พฤติกรรมที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ
การเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่บนท้องถนน เกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ คือความประมาท ซึ่งความประมาทที่เกิดขึ้นส้วนเกิดจากพฤติกรรมที่เรามองว่าไม่สำคัญ หรือคาดไม่ถึงว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นทำให้เราเสียสมาธิในการขับรถ เรามาเตือนสติกันหน่อยดีกว่าว่ามีพฤติกรรมอะไรบ้างที่คุณทำในขณะขับรถแล้วทำให้คุณเสียสมาธิ
- การโทรศัพท์ขณะขับรถ เพิ่มความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ 2-4 เท่า เพราะท าให้ผู้ขับ ขี่เสียสมาธิ ปฏิกิริยาตอบสนองช้าลง การตัดสินใจเหยียบเบรก การบังคับพวงมาลัยเมื่อเกิด เหตุฉุกเฉินช้าลงกว่าปกติ 0.5 วินาที และส่งผลต่อการมองเห็นป้ายสัญลักษณ์ ป้ายจราจร ป้ายบอกทาง แม้จะเห็นป้ายแต่จดจำรายละเอียดไม่ได้
- ขับไปกินไป จากสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ทำให้คนขับรถหรือผู้โดยสาร รับประทานอาหารบนรถเป็นภาพชินตา การขับไปกินไปเป็นพฤติกรรมเสี่ยง เพราะเหลือมือ จับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะไม่สามารถหักหลบหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้ทัน เพราะปฏิกิริยาตอบสนองในการขับขี่ช้าลงกว่าปกติ 2 เท่า หากกินอาหารของทอดจะ ทำให้มือเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน หากไปจับพวงมาลัยจะทำให้ลื่นกว่าปกติ ส่งผลให้การ ควบคุมพวงมาลัยลดลง
- การดูโทรทัศน์ขณะขับรถ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากความสว่างของ จอภาพ เสียง รวมถึงเนื้อหาของภาพที่เคลื่อนไหว ทำให้สมาธิในการควบคุมรถลดลง และ ความสนใจต่อเหตุการณ์รอบตัวลดลง แม้คนขับจะไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่เสียงที่ได้ยินก็รบกวน สมาธิ และยังกระตุ้นให้ขับเร็วกว่าปกติอีกด้วย
- การแต่งหน้ำขณะขับรถ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก การแต่งหน้า ทาปาก ระหว่างรถติดสัญญาณไฟ หรือเคลื่อน ตัวช้าๆ จะทำให้สมาธิของผู้ขับขี่จดจ่ออยู่กับกิจกรรม ที่ทำจนลืมไปว่ากำลังขับรถ
- การอุ้มเด็กนั่งตักขับรถ ทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง เนื่องจากเด็กอาจแย่งบังคับ พวงมาลัย จนสมาธิของคนขับไม่อยู่ที่การขับรถ แต่กลับไปสนใจเด็กแทน ส่งผลให้ปฏิกิริยา ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินช้ากว่าปกติ จึงมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- การนำสัตว์เลี้ยงโดยสารรถ สัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่มักไม่นั่งนิ่งอยู่กับที่และมีพฤติกรรมตื่นตกใจ ง่าย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติรอบตัวอาจกระโจนใส่คนขับรถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากต้องนำ สัตว์เลี้ยงขึ้นรถ ควรให้มีคนนั่งไปด้วย เพื่อควบคุมพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง หากเป็นรถกระบะ ควรให้สัตว์เลี้ยงอยู่ท้ายกระบะรถโดยผูกเชือกหรือล่ามโซ่ยึดไว้กับรถ
- การอ่านป้ายโฆษณาต่างๆ ริมถนน หลายท่านอาจคิดไม่ถึงว่าป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ริมถนน จะเป็นปัญหาต่อการขับขี่ของตนเอง แต่ความจริงแล้วป้ายเหล่านี้อาจทำให้ท่านตกอยู่ใน ความเสี่ยงได้ เพราะคนขับรถหลายคนเสียสมาธิจากการมองป้ายหรืออ่านป้ายโฆษณาเหล่านี้ ในขณะที่รถก็กำลังวิ่งอยู่ ลองคิดดูว่า ถ้าท่านขับรถด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. และละ สายตาไปมองป้ายหรืออ่านป้าย 2 วินาที รถของคุณจะวิ่งไปเท่าไหร่ อย่าลืมว่าใน 2 วินาทีที่ คุณมองป้ายนั้นคุณไม่ได้มองถนนเลย