อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรม “ช่วยพิทักษ์รถได้จริง หรือแค่ประวิงเวลาให้นานขึ้น !!!”

T17_resize-300x199ดูเหมือนว่าความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น จะไม่ได้มีส่วนช่วยจรรโลงสังคมและจริยธรรมของผู้คนให้งอกงามขึ้นตามไปด้วยเลย เพราะที่ผ่ห้วงเวลาที่บริษัทรถยนต์ต่างทยอยกันออกมาเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ สู่ท้องตลาดคราวใด สิ่งที่เดินไล่หลังมาเป็นเงาตามตัวคู่ขนานไปพร้อมๆ กับยอดขาย ก็เห็นจะหนีไม่พ้นปัญหาในเรื่องของ “รถหายหรือถูกโจรกรรม” ที่ดูจะเป็นปัญหาที่แก้ได้ไม่มีวันจบตราบใดที่คำว่า “มิจฉาชีพ” ยังมีที่ยืนอยู่ในสารบบของสังคมไทย

 

กับปัญหาในเรื่องของรถยนต์สูญหายที่เกิดขึ้นอยู่ในทุกๆ วันนี้ ได้กลายเป็นเรื่องที่สร้างความหนักอกหนักใจให้กับผู้ใช้รถทุกคน และยังรวมไปถึงผู้ที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามอย่างตำรวจ กับหน้าเสื่อที่กำลังจะกลายเป็นหนังหน้าไฟเข้าไปทุกขณะ เพราะจากการเปิดเผยสถิติที่ผ่านมาจาก ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อว่า “ศปจร.น.” ได้ออกมาเปิดเผยสถิติตัวเลขของคดีรถยนต์ที่สูญหายในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2554 ถึงเดือนมีนาคม 2555 มียอดการรับแจ้งรถหายมากถึง 892 คดี ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก

T2_resize

วิธีการใช้ลวดที่สามารถดัดเป็นรูปทรงต่างๆ ได้ สอดเข้าไปภายในขอบยางระหว่างช่องกระจกเพื่อดึงตัวล็อกประตูขึ้น

เพราะจากจำนวนตัวเลขที่เห็นอยู่นั้น ขอบอกว่าเป็นเพียงแค่ยอดรวมเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่สถิติรวมของทั้งประเทศ ถ้าหากนับรวมกันทั้งประเทศคงมิแคล้วที่จะขึ้นหลักพันอย่างแน่นอน และข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ จาก 892 คดีที่เกิดขึ้น มีการจับกุมและปิดเคสได้เพียงแค่ 131 คดีเท่านั้น

T3_resize

วิธีการฉีดน้ำกรดเข้ารูกุญแจได้ผลจนต้องชะงักงัน

โดยสถิติรถยนต์ที่สูญหายมากที่สุด หากแยกตามประเภทแล้ว พบว่าตำแหน่งแชมป์ที่ถูกตาโจรมากที่สุดในประเภทของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ได้แก่ TOYOTA VIOS ส่วน แชมป์ยอดหาย” ในรถกระบะตกเป็นของ TOYOTA Hilux Vigo และ ISUZU D–Max คว้าแชมป์ไปครองร่วมกัน

ซึ่งด้วยตัวเลขของรถยนต์สูญหายที่มากมายขนาดนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมสำหรับรถยนต์ ต่างได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ เพราะทุกยี่ห้อต่างขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยการเป็นที่พึ่งทางใจให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของรถทุกคน และทุกคนต่างก็เชื่อมั่นว่า อย่างน้อยเขาก็มีที่พึ่งยามที่ต้องจอดรถทิ้งไว้เพียงลำพัง

แต่ทว่าคำถามที่ตามมา ถ้าหากลองคิดในมุมกลับกัน ผสมผสานด้วยแนวความคิดแบบขวางโลกอีกสักหน่อยว่า ถ้าเรามั่นใจว่าอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมสำหรับรถยนต์ดีจริง แล้วอุปกรณ์ป้องกันขโมยมีกี่แบบ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบไหนเหมาะสมกับรถเรา หรืออุปกรณ์เหล่านั้นจะใช้ได้ผล 100% จะดีกว่ากัน แน่นอนว่าทุกอย่างจึงกลายมาเป็นปัญหาที่ต้องการทราบคำตอบว่า

แท้ที่จริงแล้วอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมสำหรับรถยนต์

สามารถป้องกันได้ 100หรือไม่?

 อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมสำหรับรถยนต์ที่เห็นวางขายอยู่ในบ้านเรานั้น มีมากมายหลากหลายประเภท สามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจและกำลังทรัพย์ที่พร้อมจะจ่าย แต่ถ้าหากจะให้แบ่งย่อยประเภทของอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมในแบบหยาบๆ ตามลักษณะกลไกของการทำงานแล้ว จะพบว่ามีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ประเภท คือ

T4_resize

“เหล็กปีกเครื่องบิน” อุปกรณ์ในตำนานโจรกรรมรถยนต์

ประเภทที่ 1 อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมแบบอัตโนมัติหรือวงจรไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในกลไกการทำงาน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น อาทิ กุญแจรีโมท สัญญาณกันขโมย เซ็นเซอร์ สวิตช์ตัดน้ำมัน ตัดไฟ ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ มีการเชื่อมต่อกับศูนย์ข้อมูลและระบบดาวเทียม GPS แล้วด้วย โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะมีโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นชิปและแผงวงจรเป็นเสียส่วนใหญ่

IMG_3640

การทำลายรูกุญแจ สามารถทำได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 นาที

ประเภทที่ 2 อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมแบบกลไก (Manual) เป็นอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ที่มีโครงสร้างเป็นแบบพื้นฐานมากที่สุด เพราะทุกขั้นตอนในการล็อกและปลดล็อก ผู้ขับขี่จะต้องดำเนินการด้วยมือตนเองทั้งหมด อุปกรณ์ประเภทนี้ได้แก่ ชุดล็อกเกียร์ ล็อกพวงลัย ล็อกคลัตช์ ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดจะเป็นไปในรูปแบบของ Hardware ที่ทำจากเหล็กกล้าหรือวัสดุที่มีความทนทานสูง

ประเภททที่ 3 อุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมแบบผสมผสาน เป็นชุดอุปกรณ์ป้องกันโจรกรรมที่มีการนำวงจรไฟฟ้าและกลไกการทำงานแบบ Manual ผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ ชุดล็อกพวงมาลัย และล็อกเกียร์ หรือคลัตช์ บางยี่ห้อที่มีการฝังเซ็นเซอร์เข้าไว้ที่อุปกรณ์ เมื่อชุดอุปกรณ์ถูกเจาะหรือทำลาย ตัวเซ็นเซอร์จะทำงานโดยเปิดเสียงสัญญาณเตือนทันที

T6_resize

การรื้อและทำลายวงจรต่างๆ ภายในตัวรถ

อุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ในทั้ง 3 ประเภทตามที่กล่าวมา ดูผิวเผินแล้วก็น่าจะสร้างความอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเอาเข้าจริงแล้ว บางครั้งอุปกรณ์เหล่านี้ก็อาจเป็นได้แค่เพียงเครื่องมือที่ช่วยหน่วงเวลาให้รถโบกมือลาจากความเป็นสมบัติของคุณได้ช้าลงเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

เพราะในความเป็นจริง ถึงแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากสักแค่ไหน แต่ต้องไม่ลืมว่าเหล่าบรรดามิจฉาชีพเหล่านี้ ก็มีการเรียนรู้และพัฒนา (ในทางที่ผิด) ขึ้นไปในระดับสเกลที่เกือบจะเท่าๆ กัน อาจจะช้ากว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่น่าที่จะตามหลังเกินกว่า 3 เดือน มิแตกต่างอะไรจากหนังซูมที่มีขายกันให้เห็นกลาดเกลื่อนอยู่ตามตลาดนัดทั่วประเทศไทย

