ลุยเดี่ยวเที่ยวสองดอย ดอยบ่อ-บ้านปางขอน

 

ปลายเดือนกันยายนนั้นถือว่าเป็นช่วงฤดูฝนเต็มๆ ดังนั้นตามยอดดอยสูงของภาคเหนือต่างๆ จึงมักร้างไร้นักท่องเที่ยวสัญจร เพราะไม่ค่อยมีใครอุตริขับรถออฟโรดขึ้นไปเที่ยวกันสักเท่าไร ยิ่งเป็นรถสแตนดาร์ด ยางเดิมๆ ยิ่งแล้วกันไปใหญ่ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าทางดอย ในช่วงหน้าฝนค่อนข้างลื่นไม่เอาใครจริงๆ แถมสองข้างทางล้วนแต่เต็มไปด้วยหุบแหว พลาดท่าเมื่อไรมีโอกาสลงไปนอนวัดพื้นที่ก้นเหว ยกเว้น เปลี่ยนเป็นยางมีบั้งแบบ Mud Terrian หรือมีโซ่พันล้อสักชุด อย่างนั้นก็พออุ่นใจขึ้นมาบ้าง

กระนั้นในวันฟ้าฉ่ำฝนเช่นนี้ ด้วยหน้าที่และภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในการเดินทางขึ้นไปสำรวจเส้นทางตามดอยต่างๆ ของ จ.เชียงราย แม้ว่าหลายๆ ดอย โดยใช้กระบะพันธุ์แกร่ง Toyota Hilux Revo เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร 177 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (DAC) ระบบ A-TRC ป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC มีระบบล็อคเฟืองท้าย (Diff-Lock) ที่จะช่วยให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ในระดับหนึ่ง แถมยังมีผู้นำทางอย่างประธานชมรม 4×4 เชียงราย แอ็ดเวนเจอร์ คลับ ที่มักคุ้นกันมายาวนานกว่า 15 ปี อย่าง ฐานพัทธ์ สุรัตตะนันทกุล ทำหน้าที่เป็นสารถีและนำทาง ทำให้พออุ่นใจได้บ้างว่า คงไม่ต้องไปกินข้างลิงบนดอยแน่ๆ

เราวางเป้าหมายในการสำรวจเส้นทาง เพื่อทำกิจกรรมแนว Advanture เอาไว้ทั้งหมด 3-4 ดอย ภายในระยะเวลา 2-3 วันนี้ (เท่าที่ดินฟ้า อากาศจะเอื้ออำนวย) เนื่องจากแต่ละดอยตั้งอยู่ในรัศมีราวๆ 30-50 กม. ถือว่าไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงรายมากนัก

เป้าหมายแรกก็คือ ดอยบ่อ ที่ตั้งอยู่ใน ต.แม่ยาว อ. เมือง จ.เชียงราย ซึ่งดอยบ่อนั้นเป็นที่ตั้งโครงการพระราชดำริดอยบ่อ ในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวเขา ให้ได้รับการเรียนรู้เกษตรแผนใหม่ จุดเด่นของดอยบ่อ คือ เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามใกล้ตัวเมืองเชียงรายเพียง 30 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น

ทางขึ้นดอยบ่อนั้น สามารถขึ้นได้หลายเส้นทาง แต่ถ้าเป็นทางท่องเที่ยวหลักๆ ก็มักจะขึ้นทางบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำกกฝั่งซ้าย ใน ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ซึ่งหมู่บ้านกระเหรี่ยงแห่งนี้เป็นหมู่บ้านขี่ช้างเที่ยวชมหมู่บ้านชาวเขา ระยะทางจากที่นี่ไปถึงที่ตั้งโครงการพระราชดำริฯประมาณ 17 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างลาดชันพอสมควร ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ กันก็คือ ขึ้นทางบ้านยะฟู ซึ่งเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางขึ้นไปกันบ่อย ระยะทางออฟโรดสั้นๆ แค่ 3 ก.ม. ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงจุดชมวิวดอยบ่อ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 945 เมตร จุดชมวิวแห่งนี้มีลานกว้างขวาง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองเชียงรายได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมากางเต็นท์เพื่อสัมผัสบรรยากาศ ช่วงกลางคืนจะเห็นทิวทัศน์ตัวเมืองเชียงรายด้วยแสงไฟระยิบระยับสวยงาม จากจุดนี้ยังมีหมู่บ้านยะฟูซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลาหู่ ห่างจากจุดชมวิวประมาณ 629 เมตร ภายในหมู่บ้านยังมี  Home Stay  ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้พักอาศัยอีกด้วย

