วางแผนก่อนเดินทางไกล

การวางแผนการขับรถเดินทางไกล เพื่อท่องเที่ยว หรือทำธุระส่วนตัว ย่อมเป็นสิ่งที่ดี นอกจากเราจะต้องเตรียมพาหนะคู่กายให้พร้อมแล้ว การเตรียมตัวของสุขภาพร่างกายย่อมเป็นสิ่งสำคัญ เรียกได้ว่าทุกระยะกิโลเมตร หลังจากที่รถเคลื่อนตัว ความพร้อมของร่างกายที่ดี ย่อมนำพาท่านไปถึงจุดหมายได้อย่างมั่นคง

การนอนพักผ่อนก่อนออกเดินทางย่อมเป็นสิ่งสำคัญ อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าวันละ 6 ชั่วโมง โดยการวางแผนการเดินทาง อาทิ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ ระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร น่าจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 7-8 ชั่วโมง ในอัตราความเร็วเฉลี่ย 80-100 กม./ชม. แน่นอนความเหนื่อยล้าโดยต้องนั่งอยู่หลังพวงมาลัยเป็นระยะเวลายาวนานย่อมเกิดขึ้นบ้าง โดยเราควรวางแผนกำหนดเส้นทาง จุดพัก โดยเฉลี่ย 2 ชม. หรือ 200 กิโลเมตร โดยประมาณ อาทิ จ.นครสวรรค์, จ.ตาก, จ.ลำปาง โดยจุดพักสุดท้ายน่าจะเป็นแถว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีศูนย์บริการน้ำมันขนาดใหญ่ ไว้ให้บริการมากมาย

การจอดรถตามจุดพักดังกล่าว เพื่อเป็นการผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่ ทำให้ความเหนื่อยล้าน้อยลง หลังจากที่ต้องคอยจดจ้องมองทางด้านหน้า ผสมผสานไปกับมองกระจกด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งหากขับรถในเวลาที่แดดจัดควรใช้แว่นกันแดดเพื่อลดปริมาณแสงที่อาจทำให้ม่านตาทำงานหนักได้ ซึ่งการปรับระยะ และความสูงของพวงมาลัยเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งต้องเข้าใจว่าในขณะขับต้องทิ้งน้ำหนักแขนส่วนหนึ่งไว้ที่พวงมาลัย ไม่เกร็งแขน และไหล่ตลอด ซึ่งการเกร็ง และยกแขนนี้อาจทำให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้ยากกว่าที่ควรจะเป็น

สำหรับอาการปวดเมื่อยหลังเกิดขึ้นได้เนื่องจากท่านั่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกสันหลัง มีแรงกดมากกว่าท่าอื่นๆ แม้ว่าจะมีเบาะพนักพิงก็ตาม แต่หลังที่อยู่ในลักษณะโค้งงอ ย่อมส่งผลต่อแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลัง โดยมีแรงกดด้านหน้าหมอนรองกระดูกมากกว่าด้านหลัง หมอนรองกระดูกจึงมีแนวโน้มที่จะปลิ้นไปทางด้านหลัง และอาจเกิดปัญหาของหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทได้ เอ็นและกล้ามเนื้อที่อยู่ด้านหลังจะถูกยืดมากกว่าเมื่อหลังอยู่ในท่าตรง
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำเมื่อพักรถคือ ค่อยๆ ลงจากรถ ไม่ลุกแบบพรวดพราด และก่อนจะลุกขึ้นควรทำการยืดตัวและแอ่นหลังก่อน แล้วค่อยลุกขึ้น เหตุที่ให้ทำเช่นนี้เพราะว่าเอ็นที่อยู่ด้านหลังเมื่อนั่งนานๆ จะล้า ขาดความยืดหยุ่นตัว และถ้าก้มบิดตัว หรือใช้งานหลังหนักๆ (เช่น การยกของหนัก) การก้มขณะที่จะลุกจากรถ อาจมีผลต่อการเคลื่อนหรือพลิกตัวของหมอนรองกระดูกสันหลังได้
สิ่งที่จะต้องทำที่สุดคือ การหยุดพักบ่อยๆ ตามที่เราได้ทำการวางแผนเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ ล้างหน้าล้างตา และเมื่อถึงที่หมายแล้ว ควรทำการนอนยกขาสูง โดยการนอนราบกับพื้นแล้วทำการยกขาแบบงอเข่าเล็กน้อยพาดกับเก้าอี้หรือโซฟา เพื่อให้เลือดไหล และน้ำเหลืองไหลกลับได้ง่ายขึ้น และทำให้หลังได้พักตัวลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหลังได้

เรื่องโดย กองบรรณาธิการนิตยสารออฟโรด