คนที่คิดค้นเทคโนโลยีมาเพื่อป้องกันการลักขโมย ก็เดินหน้าสร้างและพัฒนางานของตัวเองกันต่อไป ส่วนพวกมิจฉาชีพก็ท่องอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าบอกว่าข้าจะเอาซะอย่าง ยังไงเสียก็ต้องขโมยมาเป็นเจ้าของให้ได้ อุปกรณ์ป้องกันการขโมยเหล่านี้ มันจึงเป็นอะไรที่ท้าทายกับความพยายามของกลุ่มคนนอกกฎหมายเหล่านี้

T7_resize

การต่อสายตรงยังคงเป็นวิธีการที่เหล่ามิจฉาชีพเลือกใช้เป็นอันดับแรก หากจะขโมยรถ

 เริ่มตั้งแต่กลุ่มมิจฉาชีพมือใหม่ ที่งานโจรกรรมยังไม่แกร่งกล้ามากนัก ก็จะเริ่มจากการขโมยรถที่มีระบบป้องกันยังคงเป็นแบบเก่าอยู่ ประเภทที่ว่าเมื่อเจ้าของลงจากรถก็บิดกุญแจ ล็อกเข้าที่เบ้าประตูเป็นอันเสร็จความ ซึ่งโจรมือใหม่เหล่านี้ก็จะเริ่มจากการทุบกระจกรถเป็นรูเล็กๆ ที่ฝั่งคนขับก่อน จากนั้นก็จะเกี่ยวเอาปุ่มล็อกขึ้น แล้วต่อสายตรงเป็นอันเสร็จสิ้นการโจรกรรม และสามารถขับรถออกไปได้อย่างหน้าตาเฉย

ซึ่งถ้าหากคนร้ายมีทักษะการโจรกรรมที่มากขึ้นหน่อย ก็อาจจะใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อเข้าไปภายในตัวรถ โดยที่ไม่ต้องทุบกระจกให้สินค้าเกิดความเสียหาย โดยอาจจะใช้วิธีการนำลวดแข็งที่สามารถดัดให้เป็นรูปทรงได้ นำมาเกี่ยวล็อกประตูขึ้นผ่านทางขอบยางของกระจกรถ หรือบางครั้งก็งัดกระจกหูช้างเข้าไปเลย ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมทำกันมากสำหรับการขโมยรถกระบะแบบแค็บเดียว โดยรถในกลุ่มนี้มักจะมีระบบการล็อกชั้นเดียวที่เป็นมาตรฐานมาจากโรงงานรถยนต์ และไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันขโมยอื่นใดเพิ่มเติมเข้ามาทั้งสิ้น จึงถือได้ว่าเป็นแบบฝึกหัดชั้นดีให้กับเหล่าโจรมือใหม่ได้ลับฝีมือ

T13_resize

การเพิ่มไฟส่องสว่างเข้ามาในชุดล็อกเบรก–คลัตช์ นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกในเวลากลางคืนแล้ว ยังถือเป็นลูกเล่นใหม่ๆ ที่สร้างความแตกต่างให้กับผู้บริโภคเป็นอย่างมาก 

 แต่ถ้าเป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีทักษะหน่อย ก็อาจจะมีกลเม็ดเด็ดพรายมากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้จะเล็งรถที่อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ใหม่มากนัก แต่ในทางเดียวกันก็ไม่เก่าจนเกินไป ซึ่งรถในกลุ่มเหล่านี้นี่เองคือประเภทที่มีการแจ้งหายมากที่สุด และที่สำคัญรถพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยเพิ่มเติมแล้วด้วย

วิธีการก็มีมากมายหลากหลายกระบวนยุทธ์ เริ่มตั้งแต่ใช้เหล็กแข็งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกุญแจ ที่คนในวงการโจรกรรมเรียกกันว่า เหล็กปีกเครื่องบิน ใช้เสียบทะลวงเข้าไปในรูกุญแจจากนั้นจึงทำการบิดเต็มแรง กลไกของระบบล็อกก็จะเกิดความเสียหายอันเป็นผลมาจากฟันเฟืองภายในถูกทำลาย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถหมุนเพื่อปลดล็อกและเข้าไปสู่ภายในตัวรถได้แล้ว