จากจุดชมวิวนี้ เดินทางต่อไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะบรรจบกับเส้นทางแรกที่ตั้งของโครงการตามพระราชดำริดอยบ่อ แต่เส้นทางนี้ค่อนข้างจะยากพอสมควร นอกจากเนินเขาจะลาดชันแล้ว ยังเต็มไปด้วยร่องลึกอีกด้วย ทำให้เราได้เพียงเก็บภาพบรรยากาศของจุดชมวิว(ยะฟู) แล้วก็ต้องถอยหลังไปขึ้นทางบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ซึ่งเส้นทางนี้ง่ายกว่า แต่รถที่จะใช้เดินทางขึ้นไปก็ต้องเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อหรือรถออฟโรดเท่านั้น

ระยะทางแค่ 10 กว่ากิโลเมตรบนสันดอย ใช้เวลาเดินทางพอสมควร แถมใกล้ถึงโครงการพระราชดำริ ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ ทำให้มีอยู่ช่วงหนึ่งขาลงเนิน เราเผลอลงเร็วไปหน่อยทำให้รถลื่นไถลลงข้างทาง ถอยหลังก็ไม่ได้ เดินหน้าก็มีโอกาสตกลงเหวข้างทาง สุดท้ายก็ได้ทหารใจดีที่เข้าเวรอยู่ใกล้ๆ โครงการฯ ไปตามรถไถของชาวบ้านมาช่วยลากจึงรอดออกมาได้แบบหวุดหวิดจริงๆ

เส้นทางนี้จะทะลุออกที่บ้านลอบือ และบ้านพนาสวรรค์ สู่ถนนหลักที่ผาขวาง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวและการผจญภัย

ที่หมายต่อไปของเราต่อจากดอยบ่อก็คือ บ้านปางขอน อีกหนึ่งไฮไลท์ของเส้นทางท่องเที่ยวชมทะเลหมอก ดอกพญาเสือโคร่ง และไร่กาแฟอาราปิก้าของเชียงราย และเป็นที่ตั้งของโครงการพระราชดำริเกษตรพื้นที่สูงเช่นเดียวกับดอยบ่อ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวดอยที่มีมนต์เสน่ห์อันท้าทายสำหรับนักนิยมธรรมชาติ ที่เกิดจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2545 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จทอดพระเนตรพื้นที่ป่าอนุรักษ์ดอยเกี๊ยะ ทรงพบว่าเป็นแหล่งต้นน้ำที่ ถูกบุกรุกแผ้วถางป่าเป็นบริเวณกว้าง บางส่วนของพื้นที่มีการปลูกพืชเสพติด จึงได้จัดทําเป็น “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่”  ซึ่งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ จะให้การสนับสนุนการฝึกอบรมศิลปาชีพ และปลูกฝังความรู้เรื่องการเกษตร การอนุรักษ์ธรรมชาติแก่ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมกลมกลืน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแม้ว่าบ้านปางขอนจะถูกพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในย่านนี้ แต่เพื่อความสบายใจพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ก็ควรเป็นรถออฟโรดหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะตั้งแต่จุดแยกจากถนนสายแม่กรณ์ไปยังอบต.ห้วยชมพู หรือสันดอยด้านบนประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นทางขึ้นดอยที่มีความลาดชันสูงมากๆ ไม่มีทางราบให้พักรถเลย แม้ในช่วงหลังจะมีการสร้างเป็นถนนคอนกรีต แต่ตามไหล่ทางก็ยังเต็มไปด้วยร่องที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ กระทั่งเดินทางถึงที่บ้านปางขอนนั่นแหละจึงจะพบกับทางราบบนสันดอย และจากบ้านปางขอนเดินทางต่อไปอีกราว 3 กิโลเมตร ก็จะถึงทางเข้าสู่โครงการพระราชดำริเกษตรพื้นที่สูง เป็นเส้นทางออฟโรดเบาๆ รถขับเคลื่อนสี่ล้อเดิมก็สามารถเดินทางขึ้นไปได้จนถึงบ้านพักและลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นจุดชมวิว 360 องศา ที่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,600 เมตร

 หมู่บ้านปางขอน แห่งนี้เป็นหมู่บ้านอาข่าในพื้นที่ ต.ห้วยชมภู ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆ ชาติพันธุ์ของดอยห้วยชมภูนักท่องเที่ยวที่นิยมไพร ชอบท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมชาติพันธุ์ กึ่งเรียนรู้เกษตรพื้นที่สูง บ้านปางขอนนับเป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดในช่วงฤดูหนาว นอกเหนือจากดอกซากุระที่จะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งขุนเขาในช่วงหน้าหนาว รวมถึงทัศนียภาพอันสวยงามของลูกคลื่นทิวเขาอันสลับซับซ้อน เต็มไปด้วยทะเลหมอกยามเช้าตรู่ ล้วนเป็นสิ่งที่น่าแสวงหาสำหรับนักเดินทางทั้งสิ้น

            ดังนั้นหนาวนี้ใครขึ้นเหนือไปเที่ยวที่เชียงราย เตรียมปักหมุดรอรับลมหนาวกันได้เลย ทั้งดอยบ่อและปางขอน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

กองบรรณาธิการ เรื่อง/จิตรกร ถาวร ภาพ