ออฟโรดรวมน้ำใจ ช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ภาค 2

By Off Road Magazine Last updated Apr 15, 2020

ดูเหมือนว่าสภาพอากาศบ้านเราจะแปรปวนสุดขีด ทั้งที่ช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว แต่อากาศกับร้อนอบอ้าวสิ้นดี ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ภาคใต้เจอวิกฤติอย่างหนักจากร่องมรสุมขนาดใหญ่ ที่พัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ กับรุนแรงและทวีคูณกว่าทุกๆ ปี จนกลายเป็นมหาอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้หลายพื้นที่กลายเป็นเมืองบาดาลภายในบัดดล บางแห่งโดนซ้ำซากถึง 3 ครั้ง 3 ครา ในห้วงเวลาไม่ถึงเดือน สร้างความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อันเกิดจากความโมโหโกรธาของธรรมชาติ

บนคราบน้ำตาของผู้สูญเสียและประสบภัย คนไทยเราไม่เคยทอดทิ้งกัน มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมเข้าไปให้การช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะที่ได้รับการยกย่องและได้ชื่อว่าผู้ปิดทองหลังพระอย่างชาวออฟโรด ที่สามารถผนึกกำลังเข้าไปช่วยผู้ประสบภัย ตั้งแต่วันแรกต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงวันนี้ โดยไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แม้บางคนจะกลายเป็นผู้ประสบภัยเช่นเดียวกับชาวบ้านคนอื่นๆ แต่หัวใจของความเป็นจิตอาสา พวกเขายอมสละเวลามาเคียงบ่าเคียงไหล่กับพ้องเพื่อนช่วยเหลือชาวบ้านก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากจะต้องสละทรัพย์ส่วนตัวแล้ว ยังรวบรวมสิ่งของเป็นสารถีส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย

ด้านสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทยและนิตยสารออฟโรด ก็มิได้นิ่งนอนใจ นอกจากทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานงานกับชมรมในพื้นที่แล้ว ยังร่วมกับหน่วยงาน พ่อค้า ประชาชนที่มีจิตศรัทรา หาสิ่งของและงบประมาณส่งไปช่วยเหลือในเบื้องต้น ที่ผ่านมาได้จัดส่งเงินจำนวนหนึ่งทั้งจาก สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย, Off Rord Night Party, เงินบริจาคของกลุ่มออฟโรด, ห้างหุ้นส่วนมงคล คาร์เซ็นเตอร์ จ.อุบลราชธานี และหน่วยงานราชการและบริษัทห้างร้านต่างๆ ใน จ.อุบลราชธานี ขณะเดียวกันในส่วนของสนามบ่อดินสามโคก จ.ปทุมธานี ยังมีชาวออฟโรดร่วมบริจาคเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางด้วย

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 16-18 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ทาง ชมรมศรีราชาออฟโรด นำโดย สงกรานต์ ภาชนะ ประธานชมรมศรีราชาฯ ได้รวบรวมสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากหน่วยงานราชการ ห้างร้าน ใน จ.ชลบุรี จับมือกับ สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย, นิตยสารออฟโรด, 44×4 Big Foot Shop, กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม, น้ำมันเครื่อง Excellen, บ.ไทยรุ่ง ยูเนียร์คาร์ฯ, มงคลคาร์ เซ็นเตอร์ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งจากทีมงานออฟโรดจาก จ.ราชบุรี คุณสัจจา อนันตกูล รวบรวมสิ่งของ ถุงยังชีพ ยารักษาโรค ที่ได้รับบริจาค เดินทางไกลไปส่งต่อให้ถึงมือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ด้วยตัวเอง

การเดินทางลงปักษ์ใต้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยครั้งนี้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน โดยเฉพาะแม่งานอย่างศรีราชาออฟโรด จัดหนักนำของบริจาคใส่รถเทรลเลอร์ 22 ล้อ ตามด้วยรถเทรลเลอร์อีกหนึ่งคัน บรรทุกรถ Big Foot ยาง 40 และ 44 นิ้ว ไปอีก 3 คัน ผนึกกำลังกับชมรมออฟโรดเจ้าบ้านแต่ละจังหวัด นำสิ่งของไปมอบให้ถึงมือผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง

ทีมงานทั้งหมดจำนวน 7 คัน ออกเดินทางไปรวมตัวกันที่สถานีตำรวจภูธร อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 16 มกราคม 2560 โดยที่รถของทีมร้อยป่า กรุ๊ปและออฟโรดไทยใจรักษ์แผ่นดิน รวมทั้งรถของบรรณาธิการบริหารนิตยสารออฟโรด สาธิต ยศสง่า เดินทางแจกของล่วงหน้าไปก่อนแล้วที่ อ.ทับสะแก

หลังจากเดินทางมารวมตัวกันครบและนำถุงยังชีพและสิ่งของขึ้นรถแล้ว ก็เดินทางไปร่วมกันส่งมอบให้กับชาวบ้านที่บ้านช่องชี รวมทั้งบ้านหนองหญ้าปล้อง ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมเทือกเขาตะนาวศรี ติดชายแดนเมียนม่าร์ และเป็นจุดรับน้ำแห่งแรกที่ต้องเผชิญกับน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปหลายวัน

