Mercedes-AMG นำเสนอ GLE 53 และ GLE 63 S Edition 55s มีให้เลือกทั้งแบบมาตรฐานและแบบคูเป้ โดยรุ่นพิเศษมาพร้อมกับสีดำ Obsidian Black Metallic และสีขาว Manufaktur Diamond White Metallic พร้อมล้อฟอร์จพื้นผิวสีเทาด้านขนาด 22 นิ้ว ภายนอกเสริมด้วยลายกราฟิก AMG และเพิ่มความพรีเมียมกับโลโก้สีเงินโครเมียมยิงเลเซอร์ “Edition 55” บนก้านพวงมาลัยและฝาปิดช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมตัวอักษร AMG
นอกจากนี้ Mercedes-AMG GLE ยังมาพร้อมกับ AMG Night Package ซึ่งเพิ่มกรอบหน้าต่างสีดำมันวาวและฝาครอบกระจกข้างที่เข้าชุดกัน ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ ท่อไอเสียโครเมียมสีดำและกระจกหลังกันความร้อน
เจ้าของรถยังสัมผัสความพิเศษภายในห้องโดยสารด้วยเบาะหนัง Nappa สีแดง-ดำ และเพิ่มความสปอร์ตด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ตามส่วนต่างๆ และตราสัญลักษณ์ AMG แบบนูนบนที่พักแขนบนคอนโซลกลาง พวงมาลัย AMG Performance “Edition 55” รวมถึงแผ่นขอบประตูสแตนเลส AMG เรืองแสงสีแดง และรุ่นนี้มีพรมปูพื้น AMG สีดำเดินตะเข็บสีแดงและตัวอักษร “Edition 55”
ใต้ฝากระโปรง GLE 53 และ GLE 53 Coupe ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร 6 ลูกสูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 429 แรงม้า (320 กิโลวัตต์ / 435 PS) และแรงบิดสูงสุด 521 นิวตันเมตร พ่วงด้วยระบบ EQ Boost พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถให้กำลังเพิ่มในช่วงเวลาสั้นๆ อีก 21 แรงม้า และแรงบิด 249 นิวตันเมตร ซึ่งช่วยทำความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 5.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.
ส่วนวนรุ่น GLE 63 S และ GLE 63 S Coupe ใส่ขุมพลัง V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 603 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 849 นิวตันเมตร ยังมีระบบ EQ Boost ทำความเร็ว 0-96 กม. / ชม. ในเวลา 3.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 280 กม./ ชม.
สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา แต่ละรุ่นจะผลิตจำนวนจำกัดที่ 55 คันเท่านั้น และแต่ละรุ่นจะมาพร้อมกับผ้าคลุมรถ AMG ที่ออกแบบเป็นพิเศษ
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.