Mazda เปิดตัว 2023 CX-50 ใหม่ล่าสุด พร้อมเข้าร่วมกลุ่มรถเอสยูวีที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันจะมีขนาดใกล้เคียงกับ CX-5 และมีการออกแบบที่ดูสมบุกสมบัน นับว่าเป็นความพยายามของแบรนด์ญี่ปุ่นในการที่อยากจะให้รถสามารถลุยในเส้นทางออฟโรด แต่ก็ไม่เสียสมรรถนะบนทางดำมากเกินไป
CX-50 มีกำหนดสร้างที่โรงงานใหม่ของ Mazda และ Toyota ในเมืองฮันต์สวิลล์ รัฐแอละแบมา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มการผลิตในต้นปี 2022 และเข้าสู่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายในปี 2023
CX-50 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 ลูกสูบ มีตัวเลือกของเครื่องยนต์ดังกล่าวในรูปแบบดูดอากาศด้วยตัวเอง (N/A) หรือเทอร์โบชาร์จ และทางค่ายสัญญาว่าจะแนะนำตัวเลือกไฮบริดเพิ่มเติมให้หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน
- สำหรับเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.5 ลิตร แบบดูดอากาศด้วยตัวเอง ให้กำลังสูงสุด 187 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร
- ส่วนเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.5 Turbo แบบเทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 434 นิวตันเมตร
Dave Coleman ผู้จัดการฝ่ายอากาศพลศาสตร์ของ Mazda ในอเมริกาเหนือ กล่าวว่า บริษัทไม่ต้องการเจาะลึกเรื่องเทคโนโลยีออฟโรดเมื่อออกแบบรถใหม่ เพราะการใช้งานส่วนใหญ่จะอยู่บนทางดำหลายร้อยกิโลเมตรซะมากกว่า และการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด มากสุดก็เพียง 15-30 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ทางบริษัทเองก็ให้ความสนใจความสามารถในการขับขี่บนทางดำ เพื่อออกแบบรถที่ขับได้อย่างที่คาดหวังไม่ว่าพื้นผิวถนนจะเป็นอย่างไร
“โหมด Mi-Drive ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีไดนามิกในการขับขี่เหมือนกันในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งมันเป็นเงื่อนไขที่แตกต่างกันมาก จนเราจำเป็นต้องมีการปรับแต่งให้บรรลุสิ่งเดียวกัน”
Mazda ได้นำเสนอเทคโนโลยี i-Activ All-Wheel Drive และ Intelligent Drive Select เป็นมาตรฐานสำหรับรถเอสยูวี และยังนำเสนออุปกรณ์มาตรฐานนี้ใน CX-50 เพื่อเพิ่มความสามารถในการลากจูง ทำให้สามารถบังคับทิศทางของตัวรถได้เหมือนกับที่ไม่มีรถพ่วงและป้องกันการส่ายของรถพ่วง ด้วยระบบ AWD ที่เต็มไปด้วยแรงบิด ทำให้มีความเสถียรภาพในการขับขี่มากขึ้น
CX-50 ยังมีความสูงในการขับขี่เพิ่มขึ้นเพื่อขีดความสามารถบนเส้นทางธุรกันดารที่มากขึ้น เสริมรางหลังคาที่มีความแข็งแรงสูง เพื่อช่วยให้บรรทุกสิ่งของได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันยังมีหลังคาแบบแบบพาโนรามาใหม่ ช่วยให้มองเห็นดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน
การตกแต่งภายในของ CX-50 คอนโซลฝั่งคนขับได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อและเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่ ภาพถ่ายภายในห้องโดยสารเผยให้เห็นการตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นหนังและวัสดุระดับพรีเมียมมากมายที่จะช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบาย
แม้ว่า CX-50 จะถูกสร้างขึ้นในโรงงานเดียวกันกับ Toyota Corolla Cross แต่ Mazda กล่าวว่ารถยนต์ที่ออกมาจากด้านโรงงานนั้นไม่ได้ใช้พื้นฐานใดๆ ของ Toyota เลย
“แพลตฟอร์มและส่วนประกอบหลักของรถแต่ละคันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้ง Toyota และ Mazda มีหน้าที่ในการจัดหาและจัดซื้อชิ้นส่วน/ส่วนประกอบของตนเอง แต่มีการใช้วัสดุบางอย่างร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการร่วมทุน” โฆษกของ Mazda กล่าว
คาดว่าราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม จะถูกเปิดเผยใกล้ช่วงวันเปิดตัวของ CX-50 ในปลายปีหน้า
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.