T11_resize

ชุดล็อกเบรก–คลัตช์ในบางรุ่น มีกลไกป้องกันที่ต้องใช้ล็อกถึง 3 ชั้นเลยทีเดียว

 หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้น้ำกรดที่มีฤทธิ์ทำลายล้างสูง นำมาฉีดเข้าสู่รูกุญแจผ่านไซลิงค์ของเข็มฉีดยา จากนั้นฟันเฟืองและสปริงภายในรูกุญแจก็จะถูกทำลายด้วยการกัดของน้ำกรดจนไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป

ซึ่งทั้ง 2 วิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้เหล็กปีกเครื่องบินหรือการฉีดน้ำกรด สามารถที่จะใช้ได้กับรูกุญแจทุกประเภท ดังนั้นชุดล็อกเกียร์ ล็อกพวงมาลัย ล็อกคลัตช์ ฯลฯ จึงสามารถที่จะถูกทำลายได้เช่นเดียวกันกับตัวล็อกกุญแจที่ประตูรถ การทำลายในทั้ง 2 วิธีที่ว่านี้ มีอัตราเฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 3 นาทีเป็นอย่างต่ำ

สำหรับการล็อกรถด้วยระบบสัญญาณกันขโมยพร้อมด้วยกุญแจรีโมท ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นอุปกรณ์ป้องกันการขโมยในแบบสามัญประจำรถไปเสียแล้ว เพราะเป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จนทำให้ใครหลายต่อหลายคนต่างพากันภูมิใจว่า ระบบนี้มีความปลอดภัยและไม่สามารถที่จะโจรกรรมได้แน่นอน

T12_resize

สำหรับชุดล็อกเบรก-คลัตช์ในบางรุ่นก็มีกลไกอิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่นไฟส่องสว่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

แต่ทว่าความภูมิใจดังกล่าวก็ได้ถูกหักล้างจนหมดสิ้น เพราะจอมโจรวายร้ายได้ใช้วิธีการแก้เกมออกมา 2 รูปแบบ โดยแบบแรกก็คือ การจูนสัญญาณรีโมท ซึ่งคนร้ายจะใช้วิธีการดักซุ่มอยู่ใกล้กันกับบริเวณที่เหยื่อจอดรถ เมื่อเหยื่อจอดและลงจากรถเสร็จเรียบร้อยแล้วในจังหวะที่กำลังจะกดรีโมทเพื่อล็อกรถ คนร้ายก็จะใช้เครื่องมือจับความถี่ของสัญญาณรีโมท จากนั้นนำความถี่ที่ได้มาก็อปปี้ใส่เครื่องส่งสัญญาณรีโมท เพียงแค่นี้ก็สามารถกดยิงสัญญาณเพื่อเปิดประตูรถได้แล้ว

หรืออีกวิธีการหนึ่งในการเอาชนะระบบสัญญาณกันขโมยสามารถที่จะทำได้โดย การช็อต ระบบไฟฟ้าของตัวรถ ซึ่งวิธีการนี้สามารถทำได้โดยง่าย แต่ต้องทำให้ถูกจุดและมีความแม่นยำด้วย โดยทั้ง 2 รูปแบบใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

รถยนต์รุ่นใหม่ กับระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์

ก็มีสิทธิ์เจอดีได้เช่นกัน

 

บริษัทรถยนต์ค่ายต่างๆ ทราบเป็นอย่างดีว่า ปัญหาการโจรกรรมรถยนต์เป็นเรื่องที่สร้างภาพในมุมลบให้ตกกระทบต่อสายการผลิตรถยนต์ในรุ่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นที่มีการสูญหายมากที่สุดนั้น แน่นอนว่าความนิยมในหมู่โจรไม่ได้ช่วยสร้างอำนาจและฐานการตลาดให้เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใดเลย เพราะผู้คนโดยทั่วไปจะมองและรุมวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า รถยี่ห้อนี้ในรุ่นนี้ที่หายบ่อย คงมีสาเหตุมาจากระบบป้องกันการโจรกรรมที่ไม่ได้เรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากที่จะซื้อรถยนต์ที่จอดปุ๊บหายปั๊บเหลือไว้เพียงกุญแจให้ผ่อนต่ออย่างแน่นอน