หลังเสร็จสิ้นภารกิจในการนำถุงยังชีพและสิ่งของไปมอบให้กับชาวบ้านแล้ว ก็เคลื่อนขบวนไปพักแรมกันที่ จ.ชุมพร โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากเจ้าบ้าน ชมรมชุมพรออฟโรด นำโดย สมพร สุขเกื้อ ประธานชมรมฯเป็นธุระในการอำนวยความสะดวก จัดเตรียมสถานที่พักแรม ร้านอาหาร รวมทั้งที่จอดรถเทรลเลอร์ของทีมงาน

ฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างหนักในช่วงเช้า พร้อมกับข่าวไม่สู้จะดี พยากรณ์อากาศแจ้งเตือนว่าพายุลูกที่ 3 กำลังจะพัดเข้าสู่ประเทศไทยตอนล่าง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการหยุดยั้งความเป็นจิตอาสาของพวกเขาได้ รถเทรลเลอร์ขนของและบรรทุกรถล้อโตล่วงหน้าไปแล้วเมื่อเช้าตรู่ ขณะที่ขบวนก็ขับฝ่าสายฝนที่ตกหนักบ้างเบาบ้าง จนกระทั่งมาถึงยังจุดรวมพลที่โคออฟหรือสหกรณ์สุราษฎร์ธานี โดยมีเพื่อนๆ ออฟโรดเจ้าบ้านสุราษฎร์ธานีมารวมตัวรอรับอยู่แล้วกว่า 10 คัน เพื่อช่วยกันขนสิ่งของต่างๆ กระจายขึ้นรถเข้าพื้นที่เป้าหมาย และโชคดีที่ฝนหยุดตกพอดีและก็ขมุกขมัวไปด้วยเมฆฝนเช่นเคย

จุดหมายในการนำสิ่งของไปให้ในวันนี้อยู่ในเขต อ.พุนพิน ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำของ จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้งบางส่วนจากนครศรีธรรมราช และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยมากที่สุด โดยเฉพาะซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาน้ำจืด จ.สุราษฎร์ธานี ที่ปริมาณน้ำยังค่อนข้างสูง บางจุดน้ำลึกจนมิดยางขนาด 44 นิ้ว จนต้องถอยหลังย้อนกลับออกมาทางเดิม ประกอบกับยิ่งลึกมีชาวบ้านอาศัยอยู่ไม่กี่หลัง

เสร็จภารกิจก็ตั้งขบวนต่อไปยัง อ.ทุ่งสง ซึ่งทางนายกหัตถชัย เมืองจีน แห่งตำบลหนองหงส์ ได้ช่วยประสานงานจัดเตรียมที่พักเอาไว้ให้ โดยที่ฝนยังตกโปรยปรายลงมาตลอด

เช้าวันพุธที่ 18 มกราคม 2560 หรือวันที่สามของการเดินทาง วันนี้ทางคณะของเราได้ผนึกกำลังกับ Gazzy 4×4 จาก จ.สุราษฎร์ธานี รวมทั้งชมรม Boomerang Off Road Trang และทีมงานของเพาเวอร์เรดนครศรีธรรมราช รวมแล้วเกือบ 20 คัน ขนถ่ายของจากรถเทรลเลอร์เดินทางไปมอบถุงยังชีพและน้ำดื่มให้กับ อ.เฉลิมพระเกียรติ โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจาก วิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

จากนั้นเดินทางฝ่าสายน้ำไปมอบของต่อที่ อ.ชะอวด อีก 2-3 จุด โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.ควนเคร็ง ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนัก จากนั้นก็เดินทางย้อนกลับมายัง อ.ทุ่งสง และทำการส่งมอบสิ่งของอาทิ น้ำดื่ม บะหมี่สำเร็จรูป ยารักษาโรค ข้าวสาร ปลากระป๋องฯลฯ ที่ยังเหลือในรถเทรลเลอร์อีกราว 10 คันรถกระบะ ส่งมอบไม้ต่อให้กับ Boomerang Off Road Trang และเพาเวอร์เรดนครศรีธรรมราช ช่วยสานต่อเจตนารมย์ในการนำไปมอบในพื้นที่ที่เดือดร้อนต่อไป

จากนั้นคณะ ออฟโรดรวมใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ ก็เดินทางย้อนกลับมายัง จ.ชุมพร และมอบเงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับ สมพร สุขเกื้อ ประธานชมรมชุมพรออฟโรด นำไปสมทบจัดซื้อของเยียวยาผู้ประสบภัยในเขตชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นการจบทริป ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้อย่างสมบูรณ์แบบ

และทั้งหมดนี่คือ เรื่องราวการเดินทางฝ่าสายน้ำและสายฝนตลอด 3 คืน 4 วันของเหล่าออฟโรดจิตอาสาผู้ปิดทองหลังพระ ในครั้งนี้