ที่แย่ไปกว่านั้นคือป้ายโฆษณาที่ติดไฟระยิบระยับ เพราะมันยิ่งดึงดูดความสนใจของคนขับรถได้มากโดยเฉพาะในตอนกลางคืน การปฏิบัติกับผู้โดยสารเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิอย่างหนึ่งที่ปรากฏในรายงานบ่อยๆ ผู้โดยสารที่อายุน้อยสามารถที่จะเป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของผู้ขับขี่ซึ่งนำไปสู่การเสียสมาธิขณะขับรถได้อย่าง เป็นมาก โดยเฉพาะกับผู้ขับขี่ที่อายุยังน้อยและมีประสบการณ์ในการขับรถน้อย การจัดการดูแลเด็กหรือทารก ย่อมต้องการการเอาใจใส่เป็นพิเศษ นักวิจัยพบว่าเด็กทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิขณะขับรถมากเป็น 4 เท่าและทารก เป็น 8 เท่าของผู้ใหญ่ จากการเก็บข้อมูลทางการศึกษาพบว่าผู้ขับขี่ถึงร้อยละ 84 ต่างเห็นว่าการเสียสมาธิขณะขับขี่รถยนต์ เป็นปัญหาใหญ่ และกว่าครึ่งของผู้ขับขี่เหล่านี้ยอมรับว่าคุยโทรศัพท์ขณะขับขี่รถยนต์ และร้อยละ 14 ยอมรับ ว่าตัวเองเคยได้อ่านและพิมพ์ข้อความขณะขับรถ คิดดูว่าอะไรบ้างที่ทำให้คุณเสียสมาธิขณะขับขี่รถยนต์ และ คุณได้ท าอะไรบ้างขณะที่ขับรถแล้วคุณไม่ต้องการเห็นคนอื่นทำเรามาลด ละ เลิก พฤติกรรมเหล่านี้กัน
- ห้ามแตะต้องอุปกรณ์ ปรับเบาะที่นั่ง ตัวควบคุมอุณหภูมิห้องโดยสาร ระบบเครื่องเสียง และอื่นๆ ก่อนออกรถหรือ ในขณะที่รถจอดอยู่ การที่คุณรู้ว่าตัวควบคุมแต่ละอันอยู่ที่ไหน ท างานอย่างไร เมื่อคุณจำเป็นต้องปรับขณะขับ จะช่วยให้คุณเสียสมาธิน้อยลง ให้ปรับคลื่นวิทยุและตัวควบคุมอุณหภูมิก่อนหรือให้ผู้โดยสารช่วยปรับให้
- ห้ามกินหรือดื่ม คนที่ขับรถเข้าร้านแบบซื้ออาหารผ่านหน้าต่าง หรือคนที่ชอบถือถ้วยอาหารใบใหญ่ๆ มี แนวโน้มที่จะกินอาหารขณะขับรถแต่คุณจะปลอดภัยกว่าหากคุณหยุดรถแล้วกินหรือดื่ม หากคุณหลีกเลี่ยงการ กินอาหารขณะขับรถไม่ได้ อย่างน้อยให้กินอาหารที่กินง่ายไม่ยุ่งยาก ลดความเสี่ยงของคุณเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่ เวลาที่คุณใช้ไป เช่นเดียวกันกับการสูบบุหรี่ขณะขับรถก็ทำให้เสียสมาธิ
- จอดรถในที่ปลอดภัยเพื่อคุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความหรืออีเมล์ โทรศัพท์มือถือเป็นอะไรที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขอความช่วยเหลือหรือรายงาน เมื่อเราอยู่ในสภาวะที่แย่ แต่เมื่อคุณใช้โทรศัพท์แบบยกหูคุย ซึ่งบางครั้งมันสามารถทำให้คุณเสียสมาธิทางกาย ได้ หรือแม้แต่แบบไม่ใช้มือยกหูหรือแฮนด์ฟรีก็ตามคุณก็จะเสียสมาธิทางจิตไปจากถนนได้เช่นกัน วิธีที่ดีที่สุด คือจอดรถในที่ปลอดภัยก่อนที่คุณจะคุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความหรือท่องอินเตอร์เน็ต (โปรดระวัง เพราะการ จอดรถบนถนนอาจเป็นอันตรายได้ ให้หาที่ปลอดภัยห่างจากการจราจร)
- วางแผนล่วงหน้ำ ศึกษาแผนที่และตรวจสอบสภาพการจราจรก่อนออกเดินทาง เพื่อที่คุณจะได้เตรียมความ พร้อมก่อนออกเดินทาง หากเป็นไปได้ ให้ผู้โดยสารเป็นคนนำทางหรือเนวิเกเตอร์หรือผู้ช่วยคุณ บอกจุดหมาย ปลายทางของคุณก่อนออกเดินทาง
- อย่าทำกิจกรรมหลายอย่างในขณะขับรถ การขับรถก็เป็นอะไรที่ยุ่งยากพอแล้ว คุณจะเสียสมาธิได้หากคุณท าอย่างอื่นไปพร้อมๆ กับ การขับรถ อย่าใช้กระจกในรถเป็นกระจกสำหรับแต่งหน้าหรือเสริมสวยในขณะที่รถกำลังวิ่ง พยายามอย่าอ่าน หรือเขียนในขณะขับรถ ให้ขับเพียงอย่างเดียว
- จอดรถหากต้องการดูแลเด็กๆ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหารแล้วเอาเขานั่งในเบาะสำหรับเด็ก คาดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อนที่จะ ออกรถ หากคุณต้องการที่จะดูแลเด็กๆ ขณะที่คุณขับรถให้จอดรถในที่ปลอดภัยก่อน อย่าพยายามทำในขณะที่ รถวิ่งอยู่ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.