T8_resize

กุญแจอิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) เทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะกลายเป็นต้นแบบของรถในอนาคต

ด้วยเหตุนี้รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาในช่วง 2-3 ปีหลังสุด จึงได้รับการพัฒนาในส่วนของระบบป้องกันการโจรกรรมไปมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ โดยรถรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบป้องกันการโจรกรรมด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็นกล่องควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และระบบอื่นๆ ภายในตัวรถ เมื่อบิดกุญแจหรือกดปุ่มเพื่อสตาร์ทเครื่อง หากระบบคอมพิวเตอร์ตรวจสอบพบความผิดปกติเกิดขึ้น ระบบก็จะสั่งการให้ระงับการสตาร์ทเครื่องยนต์โดยทันที ดังนั้นพวกมิจฉาชีพที่ชื่นชอบการต่อสายตรง รักการช็อตวงจรไฟฟ้า หลงใหลการจูนความถี่ของรีโมทรถยนต์มาก็อบปี้ คงต้องหยุดทำมาหากินกันไปอีกนาน

มิหนำซ้ำในตอนนี้ค่ายรถยนต์ต่างๆ เริ่มที่จะหันมาใช้กุญแจรถยนต์ที่เรียกกันว่าระบบ อิมโมบิไลเซอร์ (Immobilizer) ที่มีการฝังโค้ด ID รหัสลับไว้ที่ตัวกุญแจและระบบคอมพิวเตอร์ภายในตัวรถ ซึ่งทั้ง 2 จุดจะมีการเชื่อมต่อรหัสระหว่างกันเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ารหัสตรงกันรถก็สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์และวิ่งออกไปได้ แต่ถ้าไม่ใช่ต่อให้ตายยังไงก็ไม่ติด จึงเป็นการช่วยป้องกันการปลอมกุญแจและพวกโจรที่ชอบการต่อสายตรงเป็นชีวิตจิตใจ

ในส่วนของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์เป็นการเฉพาะ ก็มีการพัฒนาไปไกลมิแพ้กัน โดยอุปกรณ์บางรุ่นได้รับการผลิตขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีพิเศษ จนบางบริษัทถึงกับกล้าการันตีเลยด้วยซ้ำว่าอุปกรณ์ของตนสามารถป้องกันการโจรกรรมในทุกรูปแบบได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะกระบวนการล็อกและกุญแจแต่ละดอกนั้นได้รับการสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะแตกต่างกันออกไปในแต่ละชุด

T14_resize

ชุดติดตั้งระบบสัญญาณป้องกันการขโมยสำหรับรถยนต์

โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นบทสรุปที่ดีในการสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ทุกท่าน ที่อย่างน้อยก็ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถเอาชนะกิเลสและความละโมบโลภมากของเหล่าโจรได้

แต่ทว่ากับความเป็นจริง ดูเหมือนจะกลับตาลปัตรอยู่พอสมควร เพราะสมมุติฐานแห่งความอุ่นใจของท่านผู้เป็นเจ้าของรถตัวจริงทุกท่านกำลังจะพังทลายลงไปทันตาเห็น เพราะในเวลานี้เหล่าขุนโจรทั้งหลายสามารถที่จะขโมยรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีทั้งระบบตรวจสอบพร้อมควบคุมการทำงาน และระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ได้แล้ว ซึ่งทั้งนี้กลับมิใช่ด้วยวิธีการทำลายหรือเอาชนะระบบเหมือนที่ผ่านมาแต่อย่างใด แต่กลับกลายมาเป็นการเอาชนะสติ จิตใจ และความต้องการของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง

