9 กลุ่มโรคที่ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด
การเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน นอกจากกรณีเมาแล้วขับแล้ว ปัญหาด้านสุขภาพบางอย่างอาจส่งผลต่อความสามารถในการขับขี่ และทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จากการสืบค้นข้อมูลพบว่า โรคและปัญหาสุขภาพที่มีผลกระทบต่อสมรรถภาพการขับขี่ และอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ มีดังนี้
1.โรคที่เกี่ยวกับสายตา ต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม ทำให้ขับรถในเวลากลางคืนแล้วมองไม่ชัด ส่วนคนเป็นต้อหินทำให้มุมสายตาแคบลง มองเห็นภาพส่วนรอบได้ไม่ดี และมองเห็นแสงไฟบอกทาง หรือไฟหน้ารถพร่าได้
2.โรคทางสมองที่ยังเป็นไม่มาก มีอาการหลงลืม ขับรถหลงทางในบางครั้ง การตัดสินใจช้าและสมาธิไม่ดี
3.โรคหลอดเลือดสมอง ทำให้แขนขาไม่มีแรงขับรถ เหยียบคันเร่ง เหยียบเบรกหรือเปลี่ยนเกียร์ บางคนมีอาการเกร็งจนขากระตุกเวลาเหยียบคันเร่งหรือเบรก บางคนประสานงานแขนกับขาไม่ดี หรือสมองสั่งให้แขนขาทำงานไม่ได้ดีเหมือนเดิม ความไวของการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ลดลง
4.โรคพาร์กินสัน มีอาการแข็งเกร็ง มือสั่น เท้าสั่น ทำอะไรช้าลง ทำให้ขับรถได้ไม่ดี
5.โรคลมชัก เมื่อมีอาการชักจะเกร็ง และกระตุกไม่รู้สึกตัว
6.โรคไขข้อ ข้อเสื่อม ข้ออักเสบต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อการขับรถ เช่น ข้อเข่าเสื่อม ทำให้เหยียบเบรกได้ไม่เต็มที่ ข้อเท้าอักเสบปวดจากโรคเก๊าต์ ทำให้ขยับลำบาก โรคกระดูกคอเสื่อม ทำให้ปวดคอ เอี้ยวคอดูการจราจรได้ลำบากหรือมีอาการปวดหลังจากกระดูกหลังเสื่อมทำให้นั่งขับรถได้ไม่นาน
7.โรคหัวใจ อาจมีอาการแน่นหน้าอก เมื่อขับรถนานๆ เครียดจากรถติด
8.โรคเบาหวาน ทำให้มีอาการ หน้ามืด ใจสั่น สมาธิไม่ดี ตาพร่า ถ้าน้ำตาลในเลือดต่ำลง
9.การกินยา ซึ่งบางคนกินยาหลายชนิด บางชนิดมีผลทำให้ง่วงซึม หรือง่วงนอน มึนงง สับสนได้เวลาขับรถ และทำให้การตัดสินใจ สมาธิ และความรวดเร็วในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ไม่ดี โดยหลังกินยาแล้วควรพักผ่อนหรือวานให้คนข้างๆช่วยขับจะมีความปลอดภัยมากกว่า
ปัจจุบันกฎหมายกำหนดโรคต้องห้ามในการขับขี่รถยนต์เพียงแค่ 1.ไม่เป็นโรคติดต่อเป็นที่รังเกียจ 2. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต และ 3.ไม่ติดสุรา ยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือว่าไม่เพียงพอ และไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถและไม่สามารถป้องกันภัยในการขับรถ
สำหรับประชาชนทั่วไปการให้ความรู้ เรื่องโรคมีผลต่อสมรรถนะการขับขี่ ต้องระมัดระวังและให้หลีกเลี่ยงต่อการขับขี่ยานพาหนะ ดื่มสุรา และง่วง ไม่ขับขี่ยานพาหนะ รวมถึงประเด็นผู้สูงอายุ การเสื่อมสภาพของอวัยวะของร่างกายและโรคประจำตัวที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งก็มีผลต่อการขับขี่ยานพาหนะของผู้ขับขี่ได้เช่นกัน
แหล่งข้อมูลจาก : กรมควมคุมโรค
ภาพ : www
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.