เตรียมพร้อมก่อนและหลังลุยเส้นทางโคลน…

         ช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูฝนอันเป็นการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวป่าหน้าฝนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าความสวยงามของผืนป่าและธรรมชาติในช่วงหน้าฝน ยังเป็นสิ่งที่ชวนให้เข้าไปค้นหา แต่สิ่งที่มาหลังจากที่ฝนตกก็คือการเกิดขึ้นของอุปสรรคอย่างโคลน และทุกคนย่อมรู้ดีว่าถ้ารถไม่พร้อมการเดินทางในช่วงนี้ก็คงอาจจะเกิดความเสียหาย และเพื่อให้ไปให้ถึงกลับให้ได้ต้องเตรียมก่อนและหลังการเดินทางเพื่อลุยเส้นทางโคลนจะเป็นการดีไม่น้อย…

การเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงหน้าฝน ทุกส่วนของรถนั้นแทบจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมสำหรับการใช้งานเพราะนอกจากอุปสรรคที่ต้องเจอแน่นอนอยู่แล้วในเส้นทางออฟโรด การเจอกับอุปสรรคโคลนก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำความลำบากให้กับการเดินทาง เพราะนอกจากโคลนจะทำให้รถต้องใช้แรงขับเคลื่อนที่มากแต่เหมาะสมกับลักษณะเส้นทางแล้ว แรงยึดเหนี่ยวและการปนเปื้อนของมันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการทำงานของระบบชิ้นส่วนต่างๆ ในรถออฟโรดได้

ก่อนที่เราจะนำรถออกเดินทางซึ่งเรารู้และทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าในช่วงฤดูกาลนี้เป็นอย่างไร การตรวจเช็คความพร้อมก่อนเดินทางซึ่งโดยทั่วไประบบที่ต้องทำการตรวจเช็คก็คือส่วนที่เป็นหัวใจหลักก่อน โดยที่เราต้องเจาะจงไปที่อุปกรณ์ที่มีการทำมาใช้เฉพาะสำหรับรถที่ต้องลุยโคลน ภายนอกตั้งแต่ล้อและยางและระดับของตัวรถที่ทำการยกสุงมาว่ามันสัมพันธืกัน พร้อมสำหรับการใช้งานหรือไม่

ระดับของการยกตัวรถสูงซึ่งนอกจากจะช่วยให้มีระยะใต้ท้องที่เพิ่มขึ้นแล้ว ระยะช่องว่างของล้อและยางกับบังโคลนซุ้มล้อเองก็สำคัญสำหรับยามที่ต้องลุยดินโคลนเพราะตัวของดินโคลนที่ติดล้อติดยางจะเข้ามาอัดตัวในบริเวณนี้ ถ้าระยะของช่องว่างมีน้อยเกินไปก็อาจจะเกิดการขัดตัวได้ทั้งการหมุนและการหักบังคับเลี้ยว ซึ่งถ้าเป็นสิ่งที่เหมาะสมก็ต้องชุดยางที่เป็นแบบ MUD TERRAIN โดยที่เราก็ต้องดูสภาพของยางว่าเป็นอย่างไร การปริแตกหรือดอกยางสึกหรอเกินไปหรือผิดลักษณะอันไม่สมควรวางใจใช้งานก็ควรจัดการซะ

นอกจากอุปกรณ์อย่างยางสำหรับเส้นทางออฟโรด ลุยดินโคลนซึ่งจะมีดอกใหญ่ช่วยการจิกยึดเกาะพื้นผิวอ่อนนุ่มได้ดีอย่างในทางโคลนแล้วมันก็ยังช่วยสลัดดินโคลนออกไปได้โดยง่ายด้วย รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ต้องมีเอาไว้ช่วยเหลือตัวเองอย่างวินช์ ก็ต้องตรวจสอบการทำงานการบังคับควบคุมว่าเป็นปกติ รวมไปถึงการเตรียมอุปกรณ์ขอลาก ห่วงล็อกต่างๆ ถุงมือที่เอาไว้สำหรับใช้งานให้พร้อม เมื่ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการใช้งานพร้อม ก็ต้องจัดการตรวจสอบชิ้นส่วนและระบบหลักของรถยนต์

ตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ของเหลว ข้อต่อต่างๆ ความแน่นหนา การส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อนสี่ล้อทำงานได้อย่างปกติ ถ้ามีชุดเฟืองท้ายล็อกก็ต้องดูการทำงานเพราะตรงนี้ถือว่าสำคัญจะช่วยให้เดินทางผ่านพื้นที่อ่อนนุ่มและลื่นไถลอย่างดินโคลนได้อย่างมั่นใจ

การตรวจสอบระบบส่งกำลังนี้ควรทำควบคู่ไปกับระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่างโดยรวมเพราะมันต้องทำงานร่วมกันซึ่งนั่นจะทำให้ตัวรถมีความพร้อมถ้าเราตรวจพบหรืออยากจะเปลี่ยนในจุดไหนก่อนที่จะเดินทางก็จะเป็นการดี

เมื่อรถพร้อมแล้วการที่จะเดินทางผ่านอุปสรรคทางดินโคลนไปได้ก็ต้องมีเทคนิคในการขับขี่เข้ามาเป็นส่วนประกอบ สำหรับบางคนที่ไม่เน้นทักษะก็ใช้กำลังของเครื่องยนต์พารถให้เคลื่อนที่ผ่านไป แต่ถ้าเรารู้เทคนิคไว้บ้างก็น่าจะช่วยให้ตัวรถและเครื่องยนต์ทำงานเหมาะสมไม่หนักเกินไปไม่เสี่ยงเกิดความเสียหายต่อตัวรถด้วย

การขับขี่ผ่านเส้นทางโคลน ความน่ากลัวของมันนอกจากแรงดึงดูดที่มากขึ้นซึ่งมันเอาชนะได้ด้วยแรงบิดของเครื่องยนต์ในรอบของการใช้ WALKING SPEED (4L) ซึ่งสามารถออกแบบการขับขี่ได้อย่างเหมาะสมในการควบคุม การเตรียมระดับลมยางที่อ่อนลงเมื่อต้องลุยโคลนเพื่อเพิ่มผิวหน้าสัมผัสของยางช่วยในการตะกุยพื้นผิว ซึ่งเราก็ช่วยให้ยางจิกพื้นได้มากขึ้นด้วยการขยับพวงมาลัยไปมาและอาจจะเพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้เหมาะสมขึ้นด้วยการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2(4L) เมื่อรู้สึกว่ารถหนืดหรือขับเคลื่อนไปได้ช้าลงหรือคาดว่าจะติดในเส้นทางนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นเทคนิคง่ายๆ ในการขับผ่านทางดินโคลน แต่ถ้าติดจริงอย่าได้ฝืนกำลังควรจะใช้วินช์ดึงขึ้นจะเหมาะสมกว่า รถไม่บอบช้ำเพื่อเดินทางต่อไปได้ เพื่อให้ถึงจุดหมายอย่างสมบูรณ์ปลอดภัยทั้งรถทั้งคน

เมื่อสิ้นสุดการเดินทาง การดูแลบำรุงรักษาในทุกส่วนเช่นเดียวกับการออกจากป่าเหมือนเช่นเคยแต่ควรใส่ใจล้างทำความสะอาด ดินโคลนที่ติดอยู่ตามตัวรถออกให้ไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ในห้องเครื่องยนต์เพราะจะมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ในอนาคตที่ต้องเดินทางหรือใช้งานอีกครั้ง…