รวมไปถึงการออกแบบระบบถ่ายทอดกำลัง มันไม่ใช่รถที่ใช้ขับแบบทั่วไปใช้งานได้เท่านั้น เมื่อต้องการให้มันแสดงความจัดจ้าน มันก็พร้อม
Honda CR-V เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ความจุ 2.4 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ
Nissan X-Trail Hybrid เครื่องยนต์และชุดส่งกำลัง เครื่องเบนซิน 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเรคอินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที (รองรับน้ำมัน E20) ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 179 แรงม้า
CAPTIVA เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ทำงานเงียบตอบสนองรวดเร็วและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
CX-5 เครื่องยนต์เบนซิน SKYACYIV-G 2.0L ให้กำลังสูงสุดถึง 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ
ตารางข้อมูลอัตราสิ้นเปลือง…
CHEVROLET CAPTIVA…11.37 Km/L
HONDA CR-V…13.22 Km/L
MAZDA CX-5…14.85 Km/L
NISSAN X-TRAIL HYBRIDE…10.29 Km/L
ความเร็วเดินทาง
CHEVROLET CAPTIVA…120 Km/h @ 2,400 rpm
HONDA CR-V…120 Km/h @ 2,100 rpm
MAZDA CX-5…120 Km/h @ 2,100 rpm
NISSAN X-TRAIL HYBRIDE…120 Km/h @ 2,100 rpm
รูปทรงและชนิดของตัวถังรถแบบที่ใช้โครงสร้างแบบชิ้นเดียวขึ้นรูป Monocoque จะมีจุดเด่นทางด้านการทรงตัว การกระจายน้ำหนักยึดเกาะถนน CX-5 , CAPTIVA ได้เปรียบที่จุดนั้น แต่ CR-V และ XTRAIL HYBRIDE มีการใช้ความแข็งแกร่งของโครงสร้างหลักมาเป็นตัวชูโรง พวงมาลัยของทุกรุ่นมีการตอบสนองที่แม่นยำ จะแตกต่างตรงน้ำหนักในย่านความเร็วต่างๆ แต่โดยรวมของการบังคับควบคุมแล้วนั้นทำได้เหมาะสมทุกรุ่น
ทัศนวิสัยคือสิ่งที่รถยนต์ประเภทนี้ได้เปรียบกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป อย่างที่บอกว่าแตกต่างกันตรงเพียงการออกแบบแนวลาดเอียงฝากระโปรง ซึ่ง CR-V จะให้มุมมองที่ตลอดไปจนถึงด้านหน้ารถ CAPTIVA มีระบบช่วยเตือนยามมีวัตถุเข้ามาในช่วงมุมอับด้านหลัง บริเวณกระจกด้านข้างเป็นไฟกระพริบ เทคโนโลยีอย่างที่ SUV ระดับบนมีให้ แถมฟังก์ชั่นทันสมัยการบอกสถานะของลมยางซึ่ง CX-5 ก็มีด้วยเช่นกัน
การควบคุมในเรื่องของการใช้เบรก ชะลอหรือหยุดความเร็วรถ ในทั้งสามรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์ทั่วไปไม่ยากนักสำหรับการใช้งานเบรก แต่การปรับตัวของการใช้งานเบรกในรถ X-TRAIL HYBRIDE คือสิ่งที่ผู้ซึ่งไม่คุ้นเคยจะต้องปรับตัว เพราะแรงเบรกจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติของต้นกำลังแบบทำงานร่วมกัน แต่อย่างที่บอกมันทันสมัยที่สุด OPTION ที่ให้มาก็เพียบพร้อม ไม่น้อยหน้าใครเลยถึงการออกแบบจะดูเรียบง่ายไปสักหน่อยที่ภายนอกแต่ภายในผ่าน
