2021 Jeep Grand Cherokee L เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 1.15 ล้านบาท
2021 Jeep Grand Cherokee L เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่แล้วและตอนนี้มีรายงานว่ารุ่นนี้จะเริ่มต้นที่ 38,490 ดอลลาร์ หรือราว 1,150,000 บาท
สิ่งที่น่าสนใจคือในรุ่นระดับเริ่มต้นมาพร้อมกับไฟหน้าแบบ LED และล้ออะลูมิเนียมขนาด 18 นิ้ว เมื่อเข้ามาในห้องโดยสารผู้ขับจะพบแผงหน้าจอแสดงผล ขนาด 10.25 นิ้ว และระบบให้ความบันเทิง ขนาด 8.4 นิ้ว รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับพวงมาลัยหุ้มหนัง เบาะนั่งคนขับแบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งแถวที่สามแบบพับด้วยมือ ไฮไลท์อื่นๆ ได้แก่ ระบบเสียงลำโพง 6 ตัว ระบบปลดล็อกประตูเมื่ออยู่ในรัศมีของเซ็นเซอร์ และระบบควบคุมอากาศในห้องโดยสารอัตโนมัติแบบดูอัลโซน
Grand Cherokee L มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลากหลายซึ่งรวมถึงระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบปรับได้, ระบบตัดและเริ่มการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ, ระบบตรวจจับจุดบอด, ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกแบบแอคทีฟ และการตรวจจับคนเดินถนน/นักปั่น ส่วนคุณสมบัติด้านความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ระบบช่วยจอดด้านหลัง, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมระบบช่วยจอดรถ
ตัวรถติดตั้งเครื่องยนต์ Pentastar V6 ขนาด 3.6 ลิตร ให้กำลังสุงสุด 290 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 348 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นมาตรฐาน ส่วนระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นออพชันเสริม
สำหรับในรุ่น Grand Cherokee L Limited มีข้อมูลมาว่าเริ่มต้นที่ 45,490 เหรียญสหรัฐ ประมาณ 1,358,000 บาท มีกระจังหน้าที่คลาสสิก ประตูบานท้ายไฟฟ้า ไฟหน้าไฟสูงอัตโนมัติ มีไฟตัดหมอก LED และระบบรีโมทสตาร์ท
หากใครที่ต้องการความหรูหรามากขึ้นสามารถเลือกซื้อ Grand Cherokee L Overland มูลค่า 56,490 เหรียญสหรัฐ ราวๆ 1,687,000 บาท โดดเด่นด้วยด้านหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ ไฟด้านหน้า LED ระดับพรีเมียมและซันรูฟแบบพาโนรามา ตัวรถตัดด้วยชุดแต่งโครเมียมดูหรูหรา ที่ปัดน้ำฝนมีระบบตรวจจับน้ำฝน ประตูท้ายรถแบบแฮนด์ฟรีและล้ออะลูมิเนียมขนาด 20 นิ้ว
Grand Cherokee L Overland ยังมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลมสามารถปรับได้ ผู้ซื้อยังสามารถเลือกใช้ขุมพลัง HEMI V8 ขนาด 5.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 357 แรงม้า แรงบิดสุงสุด 520 นิวตันเมตร
สำหรับตัวท็อปสุด Grand Cherokee L Summit เปิดราคาเริ่มต้นที่ 60,490 ดอลลาร์ ประมาณ 1,800,000 บาท มีการปรับปรุงภายนอกเล็กน้อยด้วยหลังคาสีดำเงาและเน้นชุดแต่งบางจุดด้วยโครเมียม
ตัวรถมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เพิ่มเติม เช่น ระบบตรวจจับอาการง่วงนอน, การจดจำป้ายจราจร, ระบบช่วยจอดแบบแนวนอน/แนวตั้ง และกล้องมองรอบทิศทาง 360° อย่างไรก็ตามไฮไลท์ที่แท้จริง คือ ระบบช่วยขับขี่แบบแอคทีฟซึ่งเป็นระบบการขับขี่กึ่งอิสระระดับ 2 ที่สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีทุกช่วงความเร็ว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.