แม้ว่ารถครอสโอเวอร์และเอสยูวี มักจะขายตัวเองว่าแข็งแกร่งและมีดีในเส้นทางออฟโรด แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่าจริงๆ แล้วพวกมันมีความสามารถมากกว่ารถที่ใช้กันอยู่มากแค่ไหน?
Honda ตัดสินใจใช้รถยนต์เอสยูวีรุ่น Passport เข้าร่วมการแข่งขันออฟโรดและเพื่อพิสูจน์ความแกร่งของโมเดล ทางทีมงานไม่ได้ปรับปรุงระบบขับเคลื่อนหรือระบบกันสะเทือนเลยแม้แต่น้อย
สำหรับนักขับทดสอยจะเป็น Chris Sladek วิศวกรทดสอบระบบกันสะเทือนที่ทำงานใน Ohio North American Auto Development Center ของ Honda และ Gabriel Nieves วิศวกรออกแบบแชสซีส์ โดยพวกเขานำ Honda Passport เข้าสู่การแข่งขันที่ Lake Superior Performance Rally เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แม้ว่า Honda Passport จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ระบบกันสะเทือนยังทางทีมงานไม่ได้แตะหรือดัดแปลงเลย ในขณะที่เครื่องยนต์และระบบเกียร์ไม่ได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะแต่อย่างใด
Honda Passport ที่ใช้ในการแข่งขันติดตั้งเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์แบบแพดเดิลชิพท์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อล้วนเป็นของเดิมทั้งหมด เครื่องยนต์ NA ตัวนี้ให้กำลัง 280 แรงม้า และแรงบิด 355 นิวตันเมตร
ตัวรถมีการปรับปรุงชิ้นส่วนบางอย่างเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ระบบส่งกำลังได้รับการปรับแต่งให้สามารถการระบายความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ ในขณะที่อ่างน้ำมันใต้ท้องรถเป็นแบบอะลูมิเนียมสั่งทำพิเศษ ขนาด 1/8 นิ้ว และติดตั้งแผ่นกันแคร้งเฟืองท้าย ส่วนเบรกถูกอัพเกรดด้วยผ้าเบรกของ Carbotech XP12
ภายในห้องโดยสารตกแต่งให้ใช้งานในการแข่งขันแรลลี่โดยเฉพาะและได้เพิ่มโรลบาร์ ถังดับเพลิง คอมพิวเตอร์สำหรับการแข่งขันแรลลี่ และระบบสื่อสารในรถยนต์ ฝั่งคนขับและคนผู้ช่วยครขับเสริมด้วยเบาะรถแข่ง OMP ที่มีสายรัดแบบ 6 จุด
ส่วนตัวล้อแรลลี่เป็นของ BRAID Winrace T ขนาด 7.5 × 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Maxxis RAZR M/T หรือ RAZR A/T (265/70-R17) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทาง
สำหรับผลการแข่งขัน Honda Passport ได้อันดับที่ 22 จาก 42 คัน โดยทางทีมงานหวังว่าจะทำผลงานได้ดีขึ้นในฤดูกาลหน้า “เราพร้อมที่จะแข่งขันร่วมกับ Honda Passport โมเดลปี 2022 ที่ทนทาน และมันเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” Gabriel Nieves วิศวกรและผู้ขับขี่ของ Honda กล่าว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.