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีมาให้ใน CAPTIVA CR-V และ X-TRAIL HYBRIDE จัดอยู่ในกลุ่มของระบบขับเคลื่อนที่เหมาะกับงานถนนและผิวหน้าลื่นไถลทุรกันดารไม่มาก มันถูกพัฒนามาให้ใช้งานบนจุดประสงค์เพื่อช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัย แก้อาการด้อยของรถขับเคลื่อนสองล้อออกไป แต่ไม่ต้องไปยุ่งยากกับการเลือกใช้งานและเลือกแบบของการส่งกำลัง เพราะมันเป็นแบบอัตโนมัติแปรผันการถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ CAPTIVA , CR-V ส่วน X-TRAIL HYBRIDE มีลูกเล่นการส่งถ่ายกำลังมาให้เลือกแบบการลุยหนักขึ้นมาอีกระดับ แต่มันใช้เพื่อเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน กับสภาวะพื้นที่ไม่โหดมากเท่านั้น ส่วน CX-5 รุ่นที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะเป็นตัวที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล
URBAN-SUV น่าจะเป็นคำจำกัดความของทั้งสี่รุ่นนี้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด เพราะด้วยรูปโฉมและภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัยสะดวกสบาย สมรรถนะเครื่องยนต์ที่ให้การขับเคลื่อน และสิ่งที่มันให้ได้มากกว่านั่นก็คือ “ความมั่นใจ” ในโลกยุคปัจจุบันที่ทุกอย่างรวดเร็ว แต่ความมั่นใจในสวัสดิภาพชีวิตและทรัพย์สินลดน้ออยลงสวนทาง การใช้ยานพาหนะที่มันจะพาคุณไปได้ไกลกว่า และรองรับสไตล์ชีวิตทุกรูปแบบ นั่นแหละคือสิ่งที่รถประเภทนี้ให้ได้
ความคิดเห็นของทีมทดสอบ
ศิปิวรรธ ปานกลาง…กองบรรณาธิการ นิตยสารออฟโรด
ความต้องการที่หลากหลาย สิ่งที่ต้องรองรับการใช้งานอย่างรถยนต์ ต้องทำได้หลายอย่าง แต่จุดเด่นของสมรรถนะตัวรถจากสมรรถเครื่องยนต์ ซึ่งมีการพัฒนาการทำงานอันส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองในการใช้งานจริง มีความเหมาะสมอย่างมาก แม้จะใช้งานในย่านความเร็วที่หลากหลาย ที่สำคัญภาพลักษณ์ของผู้ขับขี่เป็นเรื่องที่ได้มาในทันทีที่เราได้ควบคุมมัน ในการใช้งาน
กิตติศักดิ์ ด้วงพิมพ์…หัวหน้ากองบรรณาธิการ นิตยสารกรังด์ปรีซ์
กลุ่มรถอเนกประสงค์กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะคุณสมบัติของตัวรถมันคุ้มค่าและใช้งานได้จริง เมื่อแยกแยะออกมาจากประเภทรถกลุ่มอื่น การควบคุม การขับขี่ถือเป็นความโดดเด่นที่สุดในทุกรุ่นที่นำเอามาทดสอบในครั้งนี้ ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีแล้วถ้ามันได้ใช้งานจริง จะสำคัญที่สุด และต้องใช้เป็นอย่างถูกต้อง นั่นแหละคือความเหมาะสมจาก SUV
ณัฐพล เดชสิงห์…กองบรรณาธิการเว็บไซค์ GPI NEWS
ถ้าไม่มองถึงเรื่องของการบำรุงรักษาที่มากกว่า รถในกลุ่มนี้ที่นำมาทดสอบ คือรถที่คนรุ่นใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตระดับหนึ่งมองหา มันมีภาพลักษณ์ที่อยู่ในอีกขั้น อีกระดับ ฟังก์ชั่นการใช้งานคือสิ่งที่ผมชอบ มันตอบรับกับไลฟ์สไตล์ชีวิตได้อย่างมากเลยทีเดียว
พัชพล นราแย้ม…ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ นิตยสารกรังด์ปรีซ์
ศิลปะ คือ ความงาม ในการออกแบบรถยนต์ในกลุ่ม SUV เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่มีความเป็นตัวตนที่สูง เอกลักษณ์ของแต่ละค่ายถูกใส่มาอย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่ง โฉบเฉี่ยว แต่แฝงไว้ด้วยสมรรถนะ นั่นยิ่งทำให้ความงามบนเรือนร่างรถประเภทนี้ ตรงใจของผู้ใช้งานและผู้ที่ชอบความแปลกใหม่อย่างผมได้ไม่ยาก
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ ในนิตยสารออฟโรด ฉบับที่ 252 เดือนเมษายน
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.