เพราะถ้าพูดกันตามความเป็นจริง ระบบป้องกันการโจรกรรมที่ใช้กล่องควบคุมพร้อมตรวจสอบระบบต่างๆ ภายในรถ และระบบกุญแจอิมโมบิไลเซอร์ ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือป้องกันการถูกโจรกรรมที่มีประสิทธิภาพสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเวลานี้ การที่จะเอาชนะและขโมยรถที่มีทั้ง 2 ระบบนี้ติดตั้งอยู่ภายในจึงเป็นไปไม่ได้เลย

แต่ที่เราเห็นว่ารถที่ติดตั้งระบบดังกล่าวนี้ยังมีการถูกโจรกรรมอยู่นั้น ก็เป็นเพราะบรรดามิจฉาชีพสามารถที่จะเอาชนะใจบุคคลที่อยู่วงในมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบเหล่านี้ได้ มิใช่เป็นการเอาชนะระบบแต่ประการใดเลย

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดก็คงเปรียบได้กับสุภาษิตไทยที่กล่าวไว้ว่า “เกลือกลายเป็นหนอน” เนื่องจากมีคนในที่มีความรู้และใกล้ชิดกับระบบทำการก๊อปปี้ทั้งตัวกุญแจ รหัสโค้ด จูนสัญญาณ หรือแม้กระทั่งทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้าและคอยดูต้นทาง โดยส่วนใหญ่จะมีลักษณะทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาที่น่าหนักใจมากที่สุด เพราะสุดท้ายต่อให้มีระบบป้องกันการขโมยที่ดีเลิศขนาดไหน แต่ถ้ายังไม่สามารถเอาชนะจิตใจคนได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดยั้งสถิติการโจรกรรมเอาไว้ที่ศูนย์

T16_resize

อุปกรณ์ล็อกเบรก–คลัตช์ ถึงแม้จะมีกลไกการทำงานที่เรียบง่าย แต่ก็ยากต่อการทำลายเหมือนกัน

โดยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของรูปแบบการโจรกรรมรถยนต์ในปัจจุบันนี้เท่านั้น เพราะต้องไม่ลืมว่ายังมีมิจฉาชีพอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างออกไปจากที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ กล่าวง่ายๆ ก็คือ เป็นกลุ่มมิจฉาชีพที่มีรูปแบบการโจรกรรมรถยนต์ในลักษณะ 18 มงกุฎ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้าไปขับรถของบุคคลอื่นที่จอดรอล้างรถอยู่ในปั๊มน้ำมัน การจี้และปล้น รวมไปถึงการหลอกให้ซื้อขายรถยนต์ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ด้วย ซึ่งมิจฉาชีพกลุ่มหลังนี้เปรียบเสมือนกับพวกตลกบริโภคที่ไม่เน้นอุปกรณ์ในการหากินใดๆ ทั้งสิ้น

จึงอาจกล่าวได้กลายๆ ว่า คงไม่มีอุปกรณ์ประเภทใดในโลกนี้ ที่สามารถป้องกันและหยุดยั้งการโจรกรรมรถยนต์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มอย่างแน่นอน วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การระวังป้องกันด้วยตัวของเราเอง ซึ่งทุกครั้งก่อนที่จะจอดรถในสถานที่ใดก็ตาม ให้ตรวจสอบดูในเรื่องความปลอดภัย และต้องไม่เป็นมุมอับ นอกจากนี้ก็ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ในรถเอาไว้ให้มิดชิด ก่อนออกไปทำธุระให้หมั่นตรวจเช็กการล็อกประตูในทุกๆ ด้าน รวมไปถึงกระจกทุกๆ บานต้องปิดสนิทด้วย เพียงเท่านี้รถของคุณก็จะมีความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

หากรถของท่านสูญหายสามารถแจ้งมาได้ที่ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) สายด่วน 1599 หรือโทร 1800 – 222 – 444 และหมายเลขโทรศัพท์ 0-2354-5162 นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลของรถที่แจ้งหายเพื่อให้มีการดำเนินการสกัดจับได้ที่เว็บไซต์ https://www.lostcar.go.th ซึ่งเป็นเว็บอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวกับเรื่องของรถหายโดยตรง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

Save